เวทีสัมมนา "Active and Productive Ageing : ความท้าทายที่ไทยต้องไปให้ถึง" วิจัย 3 ด้าน "เตรียมพร้อมแรงงานวัยเกิน 45 ปี-ระบบดูสูงวัยอย่างมีสุขภาวะ-สร้างการมีส่วนร่วม" สู่ "สังคมสูงวัยอย่างกระปรี้กระเปร่า" เตรียมข้อเสนอเชิงนโยบายนำเสนอในที่ประชุมคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ สสส.พร้อมสานพลังภาคีต่อยอดงานวิจัยผลักดันสู่นโยบายใช้ได้จริง

เมื่อวันที่ 9 ส.ค.61 ที่โรงแรมแกรนด์เมอเคียว มูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาผู้สูงอายุไทย(มส.ผส.) ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ(วช.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) และคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล จัดเวทีสัมมนา "Active and Productive Ageing : ความท้าทายที่ไทยต้องไปให้ถึง" เพื่อสร้างการรับรู้และสร้างการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนต่างๆที่เกี่ยวข้อง ทั้งผู้กำหนดนโยบาย ผู้บริหาร นักวิชาการ และภาคีเครือข่ายภาคประชาชน ในการนำผลงานวิจัยที่ได้ไปใช้ประโยชน์อย่างต่อเนื่อง

นพ.สัมฤทธิ์ ศรีธำรงสวัสดิ์ ผู้จัดการชุดโครงการพัฒนาคุณภาพและประเมินติดตามชุดโครงการวิจัย และสังเคราะห์เชื่อมโยงการพัฒนานโยบายด้านผู้สูงอายุ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี กล่าวว่า ประเทศไทยได้ก้าวสู่สังคมสูงวัยแล้ว และกำลังก้าวสู่สังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ในขณะที่ประเทศเรายังไม่ก้าวพ้นประเทศรายได้ปานกลาง ภาวะดังกล่าวก่อให้เกิดความกังวลต่อผลกระทบต่างๆ ที่จะตามมาทั้งในด้านการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจ แรงงาน ตลอดจนการจัดระบบบริการด้านต่างๆในสังคม ซึ่งแผนผู้สูงอายุแห่งชาติฉบับที่สอง พ.ศ. 2545-2564 ได้กำหนดวิสัยทัศน์ไว้ว่า "ผู้สูงอายุเป็นหลักชัยของสังคม" ซึ่งผู้สูงอายุจะเป็นเช่นนั้นได้ต้องมีความมั่นคงทางสังคม(Social security) มีสุขภาพที่ดี(Healthy) มีส่วนร่วมในครอบครัว ชุมชน และสังคม(Participation) รวมถึงการยังประโยชน์ต่อบุคคลอื่นในครอบครัว ชุมชน และสังคม

...

นพ.สัมฤทธิ์ กล่าวต่อว่า สาระสำคัญในการประชุมครั้งนี้ เป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ผลการศึกษาวิจัยภายใต้ "แผนงานบริหารจัดการโครงการวิจัยท้าทายไทย กลุ่มเรื่อง Active and Productive Aging" 3 ด้าน ได้แก่ 1)การเตรียมความพร้อมของแรงงานวัย 45 ปี ขึ้นไปเพื่อก้าวสู่วัยสูงอายุอย่างกระปรี้กระเปร่าในกลุ่ม ลูกจ้างภาคเอกชน ลูกจ้างชั่วคราวในภาคราชการ และแรงงานนอกระบบ 2)การพัฒนาศักยภาพและบทบาทของผู้สูงอายุผ่านกลไกรูปแบบชมรมผู้สูงอายุ โรงเรียนผู้สูงอายุ ศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตและส่งเสริมอาชีพผู้สูงอายุ(ศพอส.) และการรวมกลุ่มตามกิจกรรมหลายช่วงวัย และ 3) การเตรียมความพร้อมของระบบเพื่อการสูงวัยอย่างมีสุขภาวะในด้านการพัฒนาตัวชี้วัดพฤฒพลัง การพัฒนาสิ่งแวดล้อมที่เป็นมิตรกับผู้สูงอายุ และมาตรการป้องกันการพลัดตกหกล้มและสมองเสื่อมในผู้สูงอายุ ซึ่งจากข้อค้นพบนี้นำมาสู่การพัฒนาเป็นข้อเสนอเชิงนโยบาย มาตรการ และกลไกที่เสนอให้หน่วยงานต่างๆ พิจารณานำไปขับเคลื่อนให้เป็นรูปธรรมเพื่อทำให้เกิด "สังคมสูงวัยอย่างกระปรี้กระเปร่า(Active and Productive)" อย่างแท้จริง

นางภรณี ภู่ประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนสุขภาวะประชากรกลุ่มเฉพาะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) กล่าวว่า ข้อเสนอเชิงนโยบายจากงานวิจัยชุดนี้ ถือเป็นข้อเสนอเชิงนโยบายที่มีฐานคิดจากงานวิจัย ที่เกี่ยวข้องกับการเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับสังคมสูงอายุและการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ ทั้งมิติด้านเศรษฐกิจ สังคม และสุขภาพ โดยได้วิเคราะห์ให้เห็นข้อค้นพบเชิงประจักษ์จากงานวิจัยด้านนโยบาย และการทำงานในระดับพื้นที่ ทำให้เห็นจุดแข็งและจุดอ่อน เพื่อนำมาสู่การพัฒนาข้อเสนอแนะเชิงนโยบายนี้ ที่มีความครอบคลุมทั้งมิติด้านเศรษฐกิจ สังคม สุขภาพ และสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการดำเนินชีวิตของผู้สูงอายุ ในส่วนของ สสส.สามารถนำข้อค้นพบจากการศึกษาวิจัยรวมถึงข้อเสนอเชิงนโยบายที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะในประเด็นด้านสุขภาพและด้านสังคม ไปใช้ในการวางแผนการสนับสนุนโครงการเพื่อหนุนเสริมการเตรียมความพร้อม และพัฒนาศักยภาพผู้สูงอายุได้ตามพันธกิจ สสส.รวมถึงร่วมกับภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้องทั้งภาคประชาสังคม ภาครัฐ รวมถึงภาคเอกชน เพื่อนำข้อค้นพบและข้อเสนอเชิงนโยบาย ไปขับเคลื่อนประเด็นที่เกี่ยวข้องได้ เช่น การพัฒนาเครื่องมือ ชุดความรู้เพื่อสร้างความตระหนักและเกิดการเตรียมความพร้อม เพื่อเป็นผู้สูงอายุที่มีคุณภาพของวัยแรงงาน การพัฒนาศักยภาพชมรมผู้สูงอายุ หรือสนับสนุนกิจกรรมที่สร้างความเข้มแข็งและกระบวนการเรียนรู้ให้ผู้สูงอายุ เช่น โรงเรียนผู้สูงอายุ รวมถึงการพัฒนาเครือข่ายที่มีคนทุกช่วงวัยร่วมกันทำกิจกรรมสร้างสรรค์สังคม หรือทำให้ผู้สูงอายุมีส่วนร่วมและเป็นพลังขับเคลื่อนสังคมอย่างต่อเนื่อง