ภาพถ่ายเปรียบเสมือนบันทึกความทรงจำอันมีค่า แม้กาลเวลาจะผ่านไปแต่เรื่องราวและอารมณ์ความรู้สึกที่ช่างภาพได้ลั่นชัตเตอร์และถ่ายทอดสู่ภาพถ่ายยังไม่เลือนหาย

ไลฟ์สไตล์ไทยรัฐ มีโอกาสได้พูดคุยกับ อาจารย์ตุลย์ หิรัญญลาวัลย์ ในฐานะ Leica Thailand Ambassador ผู้ริเริ่มการจัดนิทรรศการภาพถ่าย “LIFE’S WORTH” บันทึกเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ของพลังความจงรักภักดี ความสามัคคี ความเสียสละ และพลังน้ำใจของจิตอาสา เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร 

แต่ก่อนอื่นนั้น... เราจะขอนำทุกท่านไปรู้จักกับอาจารย์ตุลย์ ศิลปินผู้หลงรักการบันทึกภาพขาวดำกันเสียก่อน

ปัจจุบัน อาจารย์ตุลย์ หิรัญญลาวัลย์ เป็นอาจารย์พิเศษใน 5 สถาบันการศึกษาชั้นนำของประเทศไทย และดำรงตำแหน่งกรรมการบริหารสมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ อาจารย์ตุลย์ เล่าให้เราฟังว่า เขาหลงรักการถ่ายภาพ เนื่องจากว่าเมื่อไรที่เขาจับกล้อง เหมือนกับว่าเขาจะมีอำนาจพิเศษในการหยุดเวลาไว้ในภาพ และสิ่งสำคัญที่ตามมาด้วยคือความทรงจำเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานั้นๆ 

...

"ข้อดีที่สุดของการถ่ายภาพคือ ภาพถ่ายใบนั้นจะมีหน้าที่เหมือน 'ไทม์แมชชีน' พาเราย้อนเวลากลับไปยังวินาทีที่เราได้กดชัตเตอร์ เราจะได้หวนนึกถึงความทรงจำในขณะนั้นไม่ว่าเวลาที่แท้จริงจะผ่านไปกี่สิบปีแล้วก็ตาม"

ภาพที่ดีต้องมาจากกล้องราคาแพง?

ผมมักจะพูดอยู่เสมอว่าการบันทึกความทรงจำ ไม่จำเป็นต้องมาจากกล้องราคาแพง แต่เราก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าสิ่งที่ทำให้กล้องหนึ่งตัวมีราคาแพงนั้นคือ 'คุณภาพ' เหตุผลที่ผมใช้กล้องไลก้ามาตลอด คือ คุณภาพที่มาพร้อมกับตัวกล้อง เพราะผมอยากจะเก็บภาพที่เป็นความจริงที่สุด ไม่ชอบมานั่งรีทัชไฟล์เพื่อบิดเบือนความจริง ผมจึงเลือกที่จะใช้อุปกรณ์ที่สามารถบันทึก 'ความจริง' อย่างที่ผมเห็นได้ 

การสื่อสารระหว่างผมกับคนดูรูป

ผมเรียกงานของตัวเองว่า Fine Art และส่วนมากจะเป็นไปในแนวภาพขาว-ดำ ซึ่งมักจะมีคนถามผมเสมอว่าทำไมต้องเป็นภาพขาวดำด้วย? เพราะว่าตาของมนุษย์ไม่เคยเห็นภาพขาว-ดำ เรามักจะเห็นภาพทุกอย่างเป็นสีเสมอ ดังนั้นภาพขาว-ดำคือศาสตร์และศิลปะที่สมจริงและมีความบิดเบือนน้อยกว่าภาพสี

ในอีกมุมหนึ่ง ภาพขาว-ดำ คือการสื่อสารระหว่างช่างภาพและคนดูภาพ ยกตัวอย่างเช่น ภาพถ่ายแตงโมลูกหนึ่งที่เป็นสีขาว-ดำ คนดูภาพสามารถจินตนาการต่อเอาว่าเปลือกเป็นสีอะไร เนื้อในเป็นสีอะไรโดยที่ผมไม่ต้องพูด แต่เป็นการสื่อสารกันด้วยภาพ

จุดเริ่มต้นของนิทรรศการ “LIFE’S WORTH” 

เมื่อประมาณเดือนเมษายน ปี 2560 ผมก็ไปต่อคิวขึ้นกราบถวายบังคมพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ขณะที่ต่อคิวร่วมกับประชาชนที่หลั่งไหลเข้ามาไม่ขาดสาย ในหัวผมคิดอยู่ตลอดว่าทำไมเราคนไทยถึงไม่รักกัน? ทำไมเราต้องทะเลาะกันให้พระองค์เห็น? เพราะถ้าพระองค์ท่านยังมีพระชนม์ชีพอยู่ พระองค์จะทรงเห็นว่าพวกเราคนไทยรักกันด้วยมีพระองค์ท่านเป็นศูนย์รวมหัวใจของพวกเราทุกคน

แล้วด้วยปกติผมเป็นคนที่พกกล้องถ่ายภาพติดตัวตลอดเวลาอยู่แล้ว จึงเริ่มถ่ายภาพจิตอาสาที่มาช่วยเหลือผู้อื่นโดยไม่หวังผลตอบแทน

ก่อนพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ประมาณ 2 เดือน ผมได้นำไอเดียการจัดนิทรรศการนี้ไปคุยกันในกลุ่มของ ไลก้า ไทยแลนด์ แอมบาสเดอร์ ว่าอยากทำอะไรที่สะท้อนให้เห็นสิ่งที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงทำมาตลอดพระชนม์ชีพ ซึ่งผมระลึกถึงพระราชนิพนธ์แปลเรื่อง “นายอินทร์ผู้ปิดทองหลังพระ” จึงตกลงกันว่าลงพื้นที่เพื่อบันทึกเกี่ยวกับจิตอาสา ร่วมกับไลก้า แอมบาสเดอร์อีก 2 ท่าน ได้แก่ คุณพีรพัฒน์ วิมลรังครัตน์ และ คุณชัชวาล จันทโชติบุตร

...

อาจารย์ตุลย์ หิรัญญลาวัลย์
อาจารย์ตุลย์ หิรัญญลาวัลย์

โลกแห่งความจริงของจิตอาสา

ผมเปลี่ยนจากการลงพื้นที่เพื่อเก็บภาพ เป็นการเข้าร่วมทีมจิตอาสา ไม่ว่าจะเสิร์ฟน้ำ แจกของ หรือเดินบอกทางในบริเวณนั้น โดยพกกล้องตัวเล็กลงเพื่อให้สะดวกมากขึ้น กลายเป็นว่าผมไม่ต้องทำอะไรมากกว่าบันทึกเหตุการณ์จริงๆ อารมณ์จริง บรรยากาศความจริงใจเป็นพลังงานสะท้อนกลับออกมา สิ่งที่เหล่าจิตอาสาทำนั้นยิ่งใหญ่และไม่ได้ต้องการให้ใครมายกยอ พวกเขาทำให้ผมนอนอยู่บ้านไม่ได้ เลิกงานกี่โมงดึกดื่นก็ขอลงพื้นที่ไปบันทึกสิ่งดีงามแบบนี้ไว้ให้ได้มากที่สุด ผมว่ามันงดงาม และปราศจากข้อแม้ สำหรับผมนี่คือสิ่งที่ยืนยันได้ถึงสิ่งที่พระองค์ทรงทำมาตลอดพระชนม์ชีพเป็นอย่างดี

...

ขณะที่ไปเก็บภาพ...ผมไม่เคยเรียกใครให้ยิ้มกับกล้อง บางครั้งที่พวกเขาเห็นผมหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายก็มักจะมีคำถามว่า ถ่ายไปทำไม? ไม่ถ่ายได้ไหม? นั่นเพราะพวกเขาไม่อยากออกสื่อ ไม่อยากตอบคำถามว่าทำไมต้องเหนื่อยขนาดนี้ เนื่องจากพวกเขามากันด้วยความรักที่มีต่อพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 และความรู้สึกเหล่านั้นมันตื้นตันเกินจะเอ่ยออกมาเป็นคำพูด

ขอบคุณภาพ: Praphan Suwannasak
ขอบคุณภาพ: Praphan Suwannasak

7 จาก กว่า 60,000 ภาพที่กดชัตเตอร์

ภาพ 7 ภาพที่ผมเลือกนำมาแสดงในนิทรรศการนี้ เลือกมาจากโมเมนต์ขณะกดชัตเตอร์ ผมทำงานอยู่กับพี่ๆ จิตอาสามาหลายเดือนโดยที่ไม่มีใครรู้เลือกว่าผมทำงานอะไร แล้วจะถ่ายรูปพวกนี้ไปทำไม สิ่งที่ผมทำขณะถ่ายผมคือผมถามพี่ๆ เขาว่า "สำหรับภาพนี้...พี่มีอะไรอยากจะพูดกับคนรุ่นหลัง ที่ไม่ได้เกิดมาใต้ร่มพระบรมโพธิสมภารของพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ไหม?"

ทุกครั้งที่ผมถามคำถามนี้ สิ่งที่ทุกคนทำเหมือนกันคือหยุดสิ่งที่กำลังทำอยู่แล้วหันมาสบตากับกล้องผม พร้อมพูดด้วยความภูมิใจว่าอยากให้เด็กรุ่นใหม่รู้ว่าพระองค์เคยทำอะไรมาบ้าง แล้วอยากให้เด็กๆ เติบโตมาเป็นคนดีของแผ่นดิน แววตาของจิตอาสาทุกคนในขณะนั้นคือสิ่งที่ผมคิดว่ามันจริงที่สุด 

...

ความในใจจากประชาชนคนหนึ่ง

ปัจจุบันผมทำหน้าที่ "ครู" ผมพยายามพัฒนาศักยภาพของคนไทยให้มีความสามารถมากที่สุดเท่าที่ผมจะทำได้ ผมถ่ายทอดศิลปะการถ่ายภาพ...ซึ่งเป็นศาสตร์ที่พระองค์ท่านโปรดปราน แก่คนไทย แก่ประชาชนของพระองค์ ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ผมก็พร้อมจะถ่ายทอดความรู้ทั้งหมดที่ผมมี ทั้งศาสตร์และศิลป์ของการถ่ายภาพให้เกิดประโยชน์สังคมและเยาวชนรุ่นหลังต่อไป ดังที่พระองค์เคยตรัสไว้ว่า

“การถ่ายภาพเป็นงานศิลปะ เป็นของดีมีประโยชน์ ขออย่าได้ถ่ายภาพกันเพื่อความสนุกสนานหรือความสวยงามเท่านั้น จงใช้ภาพให้เกิดคุณค่าแก่สังคมให้เป็นประโยชน์แก่ส่วนรวม งานศิลปะจะได้ช่วยพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้าได้อีกแรงหนึ่ง”

ชมภาพส่วนหนึ่งจากนิทรรศการกันเลย

ภาพ: คุณสมยศ พรชัยรัตนโชติ (ผลงานอาจารย์ตุลย์ หิรัญญลาวัลย์)
ภาพ: คุณสมยศ พรชัยรัตนโชติ (ผลงานอาจารย์ตุลย์ หิรัญญลาวัลย์)

ภาพ: เจ๊ลั้งปากคลอง (ผลงาน อาจารย์ตุลย์ หิรัญญลาวัลย์)
ภาพ: เจ๊ลั้งปากคลอง (ผลงาน อาจารย์ตุลย์ หิรัญญลาวัลย์)

ภาพ: คุณพัฒนกฤช ธีรสถาพร (ผลงาน อาจารย์ตุลย์ หิรัญญลาวัลย์)
ภาพ: คุณพัฒนกฤช ธีรสถาพร (ผลงาน อาจารย์ตุลย์ หิรัญญลาวัลย์)

ภาพ: คุณรัชดา แผ่นทอง (ผลงาน อาจารย์ตุลย์ หิรัญญลาวัลย์)
ภาพ: คุณรัชดา แผ่นทอง (ผลงาน อาจารย์ตุลย์ หิรัญญลาวัลย์)

ภาพ: คุณปิยนันท์ สุมาตรตรา (ผลงาน อาจารย์ตุลย์ หิรัญญลาวัลย์)
ภาพ: คุณปิยนันท์ สุมาตรตรา (ผลงาน อาจารย์ตุลย์ หิรัญญลาวัลย์)

ภาพ:  มอเตอร์ไซค์ 3 ล้อ คุณรังสินี เทอดทรพย์ (ผลงาน อาจารย์ตุลย์ หิรัญญลาวัลย์)
ภาพ: มอเตอร์ไซค์ 3 ล้อ คุณรังสินี เทอดทรพย์ (ผลงาน อาจารย์ตุลย์ หิรัญญลาวัลย์)

ภาพ: เหล่าจิตอาสา (ผลงาน อาจารย์ตุลย์ หิรัญญลาวัลย์)
ภาพ: เหล่าจิตอาสา (ผลงาน อาจารย์ตุลย์ หิรัญญลาวัลย์)

ภาพ: คุณปู นิติภันธ์ (ผลงาน คุณชัชวาล จันทโชติบุตร)
ภาพ: คุณปู นิติภันธ์ (ผลงาน คุณชัชวาล จันทโชติบุตร)

ภาพ: คุณสุริยา (ผลงานคุณชัชวาล จันทโชติบุตร)
ภาพ: คุณสุริยา (ผลงานคุณชัชวาล จันทโชติบุตร)

ภาพ: คุณทองสุข สุดสวาสดิ์ (ผลงาน คุณชัชวาล จันทโชติบุตร)
ภาพ: คุณทองสุข สุดสวาสดิ์ (ผลงาน คุณชัชวาล จันทโชติบุตร)

ภาพ: คุณสมบูรณ์ เทพประสิทธิ์ (ผลงานคุณชัชวาล จันทโชติบุตร)
ภาพ: คุณสมบูรณ์ เทพประสิทธิ์ (ผลงานคุณชัชวาล จันทโชติบุตร)

ภาพ: คุณบุญส่ง วันเสือ (ผลงานคุณพีรพัฒน์ วิมลรังครัตน์)
ภาพ: คุณบุญส่ง วันเสือ (ผลงานคุณพีรพัฒน์ วิมลรังครัตน์)

ภาพ: คุณวัชรี เชาวะนะ (ผลงานคุณพีรพัฒน์ วิมลรังครัตน์)
ภาพ: คุณวัชรี เชาวะนะ (ผลงานคุณพีรพัฒน์ วิมลรังครัตน์)

ภาพ: คุณมณี โพธิ์ไทร (ผลงานคุณชัชวาล จันทโชติบุตร)
ภาพ: คุณมณี โพธิ์ไทร (ผลงานคุณชัชวาล จันทโชติบุตร)

ภาพ: คุณสาโรช ดุลยคง (ผลงานคุณพีรพัฒน์ วิมลรังครัตน์)
ภาพ: คุณสาโรช ดุลยคง (ผลงานคุณพีรพัฒน์ วิมลรังครัตน์)

ภาพ: คุณชัยพร หงษ์ศิลา (ผลงานคุณพีรพัฒน์ วิมลรังครัตน์)
ภาพ: คุณชัยพร หงษ์ศิลา (ผลงานคุณพีรพัฒน์ วิมลรังครัตน์)

ทั้งนี้ นิทรรศการภาพถ่ายบันทึกเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ของพลังความจงรักภักดี ความสามัคคี ความเสียสละ และพลังน้ำใจของจิตอาสา “LIFE’S WORTH” ทั้งหมด 17 ภาพ จากฝีมือการถ่ายภาพของ Leica Thailand Ambassador (ไลก้า ไทยแลนด์ แอมบาสเดอร์) อาจารย์ตุลย์ หิรัญญลาวัลย์ (จำนวน 7 ภาพ), พีรพัฒน์ วิมลรังครัตน์ (จำนวน 4 ภาพ) และ ชัชวาล จันทโชติบุตร (จำนวน 6 ภาพ) เนื่องในโอกาสครบรอบสองปีวันคล้ายวันสวรรคต เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ยังคงจัดอย่างต่อเนื่องตั้งแต่วันนี้ ไปจนถึงสิ้นเดือนตุลาคม 2561 ณ บริเวณหน้า Leica Gallery Bangkok ชั้น 2 ศูนย์การค้าเกษรวิลเลจ