วิวาทะที่ตอบโต้กันไปมาระหว่างนักการเมืองแต่ละพรรค ดูเหมือนจะเป็นคำพูดโน้มน้าวดึงจุดสนใจของประชาชนคนธรรมดาอย่างเราๆ ได้ไม่น้อย "คนไหนพูดดี มีนโยบายเด่น เห็นเป็นรูปธรรมจับต้องได้" รวมไปถึงการจับประเด็นข้อมูลมาตอกกลับ ให้อีกฝ่ายหน้าหงายลงไปกองกับพื้น ยิ่งได้ใจกองเชียร์ที่พากันออกมาเฮโลนำข้อมูลไปทับถม ซ้ำเติมสาดใส่เล่นเอาจนมุมไม่เป็นท่า...... จึงไม่แปลกอะไรที่นักการเมืองสมองดี มีวลีหรูหรา ฝีปากกล้าหาญ นโยบายเข้าถึง จึงสามารถครองใจประชาชนได้ล้นหลาม และทั้งหมดนี้ต้องควบคู่ไปด้วย การทำ "ไอโอ (IO)" เปิดยุทธการ ข่าวสารหว่านพืชหวังผลผ่านโซเชียลมีเดีย ปลุกกระแสมวลชน ยึดครองอำนาจและประโยชน์ บรรลุเป้าหมายตามคาด
แต่สำหรับนายทหหารยศใหญ่ "ที่พูดไม่เก่ง" มิหน้ำซ้ำแต่ละคำพูดที่สื่อสารออกมา ประหนึ่งว่าถูกกลั่นกรองมาจากห้วงอารมณ์ ถ่ายทอดเป็นประโยคที่อาจจะดูรุนแรงกระทบจิตใจฝ่ายตรงข้าม เฉกเช่น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง หรือ "ลุงป้อม" เพราะรอบปีที่ผ่านมา จะขยับตัว ขยับปาก หรือใส่นาฬิกาเรือนไหนๆ ก็กลายเป็นประเด็นใหญ่ไปเสียหมด วันนี้ทีมข่าวเจาะประเด็นไทยรัฐออนไลน์ มีโอกาสเปิดใจเบื้องลึก ความรู้สึกของพี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์ "ลุงป้อม" ในบรรยากาศเรียบง่าย สบายๆ กับภารกิจที่ลุงป้อมทำมากว่า 4 ปี แต่กลับมีประชาชนบางกลุ่มก้อนกลับมองไม่เห็นความดีซะอย่างนั้น
...
"กว่าจะมายืนตรงจุดนี้ ก็ถือว่าเป็นทหารคนนึงที่ผ่านสนามรบ ผ่านการสู้รบมาหลายสงคราม ลงพื้นที่ปฏิบัติจริงมาตลอด แต่ก็ไม่เคยคิดจะต้องมานั่งพูดย้ำ หรือโม้เป็นเรื่องราวใหญ่โตให้คนในประเทศชาติฟังซ้ำๆ บ่อยๆ พูดไม่เก่งนะ และบางคำพูดอาจจะฟังดูไม่ถูกใจใครบ้าง แต่ความคิดอ่าน และการกระทำของลุง ล้วนแล้วแต่มีจุดประสงค์ดี หวังผลักดันให้ประเทศชาติขับเคลื่อนไปข้างหน้า ทั้งเรื่องของความสงบสุขในบ้านเมือง และการปราบปรามอาชญากรรมกระทบความเดือดร้อนประชาชนให้บรรเทาเบาบางลง" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
กระแสโจมตีที่ถาโถมเข้ามาสารพัดทิศทางทุกๆ เรื่องในรอบปีที่ผ่านมาลุงป้อมตั้งรับอย่างไงคะ?
ลุงคิดว่ามันเป็นเรื่องธรรมดา ทุกคนที่มายืนอยู่จุดนี้ล้วนแล้วแต่เคยผ่านเรื่องราวถูกโจมตีมาทั้งนั้นแหละ บนโลกนี้ไม่มีใครไม่ถูกนินทาหรอก ยิ่งการด่าทอในโลกโซเชียลที่ผ่านมา ก็รู้นะว่าโจมตีกันหนัก แต่มันไม่ใช่สิ่งที่ต้องออกไปร้องแร่แห่กระเชอ หรือตอบโต้ด่าสวนกันไปมา ลุงก็ตอบไปตามข้อเท็จจริงที่ได้ปรากฏตามสื่อไปแล้ว นอกเหนือจากนั้นแล้วแต่ผู้ฟังจะคิด ซึ่งจะให้ลุงเดินไปบังคับประชาชนทุกคนด้วยคำพูดที่ว่า "คุณต้องเชื่อในสิ่งที่ผมพูดนะ ผมเป็นคนดี คุณต้องเชื่อผม" ลุงทำไม่ได้หรอก.. เมื่อเรานำเสนอข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นถ่ายทอดสู่ผู้ฟังไปแล้ว เขาจะเชื่อหรือไม่เชื่อ มันสิทธิ์ของเขา ที่ผ่านมาก็เหมือนจะมีแต่นักข่าวที่ถามย้ำเรื่องเดิมๆ ซึ่งถ้าถามมาก็แน่นอนว่าจะได้รับคำตอบแบบเดิมกลับไป เพราะทั้งหมดนั้นมันคือความจริง
ในฐานะที่ลุงป้อมเข้ามาดูแลความมั่นคงประเทศ ลุงป้อมมีนโยบายอย่างไรทำให้ทุกอย่างขับเคลื่อนด้วยดี?
ความมั่นคงต้องเกี่ยวข้องโยงใยกันทั้งหมดรวมไปถึง 3 จังหวัดชายแดนใต้ก็เช่นเดียวกัน ทำอย่างไรให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมเป็นหูเป็นตา เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ เพื่อนำไปสู่ความมั่นคงสงบสุข นั่นแหละคือส่วนหนึ่งที่เราได้ทำอยู่ควบคู่ไปกับนโยบายอื่นๆ ที่ล้วนแล้วแต่ผลักดันให้เกิดผลดี ซึ่งอาจมีหลายคนที่ยังไม่เข้าใจในบางเรื่อง จะในส่วนของงบประมาณการจัดซื้อยุทโธปกรณ์อะไรก็ตามแต่ ขอให้รู้ไว้เถอะว่าทุกอย่างที่เราทำนั้นก็มุ่งหวังให้เกิดผลดีกับประเทศชาติ และประชาชนอย่างแท้จริง
ลุงป้อมช่วยเล่าเรื่องราว ครอบครัวพี่น้องในมุมมองของตัวเองให้ฟังหน่อยค่ะ ทราบว่าติดยศนายพล 3 ท่าน
ครอบครัวลุงก็ไม่ใช่ครอบครัวใหญ่นะ เป็นครอบครัวเล็กๆ ส่วนคุณพ่อคุณแม่ไม่ได้เป็นคนทะเยอทะยานอะไร อยู่ง่ายกินง่าย ลูกทุ่งธรรมดาๆ เหมือนคนทั่วไป ส่วนพี่น้องที่รับราชการติดยศนายพลอีก 2 คน เขาก็เรียนเป็นทหารตำรวจกันมา เติบโตไปตามขั้นตอน และทุกคนก็ล้วนแล้วแต่มีความมุ่งหวังที่จะทำเพื่อประโยชน์สุขของคนในประเทศ โดยส่วนตัวยังไม่ได้แต่งงานสร้างครอบครัว แต่หลานๆ หลายคนก็มีเหลนมาให้อุ้ม มาเติมเต็มบั้นปลายชีวิต ครอบครัวเล็กๆ แต่เรามีความสุขกันดีอยู่
"เกิดมาทั้งชีวิต ได้ทำงานเต็มที่ เรื่องที่ไม่เคยเห็นก็ได้เห็น เรื่องที่ไม่คิดว่าจะได้ตัดสินใจก็ต้องตัดสินใจ มีอายุมาจนถึงวันนี้ก็เยอะ ครอบครัวก็มีความสุขดีแล้ว เพียงพอแล้วและไม่ได้คิดจะทะเยอทะยานอะไรมากไปกว่านี้"
ลุงป้อมรู้สึกอย่างไรกับการเคลื่อนไหวบนโลกโซเชียลมีเดียของอดีตขั้วอำนาจเก่าในช่วงนี้คะ?
ไม่รู้จะต้องพูดอะไร เพราะมันไม่ใช่สาระที่จะทำให้ประเทศชาติเดินไปข้างหน้า ภารกิจวันนี้ของลุงคือต้องการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ ไกล่เกลี่ยกับนายทุนที่คิดดอกเบี้ยขูดรีดชาวบ้านเกินอัตรา แล้วก็นำโฉนดคืนประชาชน นี่คือสิ่งที่เกิดประโยชน์จับต้องได้ นี่คือสิ่งที่บรรเทาทุกข์ความเดือดร้อนให้แก่ชาวบ้านหลายต่อหลายจังหวัดในภาคอีสาน ซึ่งเราทำควบคู่กันไปกับจังหวัดอื่นๆ ทั่วประเทศ มุ่งหวังเพียงปลดทุกข์คลายความกังวล ทำให้เขายิ้มได้ และเดินหน้าประกอบอาชีพหาเลี้ยงตัวเองต่อไป
"อันนี้ลุงขอพูดรวมๆ ว่า การพูดจาใช้วาทกรรมตอบโต้กันในกระแสโซเชียล มันก็เหมือนเราอ่านหนังสือพิมพ์สมัยก่อน "วันนี้ขึ้นหน้าหนึ่งเป็นข่าวใหญ่โต พรุ่งนี้หน้าหนังสือพิมพ์เล่มนั้นก็ถูกขยำทิ้ง หรือเอาไปพับเป็นถุงใส่กล้วยแขกขาย" เรื่องเก่าไปเรื่องใหม่มา ใครจะสร้างค่าให้ตัวเองอย่างไรก็สุดแล้วแต่เลยตามสบาย ไม่มีประโยชน์จะไปตอบโต้ซึ่งกันและกัน เรามาลงมือพัฒนาประเทศชาติบ้านเมืองให้ดีขึ้นดูจะได้อะไรมากกว่าไปนั่งสนใจเรื่องที่คนนู้นคนนี้พูด จริงเท็จรึเปล่าไม่มีใครรู้เลย แต่ชาวโซเชียลก็พากันไปเกาะกระแสใหญ่โต...ทุกๆ เรื่อง ทุกๆ วงการ ไม่ใช่แค่เรื่องการเมืองนะ ดารา นักแสดง หรืออะไรก็เถอะ เหมือนกันหมด"
ทราบว่าลุงป้อม คือผู้ที่คิดริเริ่ม รื้อค้นคดีสำคัญกระทบความเดือดร้อนชาวบ้าน นำสู่การปราบปรามคดีอาชญากรรม ?
ครับ...บูรณาการหลายหน่วยงานเข้าด้วยกัน ทหาร ตำรวจ ปกครอง ข้าราชการ แต่ที่เห็นเด่นชัดและบรรเทาความเดือดร้อนของชาวบ้านได้จริงคือการลงพื้นที่กวาดล้างอาชญากรรมต่างๆ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่ว่าจะเป็น เรื่องทัวร์ศูนย์เหรียญ, แก๊งคนดำอยู่ในประเทศเกินกำหนด, นอมินีข้ามชาติ, เงินกู้นอกระบบ, แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ฯลฯ รวมไปถึงการสร้างปัญหาความเดือดร้อนที่กระทบโดยตรงกับประชาชน มันเป็นนโยบายที่สั่งลงสู่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ตั้งชุดปฏิบัติการพิเศษขึ้นมา แจกจ่ายกระจายงานทำร่วมกัน
"ผลงานออกมาดี ประเทศชาติเจริญ ประชาชนได้รับความสงบสุข ไม่ต้องไปตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ ไม่ต้องเดือดร้อนเพราะการกระทำที่ฉ้อฉลของใคร ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารทุกคน ไม่มีใครเป็นเด็กเส้นใครทั้งนั้นแหละ เค้าล้วนแล้วเป็นตำรวจของประชาชน ที่ทำๆ กันก็เพื่อประชาชนประเทศชาติ ไม่ได้ทำเพื่อผลประโยชน์ของคนๆ เดียว งานสำเร็จลุล่วง ทหาร ตำรวจ ปกครอง ก็รู้สึกภาคภูมิใจ ....แค่นั้นเอง"
สิ่งที่ลุงป้อมมุ่งหวังและตั้งใจจะทำหลังจากผ่านพ้นการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงเร็วๆ นี้คืออะไรคะ?
สิ่งที่ตั้งใจทำมาตลอด และจะทำให้ดีตลอดไป คือโครงการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่าในพื้นที่ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด (ภาคตะวันออก) สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 มีพระราชเสาวนีย์ให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องร่วมกันพิจารณาจัดทำโครงการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่า ตลอดจนพัฒนาคุณภาพชีวิตราษฎร โดยเฉพาะราษฎรในชุมชนที่อพยพจากป่าและชุมชนที่อยู่อาศัยอยู่ติดแนวเขตป่าอนุรักษ์ให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น มีอาชีพที่เหมาะสมยั่งยืน อันจะทำให้ราษฎรไม่หวนกลับไปบุกรุกป่าอีก
"จังหวัดฉะเชิงเทรา สระแก้ว จันทบุรี ระยอง และชลบุรี อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ที่บ้านเทพประทาน ตำบลคลองตะเกรา จังหวัดฉะเชิงเทรา และมีพระราชเสาวนีย์ให้พิจารณาก่อสร้างอ่างเก็บน้ำเขาละลาก ตำบลคลองตะเกรา กิ่งอำเภอท่าตะเกียบ จังหวัดฉะเชิงเทรา พร้อมระบบส่งน้ำ เพื่อให้ราษฎรได้มีน้ำใช้ในการอุปโภคบริโภค และทำการเกษตร ทั้งหมดนี้มุ่งหวังเพื่อ สนองพระราชเสาวนีย์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ในการอนุรักษ์และพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติ และพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้น
เพื่ออนุรักษ์และพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติ โดยเฉพาะทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่าให้มีความยั่งยืน"
....ถึงที่สุดแล้ว ไม่ว่าวันนี้ "โลกโซเชียล" จะขับเคลื่อนชักจูง สร้างกระแสสาดโคลนโจมตี หรือ ยกยอ กันไปทิศทางใด....แต่อย่าลืมว่าในโลกแห่งความจริง วิถีชีวิตคนเราก็ต้องก้าวต่อไปข้างหน้า ไม่ว่าจะปุถุชน คนธรรมดา ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ ไม่เว้นแม้แต่นักการเมือง .... ใครของจริง ใครของปลอม หรือใครสร้างกระแสเล่นละครหลอกคนดู สักวันหนึ่งความจริงจะปรากฏชัดเอง .... พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าวทิ้งท้าย