ความดังไม่คงทน ความสุขจากความดัง เข้ามาแล้วก็ผ่านไป ชื่อเสียงเงินทอง อาจจะสร้างสุขได้ แต่เป็นแค่แป๊บๆ แล้วอะไรกันแน่? คือความสุขที่แท้จริง...ชาวไทยรู้กันดีแล้วว่า ศาสนาพุทธ เป็นศาสนาประจำชาติไทย แต่ทุกวันนี้เราจะเห็นคนเสื่อมทางด้านจริยธรรมคุณธรรมมากขึ้นๆ ในหลากหลายรูปแบบ จนน่าวิตกอย่างแรงที่ชาวไทยส่วนหนึ่งมีจิตที่ต่ำตมกันไปแล้ว

บันเทิงไทยรัฐออนไลน์ ได้รับคำแนะนำดีๆ จากคุณอิ่ม วีรศักดิ์ ชุณหจักร กรรมการรายการดัง เชฟกระทะเหล็ก Iron Chef Thailand (หรืออีกฉายาคือเจ้าพ่อรีสอร์ทหรู เพราะเป็นผู้บริหารของเสม็ดรีสอร์ทกรุ๊ป Samed Resorts ) ว่าช่วงนี้นั้นดาวดังอินเดีย กากัน มาลิค อยู่ในเมืองไทย เป็นโอกาสดีที่บันเทิงไทยรัฐออนไลน์ จะได้ไปพูดคุยกับซุป'ตาร์อินเดีย กากัน มาลิค พระเอกมาดเข้ม แฟนคลับชาวไทยคุ้นหน้ากันดีแล้ว จากการที่เขาเคยรับบทเล่นเป็นพระราม จากซีรีส์ หนุมานสงครามมหาเทพ 

กากัน มาลิค มีผลงานที่โดดเด่นอีกมากมาย หลังจากรับเล่นเป็นพระพุทธเจ้าในหนังเรื่อง ศรีสิทธัตถะ โคตมะ สร้างที่ประเทศศรีลังกา กลายเป็นหนังทำเงินมหาศาล ส่งให้เขาพุ่งแรงกลายเป็นซุป'ตาร์ การเล่นเป็นพระพุทธเจ้า ทำให้เขาอินกับบท ได้ศึกษาพระธรรมคำสอนต่างๆ จึงทำให้เขาเปลี่ยนการนับถือศาสนา หันมาตั้งใจนับถือพุทธศาสนาแทนเรียบร้อยแล้ว

ความเป็นซุป'ตาร์ ได้มาทั้งชื่อเสียงเงินทองอย่างเยอะแต่ กากัน มาลิค เชื่อว่านั้นไม่ใช่หนทางแห่งความสุขที่แท้จริง ไม่ใช่เป้าหมายที่เขาต้องการในชีวิต เป้าหมายสูงสุดของการได้เกิดมาเป็นคนของ กากัน มาลิค คืออะไร? น่าสนใจมากๆ รีบไปอ่านกันได้เลย

...

หลายคนรู้แล้ว ว่าคุณรักในหลวง ร.9 มากๆ อยากถามถึงเหตุผลว่า ทำไมถึงรักในหลวง ร.9 มากๆ ขนาดนี้? "สำหรับคำถามนี้ ผมต้องบอกเลยว่า ผมไม่เคยตอบได้อย่างครบถ้วน ซึ่งต้องใช้เวลาหลายวันที่จะบอกถึงเหตุผลเหล่านี้ แต่ผมขอสรุปสั้นๆ เลยว่า พระองค์ทรงเป็นแบบอย่างที่ยิ่งใหญ่สำหรับโลกใบนี้ ที่สอนให้พวกเราทั้งหลายได้รู้ว่า ภาระหน้าที่แท้จริงของกษัตริย์ หรือเหล่าผู้นำประเทศคืออะไร

"นั่นคือการทำช่วยเหลืออุปถัมภ์ เอาใจใส่ดูแลประชาชนของพระองค์ท่าน ให้อยู่ดีกินดีมีความสุข ตลอดรัชสมัย นอกจากนี้พระองค์ยังทรงแสดง ให้พวกเราได้ตระหนักว่า ความสุขที่แท้จริงเกิดจากภายใน อย่างที่พระพุทธเจ้าเคยทรงแสดง และสั่งสอนไว้ให้เหล่าสงฆ์สาวกทั้งหลาย

"นอกจากนี้พระองค์ ในหลวง ร.9 ยังทรงเป็นผู้เสียสละอันยิ่งใหญ่ ด้วยการทรงงานอย่างหนัก พระองค์เสด็จไปทุกแห่งหนตั้งแต่รากหญ้าถึงสูงสุด เพื่อยกระดับประเทศของพระองค์ให้พัฒนา พระองค์ยังทรงเป็นองค์เอกอัครศาสนูปถัมภก ทรงเชิดชูธรรมะที่พระพุทธองค์ฝากไว้ในโลกใบนี้ ทำให้ประเทศไทยในปัจจุบัน ถูกทั่วโลกยอมรับว่าเป็นเมืองหลวงของพระพุทธศาสนา

"ผมยังคงย้ำคำพูดที่เป็นความจริงนี้ว่า พระองค์คือกษัตริย์ของเหล่ากษัตริย์ทั้งปวง ทุกครั้งที่ผมได้สนทนาพูดคุยกับคนไทย แล้วเค้าเหล่านั้นเอ่ยว่า นี่คือกษัตริย์ของฉัน เป็นการตอกย้ำว่าพระองค์ทรงสถิตอยู่ในใจของคนไทยทุกคนเสมอมา สำหรับผมพระองค์คืออีกหนึ่งผู้รู้แจ้ง (ตรัสรู้) ผมขอถวายความเคารพครับ"

มาเมืองไทยครั้งล่าสุดนี้เพื่ออะไร? "ท่านรัฐมนตรีด้านความยุติธรรมทางสังคม และการช่วยเหลือพิเศษ แห่งรัฐมหาราษฏระ ประเทศอินเดีย ท่านศรีราชกุมาร บาโดเล ผู้เป็นพุทธมามกะคนสำคัญในประเทศอินเดีย มีความศรัทธาที่จะบวช เพื่อที่จะเรียนรู้วัฒนธรรม ประเพณี และความเป็นประเทศพระพุทธศาสนาที่เจริญรุ่งเรืองในไทย เป็นเวลา 7 วัน

"ท่านเปรียบเสมือนคุณพ่ออีกคนของผม เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่นักการเมือง ซึ่งเป็นรัฐมนตรีแห่งรัฐ มาบวชที่เมืองไทย ซึ่งจะเป็นตัวอย่างทำให้ชาวอินเดีย ได้ตระหนักถึงพระพุทธศาสนาในประเทศของเขา ผมจึงประสานเพื่อที่จะจัดการอุปสมบทขึ้นที่วัดธาตุทอง พระอารามหลวง กรุงเทพ ผ่านเพื่อนรักของผมคุณแนท (ณัฏฐกิตติ์ ชัยเฉลิมมงคล) ผมต้องกราบขอบพระคุณท่านเจ้าอาวาส (พระราชวรญาณโสภณ) และพระคุณเจ้าทุกรูป ตลอดถึงคุณแนท ที่ให้การสนับสนุนช่วยเหลือ จนทำให้งานออกมาด้วยดี

...

"ครั้งนี้ผมเลยมาอาศัยกินนอนอยู่ที่วัดธาตุทองฯ ตลอดระยะเวลาการบวช เพื่อเป็นลูกศิษย์ คอยเดินตามและอุปัฏฐาก พระพุทธปาโล (ท่านศรีราชกุมาร บาโดเล) ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ได้ใช้ชีวิตอยู่ในวัดธาตุทองฯ ผมรู้สึกมีความสุขมาก ผมรู้สึกมีความสงบจากภายในจิตใจที่ยากจะบรรยาย ผมภูมิใจและซาบซึ้งใจเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของงานนี้ ผมมาอยู่ที่เมืองไทยเป็นเวลา 10 วัน พักอยู่ในวัดธาตุทองฯ ตลอด"

หลักธรรมของพระพุทธศาสนาที่ชอบคืออะไร แชร์ให้ฟังหน่อย? "ก่อนอื่นผมขอพูดว่า สิ่งสำคัญที่สุดที่โลกของเราต้องการในตอนนี้คือ ความรักและความเมตตา ผมขอบอกว่าหลักธรรมนั้น ไม่เหมือนอาหาร ที่ผมจะบอกได้ว่าอาหารจานไหน เป็นอาหารจานโปรดของผม ผมเชื่อว่าหลักธรรมคำสอนของพระพุทธองค์มีความสำคัญเท่ากัน ซึ่งเราควรที่จะดำเนินชีวิต ตามหลักธรรมคำสอนนั้นๆ เริ่มต้นง่ายๆ ด้วยการฝึกรักษาศีล 5 ฝึกฝนทีละข้อตั้งแต่ 1 ถึง 5 เรียนรู้กับมันไปอย่างช้าๆ ไม่ต้องเร่งรีบ สุดท้ายคุณจะพบความสุข และสงบจากภายในอย่างแน่นอน"

หนังที่ประเทศศรีลังกาที่ดังๆ คุณรับบทเป็นพระเอก แล้วทำเงินเยอะมากๆ ชื่อเรื่องอะไร? "เรื่องศรีสิทธัตถะ โคตมะ สร้างที่ประเทศศรีลังกา ได้รับรางวัลมากมาย ทำประวัติศาสตร์คนดูเยอะที่สุด จนกลายเป็นภาพยนตร์อมตะตลอดกาลของประเทศศรีลังกาไปแล้วครับ ภาพยนตร์แสดงถึงความเสียสละที่ยิ่งใหญ่ของเจ้าชายสิทธัตถะ ก่อนจะตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า"

กับการเป็นซุป'ตาร์อินเดียของคุณ จริงๆ แล้วความเป็นดาราของคุณ คืออะไรกันแน่? "ผมยังรับงานอย่างต่อเนื่อง แต่ช่วงนี้ผมพักรับงาน อาจจะไปจนถึงต้นปีหน้า ผมยังคงดิ้นรนและเรียนรู้อาชีพการเป็นนักแสดงของผม เหมือนเช่นที่ดาราทุกคนเป็น ทุกวันนี้คำว่า “ดารา” ของผมมีความหมายที่เปลี่ยนไป สำหรับผม ใครก็ตามที่ช่วยเหลือสังคม เสียสละเพื่อส่วนรวม มาก่อนความต้องการของตัวเอง คือดาราที่แท้จริง ดังนั้นความฝันของผม การเป็นดาราผู้เสียสละให้คนหมู่มาก ไม่ใช่ดารานักแสดง"

...

ตอนนี้คุณแต่งงานแล้ว? "ใช่ครับ ผมแต่งงานแล้วครับ ภรรยาผมชื่อปูจา" มีเป้าหมายสูงสุดในชีวิตอย่างไร หรือว่าต้องการไปถึงนิพพาน? "มหาสมบัติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกใบนี้ คือพระธรรม ที่ถูกมอบโดยลูกหลานสายเลือดชาวอินเดีย ที่ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าพระองค์นั้น แต่โชคร้ายที่พุทธศาสนิกชนในประเทศอินเดียทุกวันนี้เหลือน้อยเต็มที่ และกำลังค่อยๆ ลดลงไป

"ผมและเพื่อนๆ ชาวพุทธในอินเดีย ต้องการที่จะปกป้องพระธรรม และสร้างความตระหนักให้แก่คนในประเทศของเรา ถึงพระธรรมที่ พระพุทธเจ้าได้ทรงมอบไว้ให้ลูกหลานชาวอินเดีย ผมต้องขอขอบพระคุณท่าน ดอกเตอร์ บี.อาร์. เอมเบดการ์ เป็นเพราะท่านศาสนาพุทธ จึงยังคงอยู่ในประเทศอินเดียจนถึงทุกวันนี้

"และท่านยังเป็นผู้ฟื้นฟูพระพุทธศาสนาในอินเดีย ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2499 แต่ ณ ขณะนี้ กงล้อแห่งธรรมได้ปั่นช้าลง ดังนั้นด้วยความเป็นพุทธศาสนิกชนของผม เป้าหมายคือการเพิ่มการเร็วของกงล้อธรรมจักรในอินเดีย สร้างความตระหนักถึงความสำคัญของ พระธรรมอันยิ่งใหญ่ แก่คนในประเทศของผม ให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ เพื่อเขาเหล่านั้นจะได้นำไปใช้ประโยชน์ และได้ใช้ชีวิตอย่างสงบสุข ตามแนวพระธรรมของพระพุทธเจ้า ส่วนคำว่านิพพาน นั่นคือเป้าหมายของชาวพุทธแทบทุกคนครับ"

รู้สึกอย่างไรที่คนสมัยนี้ ไม่ละอายและเกรงกลัวต่อบาปกันแล้ว? "มันเป็นความจริงของโลกแห่งวัตถุนิยม พวกเราทั้งหลายไม่เกรงกลัวต่อบาป และขาดจริยธรรมคุณธรรม นั่นเป็นเพราะเราขาดสติ พวกเราทุกคนต่างรู้ว่าสิ่งไหนถูกสิ่งไหนผิด แต่จิตใจเราอ่อนแอมาก จึงทำให้เราเลือกในสิ่งที่ผิด"

"เช่นเดียวกับที่ผมได้เข้าไปกราบ เจ้าประคุณสมเด็จพระวันรัต เจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร ท่านได้กล่าวตอนหนึ่งว่า คนเรามักจะเลือกคบคนไม่ดี ซึ่งคนไม่ดีนั่น คือคนที่อยู่ในใจเรานี่เอง ผมเชื่อว่าถ้าเราต่างเดินตามพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าและพัฒนาสติ มันจะเปลี่ยนแนวความคิดของเราอย่างแน่นอน"

...

"เราควรเริ่มฝึกจากเด็ก ที่มีอายุตั้งแต่ 5-13 ปี ให้เขาเหล่านั้น เรียนรู้จากการช่วยเหลือผู้อื่น เพื่อที่จะพัฒนาจิตใจเขา ให้ได้รับรู้ถึงความสุขจากภายในที่แท้จริง เมื่อเด็กเหล่านั้นเติบโตเป็นผู้ใหญ่ด้วยความรู้สึกจากแนวคิดแบบนั้น และเข้าใจว่าความสุขที่แท้จริงคืออะไร เขาเหล่านั้นก็จะเติบโตด้วยความถูกต้อง และไม่ออกนอกลู่ทางครับ".

กากัน มาลิค กับ พระราชวรญาณโสภณ (ชุบ เขมงฺกโร)​ เจ้าอาวาสวัดธาตุทอง พระอารามหลวง
กากัน มาลิค กับ พระราชวรญาณโสภณ (ชุบ เขมงฺกโร)​ เจ้าอาวาสวัดธาตุทอง พระอารามหลวง