ตำรวจเลย เตรียมเฮ “บิ๊กหม่อง” พร้อมคืนเงิน เหยื่อ 'สุทิพย์' สัปดาห์หน้าเผยได้ไม่ครบแต่ได้รับทุกคน ด้านบิ๊กโจ๊ก สั่งด่าน ตม.ทั่วไทย จับตา “น.ส.นุช” ผู้ต้องหาคนสำคัญที่ยังคงหลบหนี...

เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 8 ต.ค.2561 ที่ศูนย์รับเรื่องร้องเรียนคดีสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจภูธรจังหวัดเลย กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 จ.ขอนแก่น พล.ต.ท.สุระชัย ควรเดชะคุปต์ ผบช.ภ.4 พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รักษาการ ผบช.สตม. พล.ต.ต.กฤษกร พลีธัญญวงศ์ รอง ผบช.สกบ. (รองผู้บัญชาการสำนักงานส่งกำลังบำรุง) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประชุมร่วมชุดสืบสวนสอบสวนชุดคลี่คลายคดีการทุจริตโครงการรวมหนี้และโครงการบริหารหนี้ของสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจภูธรจังหวัดเลย เพื่อติดตามความคืบหน้าทางคดี 

ก่อนการประชุมนั้น ได้มีข้าราชการตำรวจภูธรจังหวัดเลยที่เป็นผู้เสียหายในคดีดังกล่าวกว่า 100 นาย ได้มารวมตัวกันมาเพื่อมอบดอกไม้ เพื่อขอบคุณและให้กำลังใจคณะทำงานที่ได้มีการดำเนินคดีดังกล่าวมาโดยตลอด จนมีความคืบหน้าทางคดีอย่างมาก ขณะเดียวกันได้มีผู้ที่เกี่ยวข้องในคดีได้นำเงินสดมามอบให้กับ ผบช.ภ.4 และรักษาการ ผบช.สตม. วันนี้รวม 10,520,000 บาท โดยพบว่าเงินดังกล่าวนั้นส่วนใหญ่มาจากข้าราชการตำรวจที่ถูกสั่งย้ายให้ไปช่วยราชการที่ ศปก.ตร.ก่อนหน้านี้ เนื่องจากมีการตรวจสอบเส้นทางการเงินแล้วพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในคดี และมีการโอนเงินของตำรวจไปในบัญชีเงินฝาก โดยมีเจ้าหน้าที่จากธนาคารกรุงไทยและพนักงานสอบสวนในคดีมาตรวจนับเงินสดในจำนวนดังกล่าวทั้งหมด ก่อนเก็บรวบรวมเป็นของกลางในคดีต่อไป

...



พล.ต.ท.สุระชัย ควรเดชะคุปต์ ผบช.ภ.4 กล่าวว่า คณะทำงานได้มีการตรวจสอบเส้นทางการเงินจนพบความผิดปกติของเงินจากตำรวจภูธรจังหวัดเลยพัวพันไปหลายคน วันนี้สามารถนำเงินสดกลับคืนมาได้แล้ว 23,616,000 บาท รวมทั้งการตรวจยึดอายัดทรัพย์สินตามเส้นทางการเงินได้อีกจำนวนมาก ซึ่งหากคิดเป็นมูลค่าแล้วรวมกว่า 200 ล้านบาท ซึ่งเพียงพอต่อการที่จะคืนให้กับตำรวจได้ แต่ทั้งนี้ต้องมีการประชุมร่วมกันของคณะทำงานตามขั้นตอนจึงจะสรุปได้ว่าจะสามารถคืนเงินได้อย่างไร แต่ทั้งนี้ในสัปดาห์หน้าจะสามารถคืนเงินให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 196 นายได้ โดยจะคืนได้เฉพาะบางส่วนและบางคนก่อนเท่านั้น แต่ยืนยันว่าทุกคนจะได้รับเงินคืน

“พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำพยานในคดีแล้วทั้งหมด 435 ปาก ซึ่งผู้ต้องหาในคดีนี้ขณะนี้มีทั้งหมด 42 คน โดยเจ้าหน้าที่มีการตั้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหาไปแล้ว 31 คน และในวันนี้มีการติดต่อเข้าขอมอบตัวอีก 5 คน” ผบช.ภูธรภาค 4 กล่าว


ด้าน พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รักษาการ ผบช.สตม.กล่าวว่า วันนี้ชุดสืบสวนสอบสวนได้มีการลงพื้นที่ ที่ จ.นนทบุรี และกรุงเทพฯ เพื่อทำการยึดอายัดทรัพย์สินของ พล.ต.ต.สุทิพย์ ผลิตกุศลธัช อดีต รอง ผบช.สกพ.(รองผู้บัญชาการสำนักงานกำลังพล) ซึ่งสามารถตรวจยึดทรัพย์สินได้รวมหลายรายการ ทั้งหมดจะตกมาเป็นของกลางในคดีที่จะต้องมีการตรวจสอบทั้งหมด ซึ่งคดีความดังกล่าวนี้นั้นมีความคืบหน้าอย่างมาก ซึ่ง พล.ต.อ.รุ่งโรจน์ แสงคร้าม รอง ผบ.ตร.จะมาประชุมเพื่อตรวจสำนวนการสอบสวนรอบสุดท้ายในวันที่ 10 ต.ค. เพราะคณะทำงานทั้งสืบสวนและสอบสวนนั้นเราทำงานกันทุกวัน และวันนี้ในการประชุมก็จะมีการสรุปข้อมูลและลำดับเหตุการณ์ต่างๆ อีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม ผู้ต้องหาคนสำคัญในคดีดังกล่าวคือ น.ส.ธิญาดา วิภาวรกานต์ หรือ น.ส.นุช ผู้ต้องหาคนสำคัญในคดีนั้นขณะนี้ยังคงหลบหนี ได้มีการสั่งการไปยังด่านตรวจคนเข้าเมืองทั่วทั้งประเทศ รวมทั้งการจัดส่งกำลังตำรวจ ตม.ตรวจสอบในช่องทางธรรมชาติ เพื่อป้องกันการหลบหนีออกนอกประเทศของผู้ต้องหารายสำคัญแล้ว.