เปิดบ้านควงทนายความขนาบข้างนั่งแถลงข่าวกันไปแล้ว สำหรับ "นกน้อย อุไรพร" หมอลำชื่อดัง ภายหลังถูกกระแสข่าวโจมตีจากคู่กรณี ปมยืมที่ดิน 33 ไร่ ราคา 49 ล้านบาท ไปจำนองกับเจ้าของโรงนมในจังหวัดอุดรธานี ซ้ำยังมีดราม่ายืดยาวสาวกันต่อเป็นอาทิตย์ จริงเท็จยังไม่มีใครทราบแน่ชัด ล่าสุดได้ฟังคำแถลงชี้แจงจาก นกน้อย อุไรพร หลักใหญ่ใจความอยู่ที่ว่า "ที่ดินที่นำไปจำนองนั้น คุณสุดารัตน์ ภูผานี เจ้าของที่ มีความสมยอม และรู้เห็นเป็นใจในการจำนอง และนำเงินมาประกอบธุรกิจทำวงดนตรีร่วมกัน ไม่ได้เป็นการยืมโฉนดมาจำนองเฉยๆ ตามที่คุณสุดารัตน์กล่าวอ้าง" 

ต่อมาทางทีมข่าวเจาะประเด็นไทยรัฐออนไลน์ ได้ติดต่อกลับไปยังคุณสุดารัตน์ ภูผานี เจ้าของที่ดิน 33 ไร่ สอบถามถึงข้อเท็จจริงดังกล่าวอีกครั้ง เนื่องจากข้อมูลที่ได้รับจาก "นกน้อย อุไรพร" แตกต่างจากข้อมูลที่ คุณสุดารัตน์ ภูผานี ให้กับทางทีมข่าวตั้งแต่แรกเริ่ม 

"แม่นกน้อย" บอกว่า ที่ดินเอาไปจำนอง รู้เห็นเป็นใจด้วยกัน เพื่อนำเงินหุ้นทำวง?

เค้ามีสิทธิ์พูดได้หมดทุกอย่างค่ะ ทนายจะพูดอะไรก็พูดได้หมด สิทธิ์ของเค้า แต่ข้อเท็จจริงเค้ารู้อยู่แก่ใจว่าเป็นอย่างไร ดิฉันยืนยันว่า "ไม่ได้โกหกแม้แต่เรื่องเดียว" เพราะไม่รู้จะโกหกสร้างเรื่องขึ้นมาทำร้ายตัวเองทำไม หลักฐานกระบวนการสอบสวน สืบสวน ตำรวจเค้ามีความชำนาญอยู่แล้ว ต่อให้ขึ้นศาล การนำสืบมันก็ต้องใช้พยาน ซึ่งเรามีหมด ตรงนี้จึงไม่รู้สึกเดือดร้อนกับคำพูดของฝ่ายเค้าที่แถลงข่าวออกมาค่ะ 

โชว์ชัดๆ โทรมาบอกจะเอาโฉนดมาคืนให้
โชว์ชัดๆ โทรมาบอกจะเอาโฉนดมาคืนให้

...

แล้วเราจะพิสูจน์อย่างไรให้ประชาชนรู้ว่า "เราไม่ได้แต่งเรื่องโกหก?" 

ไปสาบานกันมั้ยคะ ไปกันให้หมดเลย ทั้งทีมทนายความของนกน้อยเอง และพระอีก 2 รูป สาบานว่าเรื่องที่พูดคือเรื่องจริง ไปสาบานกันต่อหน้า "เจ้าปู่ศรีสุทโธ" มหาเทพนาคาผู้ยิ่งใหญ่ แห่งคำชะโนด อย่าบิดเบือนจับแพะชนแกะค่ะ ก็เห็นนกน้อยชอบทำบุญเข้าวัด นุ่งขาวห่มขาว หากทางผู้สื่อข่าวอยากจะทราบความจริง ณ ตอนนี้ ก็ขอให้ไปสาบานพร้อมๆ กันค่ะ แต่ถ้าไม่กล้าไป ก็ให้ประชาชนตัดสินกันเอาเองละกันว่าใครเป็นไง เหนื่อยจะพูด เพราะดิฉันไม่ใช่นักแสดง สร้างภาพเล่นละครไม่เก่ง 

ที่มีข่าวออกมาว่า เราก็เคยไปออกแสดงวงกับเค้าตามที่ต่างๆ? 

อย่าเรียกว่าไปร่วมแสดงเลยค่ะ ย้อนไป 2 ปีก่อน หลังจากทวงโฉนดเท่าไหร่ก็ไม่คืนสักที ดิฉันก็ไม่มีเงินมาก ทวงแล้วทวงอีก ทางนกน้อย จึงให้ไปตั้งร้านขายขนม ขายเครื่องดื่มขณะแสดงคอนเสิร์ต นำกำไรที่ได้มาใช้จ่าย แต่ไม่เคยไปร่วมทำวงอะไรด้วยเลยทั้งสิ้น ไม่เคยตกลงทำอะไรกันเลย มีความเกี่ยวพันแค่ไปเปิดร้านขายของแค่นั้นเอง 

"ระหว่างที่นกน้อยโกหก ให้บินกลับมาเอาโฉนดทุกครั้ง และไม่มีโฉนดให้ตามที่พูดสักครั้ง นกน้อยจะเป็นคนออกปากให้เงินค่าเลื่อนตั๋วกลับอเมริกา  เพราะบินกลับมา 1 ครั้ง เช่น นัดคืนโฉนดวันที่ 13 เมษา พอเรามาถึงก็บอกว่าเลื่อนเป็น 20 เมษา แล้วก็เลื่อนเป็น 1 พ.ค. ฯลฯ เราต้องอยู่ไทยยาวมากและเลื่อนตั๋วบ่อยมาก ซึ่งบินกลับมาทุกครั้ง เค้าทำแบบนี้ทุกครั้ง แต่ค่าตั๋วไปกลับ เราเป็นคนออกเอง ครั้งละเป็นแสน เค้าออกแค่ค่าเลื่อนตั๋วให้" 

เค้าบอกในการแถลงข่าวว่า เค้าไม่ได้โทรคุยกับเราเลย ตั้งแต่เป็นข่าว? 

นี่เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่เค้าโกหกค่ะ เพราะเมื่อวันพุธที่ผ่านมา เค้าใช้เบอร์ 08-1954-7*** โทรมาตอนเวลา 13.38 น. คุยกันไม่ถึงนาที ประโยคที่พูดๆ ว่า "เดี๋ยวอีก 2 วันจะไถ่เอาโฉนดไปคืนให้" ตำรวจสามารถเช็กเบอร์โทรศัพท์ได้ ถ้ามีเทคนิคในการเอาเสียงออกไปก็ไปทำกันเลยเต็มที่ และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่นกน้อยโกหก พูดมาได้ไงว่าไม่ได้โทรมา พยานรู้เห็นเยอะแยะ  

แถลงข่าวกับสื่อบอกไม่ได้ติดต่อคู่กรณี แต่เพิ่งโทรมาเมื่อวันพุธ
แถลงข่าวกับสื่อบอกไม่ได้ติดต่อคู่กรณี แต่เพิ่งโทรมาเมื่อวันพุธ

ในส่วนเอกสารที่เค้าบอกว่าไม่ได้เซ็นรับทราบเรื่องยืมโฉนดเราไป? 

อันนี้ก็อีก 1 เรื่อง เอาเป็นว่าดิฉันยินยอมให้นักข่าวเผยแพร่ตัวเต็มของเอกสารเลยละกัน ว่ามีข้อความเขียนไว้ชัดเจนอย่างไร ไม่ต้องไปเบลอไปปิดแล้วล่ะ จะได้รู้ๆ กันไปเลยว่าใครเป็นยังไง 

...

เค้าทิ้งท้ายว่าพร้อมจะให้ตำรวจไกล่เกลี่ย ในส่วนของเรา เราว่ายังไงคะ? 

ก็ต้องให้เกียรติคุณตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานี เนื่องจากว่าท่านเป็นคนรับเรื่องแต่ทีแรก และเป็นคนที่ใส่ใจจะแก้ไขปัญหาให้เราอย่างจริงใจ เอาตรงๆ ทีมทนายกับหลักฐานก็พร้อมสู้แล้ว แต่เราต้องให้เกียรติคุณตำรวจ เราไม่ข้ามหน้ากระบวนการนี้แน่นอน เพราะถ้าไม่มี รองผู้กำกับ และผู้กำกับเมืองอุดร เรื่องมันก็คงเงียบ เราก็ถูกหลอกแล้วหลอกอีก หลอกซ้ำซาก 

ในส่วนของพระ 2 รูป ทางแม่นกน้อยบอกว่า ไม่อยากพาดพิงถึง 

เค้าจะไม่พาดพิงก็เรื่องของเค้า แต่เราจะพาดพิง เพราะเราก็มีหลักฐานทั้งหมดเหมือนกัน ทั้งสลิปที่โอนเงินส่งให้เรียนจบด็อกเตอร์ ทั้งพระและคนขับรถพระ อยากเรียนเราก็ส่งให้เรียนจนจบ ส่วนพระอีกรูปก็โกหกเก่งมาก นี่เตรียมพยานพร้อมหมดแล้ว 

เค้าบอกว่าเราเดินเข้าออกบ้านเค้าได้เหมือนญาติคนหนึ่ง?

ก็ช่วงก่อนจะมีเรื่องเข้าไปบ่อยมากค่ะ พาหลานเข้าไป เข้าไปคนเดียวบ้าง เข้าไปเพราะไปทวงโฉนดตามที่สัญญากันไว้ ตอนนั้นเราพยายามอ่อนน้อมทำดีทุกวิถีทาง ทำทุกย่างให้เค้าคืน ไปนั่งรอเค้าเป็นชั่วโมง เราเดือดร้อนเงินอยากได้ที่คืน จะให้เข้าไปนั่งพูดคุยสนุกสนานเฮฮาเหมือนญาติไรงี้คงไม่ใช่อะค่ะ เราไปด้วยความร้อนใจ แต่ไม่เคยแสดงความร้ายกาจอะไร พูดดีตลอด จนหลายปีผ่านไปไม่ไหวแล้วจริงๆ ถึงวันนั้นเลยระเบิด เรื่องจึงดังบานปลายมาจนวันนี้  

เค้าเอาทีมทนายออกมาแถลงข่าว ข้อมูลขัดแย้งกับเรา แบบนี้เหมือนตบหน้าเรามั้ยคะ? 

เค้าตบหน้าตัวเองมากกว่านะคะ แถมยังพาทีมแถลงข่าวมาหน้าแตกตามไปด้วย แค่บอกว่าไม่เคยโทร ไม่เคยติดต่อหาเราก็โกหกแล้ว อยากจะแสดง อยากจะเล่นละครอะไรก็ทำไปเถอะค่ะ แต่อย่าลืมว่า "หากมั่นใจว่าทั้งหมดที่ตัวเองพูดมาเป็นเรื่องจริง ก็ไปสาบานกันต่อหน้า "เจ้าปู่ศรีสุทโธ" ไปมั้ยคะ ถามแค่นี้ ถ้าไม่ไปก็อย่ามาพล่ามนู่นนี่เพื่อสร้างภาพเลย อายแทน". 

...

เราจะแถลงตอบโต้อีกมั้ยคะ? 

อย่างที่บอกไปค่ะว่า เล่นลิเกไม่เก่ง สร้างภาพไม่เป็น ที่ผ่านมาอดทนจนไม่รู้จะอดทนอย่างไร เดี๋ยว 2-3 วันนี้ ทีมทนายจากกรุงเทพ จะเดินทางมาอุดร เพราะทนายเดินทางไปทำธุระต่างประเทศ แนวโน้มที่จะแถลงคงไม่มีนะ รอถามทนายก่อน เรื่องมาจนขนาดนี้ คิดว่ารอให้ตำรวจจัดการดีกว่า หรือไม่ก็ฟ้องๆไปเลยจะได้จบๆ ไม่ต้องมานั่งแถลงสร้างภาพไปมา  นี่ก็เหนื่อยมาก ไม่ใช่ดารานักร้องที่ต้องรักษาภาพลักษณ์  ใครจะแถลงยิ่งใหญ่ยังไง สิทธิ์ของเค้า ส่วนเราคิดว่า มันยืดยาวมาหลายเดือนแล้ว อยากให้จบๆเสียที 

เอกสารที่เซ็นต่อหน้าทนายความและพยาน
เอกสารที่เซ็นต่อหน้าทนายความและพยาน