เพจเฟซบุ๊ก “เรารักบ้านฉาง” ประสานบ้านพักเด็กฯ จ.ระยอง รับเด็กชาย ม.2 ที่หนีตายมาอยู่บ้านแม่แท้ๆ อ้างถูกพ่อแท้ๆร่วมกับแม่เลี้ยงทำร้าย สภาพร่างกายน่าเวทนา บาดแผลเต็มตัวไล่ตั้งแต่หัวจรดเท้า
เมื่อวันที่ 14 ต.ค.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มารดาเด็กชาย อายุ 14 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดปทุมธานี ได้โพสต์ข้อความลงในเพจเฟซบุ๊ก “เรารักบ้านฉาง ร่วมด้วยช่วยกัน” เพื่อขอความช่วยเหลือ เนื่องจากบุตรชายถูกพ่อ และแม่เลี้ยงทำร้าย มีบาดแผลเต็มตัว ตั้งแต่ศีรษะ ไปจนถึงเท้าทั้ง 2 ข้าง โดยเฉพาะตามร่างกายมีรอยคล้ายถูกของมีคมทำร้าย และมีบาดแผลทั่วร่างกาย และเมื่อวานที่ผ่านมา บุตรชายทนถูกพ่อแท้ๆ และแม่เลี้ยงทำร้ายร่างกายอย่างทารุณ ไม่ไหวจึงโทรศัพท์หามารดา เพื่อขอความช่วยเหลือ แต่มารดาไม่มีเงินค่ารถยนต์โดยสารไปรับที่จังหวัดปทุมธานี กระทั่งเด็กชายอายุ 14 ปี สบโอกาสที่ พ่อและแม่เลี้ยงไม่อยู่บ้าน จึงหลบหนีด้วยการปั่นจักรยาน 2 ล้อ ออกจากบ้านที่จังหวัดปทุมธานี เพื่อมุ่งหน้าไปหามารดาที่จังหวัดระยอง โดยใช้เวลาปั่นจักรยานจากปทุมธานี 3 ชั่วโมง ไปถึงอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
ทั้งนี้ ภายหลังจากที่นายเปรมศักดิ์ กาญจนกุล แอดมินเพจดังกล่าวได้รับข้อความจากโพสต์ของมารดาเด็กชาย อายุ 14 ปีแล้วนั้น ได้แจ้งมายังผู้สื่อข่าว ประจำจังหวัดระยอง ประสานเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดระยอง มาให้ความช่วยเหลือ และช่วงค่ำที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดระยอง ได้นำเด็กชายรายดังกล่าว ไปพบแพทย์โรงพยาบาลบ้านฉาง เพื่อตรวจร่างกาย และรักษาบาดแผลที่บาดเจ็บ ซึ่งพบว่าตามร่างกายมีบาดแผลถูกทำร้าย ด้วยของแหลมและของมีคมหลายชนิด รวมทั้งถูกธูปจี้ตามร่างกายหลายแห่งด้วย
...
ทั้งนี้เด็กชาย อายุ 14 ปี เปิดเผยว่า ถูกพ่อและแม่เลี้ยง ทำร้ายบ่อยครั้ง จึงปั่นจักรยาน 2 ล้อ ออกจากบ้านที่ปทุมธานี มาที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เพื่อให้มารดามารับกลับไปอยู่ด้วย จนกระทั่งกลางดึกเจ้าตัวได้ค้นหาเฟซบุ๊กใหม่ของผู้เป็นแม่ และพูดคุยกันทางเฟซฯ ตกลงให้มารับที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
ซึ่งผู้เป็นแม่จึงฝากเพื่อนบ้านซึ่งขับขี่รถแท๊กซี่ อยู่ในกรุงเทพ รับบุตรชายมาส่งที่บ้าน และเมื่อเห็นบุตรชายมีบาดแผลเต็มตัวถึงกับตกใจ จากนั้นจึงติดต่อไปที่มูลนิธิปวีณา แต่ติดต่อไม่ได้ จึงนำภาพบุตรชายซึ่งมีบาดแผล โพสต์ลงในเพจเฟซบุ๊ก “เรารักบ้านฉาง ร่วมด้วยช่วยกัน” เพื่อขอความช่วยเหลือจากแอดมิน แต่เนื่องจากตนเองมีฐานะยากจน จึงขอให้เจ้าหน้าที่บ้านพักเด็ก และครอบครัวจังหวัดระยอง ช่วยเหลือและดำเนินคดีกับอดีตสามี พร้อมทั้งแม่เลี้ยงใจร้ายที่ทำร้ายทารุณบุตรชายให้ด้วย.