เตือน ปชช.เฝ้าระวัง พายุถล่มเหนืออ่วม ตัดขาดถนน ชม.-ชร.
อิทธิพลจาก “เบบินคา” ทำเอาภาค เหนืออ่วม ฝนถล่มหนัก น้ำป่าทะลักท่วมทางเบี่ยงถนนสายเชียงใหม่-เชียงราย ซัด 10 ล้อตกถนน คนขับรอดตายเฉียดฉิว ถนนถูกน้ำซัดขาด 5 จุด กลายเป็นอัมพาต ประชาชนหันไปใช้เส้นทางเชียงใหม่-ลำพูน-ลำปาง-พะเยา-เชียงราย แทน เช่นเดียวกับ จ.เชียงราย-พะเยา-น่าน-ลำปาง เจอน้ำป่าเข้าท่วมแต่เช้ามืด ชาวบ้านขนของหนีน้ำโกลาหล บางจุดระดับน้ำสูงมิดหัว มีสภาพถูกตัดขาดจากโลกภายนอก สังเวยชีวิตแล้ว 2 ศพ ส่วนเขื่อนแก่งกระจานยังไม่พ้นวิกฤติ น้ำล้นสปิลเวย์ท่วมแล้วหลายอำเภอ เช่นเดียวกับเมืองกาญจน์ น้ำแม่กลองปริ่มถนน ทำชาวบ้านผวาขนของหนีน้ำ ด้าน สปป.ลาวกลัวฝันร้ายรอบสอง เร่งระบายน้ำออกจากเขื่อนน้ำงึม 1
อิทธิพลจากพายุโซนร้อน “เบบินคา” ส่งผลให้หลายพื้นที่ประสบอุทกภัยและฝนตกหนัก โดยเมื่อเวลา 03.00 น.วันที่ 18 ส.ค. ที่ จ.เชียงใหม่ ฝนที่ตกหนักตลอดทั้งวันทั้งคืน ทำให้น้ำป่าจากดอยนางแก้วไหลเข้าท่วมทางเบี่ยงถนนสายเชียงใหม่-เชียงราย ระหว่าง กม.42-50 บ้านปางแฟน ต.ป่าเมี่ยง อ.ดอยสะเก็ด ถนนถูกน้ำกัดเซาะขาดเป็นช่วงๆจำนวน 5 จุด รถทุกชนิดไม่สามารถผ่านได้ ขณะเกิดเหตุมีรถบรรทุก 10 ล้อ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน 70-4998 เชียงราย วิ่งผ่านมาพอดี ถูกน้ำป่าซัดตกถนนตรงจุดที่ถนนขาดสภาพพลิกตะแคง นายสุรินทร์ สมุดความ อายุ 57 ปี บ้านเลขที่ 24 หมู่ 6 ต.เวียง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย คนขับกระโดดออกมาจากรถได้ทันรอดตายเฉียดฉิว นอกจากนี้ ยังมีรถติดค้างอยู่บนถนนออกมาไม่ได้อีก 6 คัน เจ้าหน้าที่นำอาหารและเครื่องดื่มเข้าไปช่วยเหลือผู้ที่โดยสารมากับรถแล้ว
...
ต่อมานายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ ผวจ.เชียงใหม่ รับรายงานเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมกำชับให้เจ้าหน้าที่ประสานผู้รับเหมาก่อสร้างทางนำรถแบ็กโฮเข้าไปขุดดินวางท่อในจุดถนนขาดเพื่อเปิด ให้ประชาชนได้ใช้สัญจร โดยระหว่างการซ่อมถนนได้ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนที่เดินทางไปมาระหว่างเชียงใหม่-เชียงราย หันไปใช้เส้นทางเชียงใหม่-ลำพูน-ลำปาง-พะเยา-เชียงราย แทน ส่วนปริมาณน้ำในคลองผาแตกที่ไหลผ่าน อ.ดอยสะเก็ด ระดับน้ำสูงขึ้นต่อเนื่องใกล้ถึงจุดวิกฤติ เจ้าหน้าที่แจ้งเตือนประชาชนริมฝั่งคลองให้เก็บของขึ้นที่สูง เช่นเดียวกับที่ อ.พร้าว น้ำท่วมหนักในพื้นที่ 4 ตำบล คือ ต.ป่าไหน่ ต.เขื่อนผาก ต.เวียง และ ต.โหล่งขอด บางจุดระดับน้ำสูงเหนือเข่า พื้นที่เกษตรเสียหายเป็นบริเวณกว้าง อ.ฝาง น้ำท่วมผิวถนนหน้าโรงพยาบาลฝาง คาดว่าเกิดจากท่ออุดทันระบายไม่ทัน ส่วน อ.แม่ออน พายุฝนพัดต้นไม้ใหญ่ล้มขวางถนนทางขึ้นภูเขาสูงบ้านขุนทา ต.ออนเหนือ เจ้าหน้าที่เข้าไปตัดเพื่อเปิดทางแล้ว
มีรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันเดียวกันทางเทศบาลนครเชียงใหม่ได้ออกประกาศเตือนให้ประชาชนเตรียมพร้อมรับมือน้ำท่วม หลังเกิดฝนตกหนักและได้รับรายงานว่ามวลน้ำเหนือจาก อ.แม่แตง และ อ.เวียงแหง จะไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ในเวลา 03.00 น. วันที่ 19 ส.ค. โดยเฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำปิงอาจจะได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม พร้อมกันนี้ทางเทศบาลนครเชียงใหม่ได้เตรียมความพร้อมทั้งเครื่องจักรกลและเจ้าหน้าที่ไว้แล้วตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งก่อนหน้านี้สำนักงานชลประทานที่ 1 ได้เปิดประตูระบายน้ำป่าแดดเพื่อพร่องน้ำในแม่น้ำปิงออกไปแล้วบางส่วน เพื่อรองรับปริมาณน้ำที่จะไหลลงมา โดยประกาศดังกล่าวสร้างความแตกตื่นให้กับประชาชนเป็นอย่างมาก พากันขนย้ายข้าวของขึ้นที่สูงและเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
จ.เชียงราย น้ำป่าจากเขาเทือกในฝั่งไทยและฝั่งเมียนมาไหลลงสู่แม่น้ำสายจนมีปริมาณสูงขึ้นอย่างรวดเร็วทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนริมฝั่งแม่น้ำสาย อ.แม่สาย ได้รับความเสียหายเป็นบริเวณกว้าง บางจุดระดับน้ำสูงถึงเอว นายไศลยนต์ ศรีสมุทร นายกเทศมนตรีตำบลแม่สาย ออกประกาศเตือนให้บรรดาพ่อค้าแม่ค้าในตลาดสายลมจอยขนของขึ้นที่สูง เนื่องจากระดับน้ำยังคงเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ เช่นเดียวกับฝั่ง จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา น้ำเข้าท่วมร้านค้าริมแม่น้ำแล้วเช่นกัน ส่วนที่ อ.พาน บ้านเรือนไร่นาถูกน้ำท่วมแล้ว 2 ตำบล 9 หมู่บ้าน นอกจากนี้ น้ำป่ายังไหลเข้าท่วมบริเวณน้ำพุร้อนแม่ขะจาน แหล่งท่องเที่ยวสำคัญของ อ.เวียงป่าเป้า เสียหายด้วย ส่วน อ.แม่จัน น้ำในแม่น้ำแม่จันเอ่อเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนใน ต.ป่าตึง เสียหายหลายหมู่บ้าน รวมทั้งบ้านพักนายอำเภอแม่จัน ถนนทางเข้าหมู่บ้านป่าบง ต.ป่าตึง มีน้ำท่วมสูงจนมิดหัว บ้านเรือนกว่า 30 หลังคาถูกตัดขาดจากโลกภายนอก ถนนพหลโยธินแยกไปแม่อาย น้ำท่วม 1 ช่องทาง การจราจรเป็นไปอย่างทุลักทุเล เช่นเดียวกับ อ.แม่สรวย ถูกน้ำท่วมเสียหายหนักในหลายพื้นที่เช่นกัน
...
จ.พะเยา น้ำในลำน้ำแม่ต๋ำเอ่อเข้าท่วมเขตเทศบาลเมืองพะเยา เสียหาย 4 ชุมชน ประกอบด้วยชุมชนแม่ต๋ำป่าลาน ชุมชนอินฐาน ชุมชนภูมินทร์ และชุมชนเมืองชุม หลังเกิดฝนตกหนักตลอดทั้งวันทั้งคืน และน้ำได้ไหลเข้าท่วมอย่างรวดเร็ว ชาวบ้านขนของหนีน้ำโกลาหล บางคนขนไม่ทันข้าวของจมหายไปกับกระแสน้ำ ส่วน อ.ปง น้ำป่าไหลเข้าท่วมชุมชนเขตเทศบาลตำบลปงเสียหายหนักใน 6 ตำบล 30 หมู่บ้าน บางพื้นที่มีสภาพถูกตัดขาดจากโลกภายนอก มีชาวบ้านถูกน้ำป่าพัดเสียชีวิต 1 คน ขณะออกไปเก็บวัชพืชออกจากท่อระบายน้ำ ชื่อนายสุขสันต์ ปินตา อายุ 53 ปี เช่นเดียวกับที่ อ.เชียงคำ เกิดน้ำท่วมหนักในหลายหมู่บ้านของ ต.เวียง ถนนมีสภาพกลายเป็นลำคลอง ไก่ชนของนายบุญญพัฒน์ ศรีคำ ที่เลี้ยงไว้ในเล้าถูกน้ำท่วมตายไป 5 ตัว
...
จ.แม่ฮ่องสอน น้ำป่าไหลเข้าท่วมพื้นที่บ้านแม่ปุ๋น ต.ป่าแป๋ อ.แม่สะเรียง เสียหายเป็นบริเวณกว้าง และยังเกิดเหตุดินภูเขาสไลด์ลงมาปิดทับเส้นทางสายบ้านไก่ดำ-บ้านห้วยเดื่อเหนือ ต.ป่าแป๋ รถไม่สามารถสัญจรไปมาได้ น้ำจากแม่น้ำสะมาดเอ่อท่วมไร่นาราษฎรบ้านผาบ่อง หมู่ 1 ต.ผาบ่อง อ.เมืองแม่ฮ่องสอน เสียหายบริเวณกว้าง โรงเรียนสอนศาสนาคริสต์บ้านแม่สะกึ๊ด ต.ผาบ่อง ถูกน้ำท่วมเสียหายหลายหลัง วัวชาวบ้านถูกน้ำพัดหายไป 50 ตัว เส้นทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวหมู่บ้านกะเหรี่ยงคอยาวห้วยปูแกงและหมู่บ้านชายแดนน้ำเพียงดิน มีดินสไลด์ปิดทับเส้นทาง ไม่สามารถเข้าออกหมู่บ้านได้เช่นกัน
จ.น่าน น้ำป่าไหลเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรเขตเทศบาลเมืองน่าน ราษฎรเดือดร้อน 5 ชุมชน ประกอบด้วยชุมชนบ้านดอนแก้ว ชุมชนบ้านสวนตาลล่าง ชุมชนบ้านท่าช้าง ชุมชนบ้านภูมินทร์-ท่าลี่ และชุมชนบ้านดอนศรีเสริม บางจุดระดับน้ำสูงถึงเอว เจ้าหน้าที่ทหารเข้าช่วยเหลือชาวบ้านขนย้ายข้าวของและหมูจากฟาร์มขึ้นไว้ที่สูง ชาวบ้านและพระสงฆ์สามเณรช่วยกันนำทรายมากรอกกระสอบให้ชาวบ้านนำไปทำคันกั้นน้ำเข้าบ้าน นายสุรพล เธียรสูตร นายกเทศบาลเมืองน่าน นำเจ้าหน้าที่ออกให้การช่วยเหลือ พร้อมกล่าวว่า ได้แจ้งประชาชนริมแม่น้ำน่านให้ขนของขึ้นที่สูง คาดว่าน้ำจะท่วมหนักเท่าปี 2554 ล่าสุดน้ำในแม่น้ำน่านสูงเกินจุดวิกฤติเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมถนนสายน่าน-น้ำใส และถนนสายท่าล้อ-เมืองหลวง และชุมชนต่างๆ มีสภาพจมบาดาล ระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตร รถไม่สามารถสัญจรไปมาได้ ล่าสุดทางจังหวัดน่านสรุปความเสียหายเบื้องต้น 6 อำเภอ 35 ตำบล 156 หมู่บ้าน 800 ครัวเรือน
...
จ.ลำปาง น้ำป่าจากอุทยานดอยหมอกไหลเข้าท่วมพื้นที่ อ.วังเหนือ เสียหาย 3 หมู่บ้าน ประกอบด้วยบ้านปงถ้ำ ต.วังทอง บ้านแม่หืด ต.วังแก้ว และบ้านแม่สุก ต.วังซ้าย ราษฎรเดือดร้อนกว่า 150 ครัวเรือน โดยเฉพาะบ้านปงถ้ำนอกจากน้ำท่วมแล้วมีดินจากภูเขาสไลด์ลงมาปิดทับเส้นทางเข้าหมู่บ้านด้วย ล่าสุดมีผู้เสียชีวิต 1 คน ชื่อ ด.ช.วราเทพ ปานคล้ำ อายุ 3 ขวบ บ้านเลขที่ 320 หมู่ 10 ต.ทุ่งฮั้ว อ.วังเหนือ พลัดตกลงไปในร่องสวนหลังบ้านแล้วถูกน้ำป่าพัดไปไกลจากจุดเกิดเหตุราว 2 กม. ส่วน อ.แจ้ห่ม น้ำท่วมพื้นที่ ต.ทุ่งผึ้ง เสียหาย 3 หมู่บ้าน พื้นที่การเกษตรเสียหายเป็นบริเวณกว้าง
ด้าน จ.ระนอง นายจตุพจน์ ปิยัมปุตระ ผวจ.ระนอง เดินทางไปตรวจดูสถานการณ์บริเวณใกล้จุดชมวิวน้ำตกปุญญาบาล หมู่ 1 ต.บางนอน อ.เมืองระนอง หลังเกิดดินสไลด์ลงมาทับเส้นทางบ้านหินช้าง-ท่าเรือ-บ้านเขานางหงษ์ เมื่อช่วงเย็นวันที่ 17 ส.ค. จนต้องปิดเส้นทาง โดยนายจตุพจน์ กล่าวว่าประเมินสถานการณ์แล้วยังไม่สามารถเปิดใช้เส้นทางดังกล่าวได้ ขอให้ประชาชนเลี่ยงการใช้เส้นทางเพื่อความปลอดภัยจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น
จ.กาญจนบุรี เจ้าหน้าที่ยังคงเร่งระบายน้ำออกจากเขื่อนวชิราลงกรณและเขื่อนศรีนครินทร์ หลังพบว่าน้ำที่ไหลเข้าเขื่อนมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้น ส่วนแม่น้ำซองกาเลีย แม่น้ำบีคลี่ และแม่น้ำรันตี ที่ไหลไปบรรจบกันเป็นแม่น้ำสามประสบบริเวณวัดวังก์วิเวการาม หมู่ 2 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี พบว่ามีปริมาณน้ำเป็นจำนวนมาก ระดับน้ำเหลืออีกเล็กน้อยก็จะถึงพื้นสะพานไม้อุตตมานุสรณ์ หรือสะพานมอญ ชาวบ้านที่ปลูกบ้านอาศัยอยู่ริมน้ำเชิงสะพานไม้อุตตมานุสรณ์ฝั่งชุมชนชาวมอญ พากันขนย้ายข้าวของไปอยู่ที่สูงเกรงว่าน้ำจะเข้าท่วม ส่วนหอระฆังและโบสถ์วัดวังก์วิเวการามเก่าถูกน้ำท่วมสูงเหลือแค่ 2 เมตร ก็จะท่วมมิดหอระฆัง ส่วนน้ำในแม่น้ำแม่กลองก็เพิ่มสูงขึ้นจนปริ่มผิวจราจรถนนริมน้ำหน้าเมือง เขตเทศบาลเมืองกาญจนบุรี ชาวบ้านเริ่มขนย้ายข้าวของขึ้นที่สูงด้วยแล้วเช่นกันเพราะเกรงว่าน้ำจะทะลักเข้าท่วม
ส่วนที่ จ.เพชรบุรี เกิดฝนตกหนักเหนือเขื่อนแก่งกระจาน มีน้ำไหลเข้าเขื่อนปริมาณมากจนล้นสปิลเวย์ 1.30 เมตร ส่งผลให้น้ำในแม่น้ำเพชรบุรีเอ่อท่วมบ้านเรือนราษฎร รีสอร์ตและพื้นที่ทางการเกษตรในพื้นที่บ้านวังนางนวล ต.แก่งกระจาน บ้านถ้ำเสือ ต.สองพี่น้อง ถนนเข้าหมู่บ้านถูกน้ำท่วมสูง รถเล็กไม่สามารถผ่านได้ ส่วน ต.กลัดหลวง และ ต.ท่าไม้รวก อ.ท่ายาง ถูกน้ำท่วมเช่นกัน นอกจากนี้น้ำที่ระบายออกจากเขื่อนยังส่งผลกระทบต่อพื้นที่ อ.บ้านลาด อ.บ้านแหลม และบางตำบลของ อ.เมืองเพชรบุรี ทางจังหวัดได้ประกาศให้เป็นพื้นที่เฝ้าระวัง สูงสุดระหว่าง 18-19 ส.ค.
นายณัฐวุฒิ แจ่มแจ้ง ผู้ช่วยผู้ว่าการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เผยว่า ณ วันที่ 18 ส.ค. เขื่อนวชิราลงกรณมีปริมาณน้ำในเขื่อน 7,896 ล้านลูกบาศก์เมตร (ล้าน ลบ.ม.) หรือ 89% เกินกว่าเกณฑ์การควบคุมตอนบน (Upper Rule Curve) และมีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำวันละ 100 ล้าน ลบ.ม. เนื่องจากอิทธิพลของพายุโซนร้อนเบบินคา ทำให้มีฝนตกหนาแน่นบริเวณเหนืออ่างเก็บน้ำตอนบนอย่างต่อเนื่อง เขื่อนวชิราลงกรณ์จึงต้องพร่องน้ำ ตามนโยบายของศูนย์เฉพาะกิจชั่วคราวในภาวะวิกฤติ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สนทช.) โดยจะระบายน้ำผ่านช่องทางปกติวันละ 43 ล้าน ลบ.ม. และระบายผ่านทางระบายน้ำล้นสปิลเวย์ (Spillway) วันละ 10 ล้าน ลบ.ม. รวมเป็นวันละ 53 ล้าน ลบ.ม. ตั้งแต่วันที่ 23-27 ส.ค.นี้ ซึ่งจะส่งผลให้ลำน้ำท้ายเขื่อนมีปริมาณมากขึ้น ขอให้ประชาชนและผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวท้ายเขื่อนเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด
พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แสดงความห่วงใยประชาชนทั่วประเทศ เนื่องจากระยะนี้มีฝนตกหลายพื้นที่จากอิทธิพลพายุเบบินคา อาจทำให้เกิดภาวะน้ำท่วม น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง และทะเลมีคลื่นสูงมากกว่าปกติ ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศเตือน ระมัดระวังการเดินทาง ขนย้ายทรัพย์สินมีค่าขึ้นที่สูง เตรียมอุปกรณ์เพื่อการยังชีพให้พร้อม และติดตามข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด เที่ยวทะเลและน้ำตกระวังตัวให้มาก อาจเสี่ยงอันตรายจนถึงแก่ชีวิตได้ พร้อมกำชับให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่อุทยานฯ น้ำตก ชายทะเล และที่อื่นๆ ให้คำแนะนำ ตักเตือน และตรวจตราดูแลประชาชนด้วย
พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. สั่งการให้ตำรวจทุกฝ่าย อำนวยความสะดวกการจราจร กรณีเกิดฝนตกหนัก น้ำป่าไหลหลากในพื้นที่เชียงใหม่ ทำให้ทางเบี่ยงในพื้นที่การก่อสร้างของโครงการก่อสร้างเส้นทาง ทล.118 ถนนเชียงใหม่-เชียงราย (บ้านปางแฟน อ.ดอยสะเก็ด) ตั้งแต่ กม.42-50 ถูกน้ำกัดเซาะถนนขาด 5 แห่ง รถทุกชนิดไม่สามารถผ่านได้ ขณะนี้โครงการได้ปิดการใช้เส้นทางไว้ก่อน เพื่อรอให้น้ำลดเข้าไปแก้ไข ทั้งนี้ ขอประชา-สัมพันธ์ในการใช้เส้นทางเพื่อการเดินทางจากเชียงใหม่ ไปพะเยา และเชียงราย ดังนี้ 1.จากเชียงใหม่ไปเชียงราย เส้นทางที่ 1 : เชียงใหม่ (ทล.11)-ลำพูน-ลำปาง (ทล.1)-พะเยา-เชียงราย ระยะทาง 350 กม.เส้นทางที่ 2 : เชียงใหม่ (ทล.1001) พร้าว (ทล.1150) เวียงป่าเป้า-แม่สรวย-เชียงราย ระยะทาง 250 กม. เส้นทางที่ 3 : เชียงใหม่ (ทล.107) ฝาง-(ทล.109)-แม่สรวย (ทล.118)-เชียงราย ระยะทาง 280 กม.
กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศเรื่อง “พายุเบบินคา” (BEBINCA) ฉบับที่ 32 ว่า เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 18 ส.ค. หย่อมความกดอากาศต่ำกำลัง แรงที่อ่อนกำลังลงจากพายุดีเปรสชัน “เบบินคา” ปกคลุมบริเวณภาคเหนือตอนบนของประเทศไทย และเมื่อเวลา 10.00 น. ได้เคลื่อนเข้าปกคลุมประเทศเมียนมา ส่งผลให้ประเทศไทยตอนบนบริเวณภาคเหนือยังคงมีฝนตกชุกหนาแน่น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ โดยมีพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบตามภาคต่างๆ ภาคเหนือ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง สุโขทัย กำแพงเพชร และ ตาก ภาคกลาง จ.ราชบุรี และกาญจนบุรี ภาคตะวันออก จ.จันทบุรี และตราด ภาคใต้ จ.เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนอง พังงา และภูเก็ต ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนัก น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง ทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 2-4 เมตร อ่าวไทยตอนบนคลื่นสูง 2-3 เมตร เรือเล็ก ควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 20 ส.ค.2561
ในขณะเว็บไซต์ของสำนักข่าวเอบีซีลาว รายงานว่า ท่านบัววัน จันสะหวัด ผู้อำนวยการเขื่อนไฟฟ้าน้ำงึม 1 แจ้งว่าเขื่อนน้ำงึม 2 และเขื่อนน้ำงึม 5 มีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นมาก ทั้ง 2 เขื่อนได้ปล่อยน้ำลงมายังเขื่อนน้ำงึม 1 ทำให้ปริมาณน้ำในเขื่อนน้ำงึม 1 มีระดับน้ำอยู่ที่ 211.06 เมตร เหลือเพียง 1 เมตรกว่าก็จะเต็มความจุของอ่าง เพื่อความปลอดภัยจึงต้องเร่งปล่อยน้ำออกจากอ่างเก็บน้ำ โดยเริ่มปล่อยมาตั้งแต่วันที่ 12 ส.ค. และจากการติดตามการระบายน้ำจากเขื่อนเมื่อวันที่ 17 ส.ค.พบว่าไม่มีน้ำท่วมเกิดขึ้นในพื้นที่ตอนล่าง พร้อมเรียกร้องให้ทุกคนตระหนักถึงเหตุการณ์น้ำท่วมที่อาจเกิดขึ้น เพราะหากฝนตกหนักต่อเนื่องเป็นเวลาหลายวัน น้ำในเขื่อนจะเพิ่มขึ้น จำเป็นต้องปล่อยน้ำจากเขื่อนเพื่อความปลอดภัย ทุกคนไม่ควรตกใจเพราะได้ประเมินผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น