เตือนใจ ดีเทศน์ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พา “ปู่คออี้” อายุ 107 ปี ผู้อาวุโสกลุ่มชาติพันธุ์ปาเกอญอ แห่งผืนป่าแก่งกระจาน มาทำบัตรประชาชน หลังได้สัญชาติไทยแล้ว ที่ อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี...

เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 31 กรกฎาคม 2561 นางเตือนใจ ดีเทศน์ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ได้นำนายคออี้ มีมิ หรือปู่คออี้ อายุ 107 ปี ชาวกะหร่าง บ้านบางกลอย ต.ห้วยแม่เพรียง อ.แก่งกระจาน เดินทางมาที่ว่าการอำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี เพื่อทำบัตรประจำตัวประชาชน ซึ่งก่อนหน้านี้นายคออี้ ได้มอบอำนาจให้ทนายความยื่นคำร้องขอสัญชาติไทยและบัตรประจำตัวประชาชนต่อนายทะเบียนอำเภอแก่งกระจาน 

นายสุธี เล้าสุบินประเสริฐ นายอำเภอแก่งกระจาน เปิดเผยว่า ได้สอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องและรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อประกอบการพิจารณาตามระเบียบข้อกฎหมาย และเห็นควรพิจารณาให้สัญชาติไทยแก่นายคออี้ โดยมีนางเตือนใจ ดีเทศน์ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ร่วมเดินทางมาเป็นสักขีพยาน โดยก่อนที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายทะเบียนอำเภอแก่งกระจาน ได้ประคองนายคออี้มานั่งพิมพ์รายนิ้วมือ และถ่ายรูปทำบัตรประจำตัวประชาชนนั้น นายคออี้ได้พนมมือขึ้นและกล่าวเป็นภาษากะเหรี่ยงสาปแช่งผู้คิดไม่ดีกับตนและครอบครัว

...

หลังจากใช้เวลากว่า 30 นาที จึงทำบัตรประจำตัวประชาชนเสร็จและมอบให้แก่นายคออี้ จากนั้น น.ส.สุภาภรณ์ นันท์สังข์ ผอ.ศูนย์พัฒนาราษฎรบนพื้นที่สูงจังหวัดเพชรบุรี กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ มอบเครื่องอุปโภค-บริโภค และเงินสงเคราะห์ จำนวน 1,000 บาท พร้อมมีเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลแก่งกระจานมาตรวจร่างกายให้แก่นายคออี้ในครั้งนี้ด้วย

นายอำเภอแก่งกระจาน กล่าวต่อว่า ก่อนหน้านี้เมื่อหลายปีก่อน ทางอำเภอแก่งกระจาน ได้เคยชักชวนนายคออี้ให้ลงมาดำเนินการขอสัญชาติไทย แต่ถูกนายคออี้ปฏิเสธ บอกว่าไม่อยากเป็นคนไทย แต่อยากกลับไปอยู่ที่บางกลอยบน หรือใจแผ่นดิน กระทั้งนางเตือนใจได้มาประสานอีกครั้ง และได้เดินทางไปพูดคุยกับนายคออี้จนยินยอมที่จะยื่นขอเพิ่มชื่อทะเบียนคนไทย แต่นายคออี้พูดและเขียนภาษาไทยไม่ได้ ประกอบกับสภาพร่างกายและอายุที่มาก นายคออี้จึงมอบอำนาจให้ทนายความมายื่นคำร้องขอสัญชาติไทยและบัตรประจำตัวประชาชน

นายสุธี กล่าวอีกว่า หลังทนายความมายื่นเรื่องแล้ว นายทะเบียนอำเภอได้ดำเนินการตรวจสอบตามระเบียบ พ.ร.บ.สัญชาติ ปี 2456 และระเบียบสำนักทะเบียนกลางกระทรวงมหาดไทย โดยนำข้อมูลสำรวจของศูนย์พัฒนาราษฎรบนพื้นที่สูงจังหวัดกาญจนบุรี เมื่อปี 2528 ที่ระบุว่านายคออี้เป็นเกิดในประเทศไทย จังหวัดเพชรบุรี พร้อมเชิญอดีตเจ้าหน้าที่สำรวจข้อมูลในขณะนั้น และบุคคลในพื้นที่ที่มีอายุ 80 ปีขึ้นไป มาสอบปากคำเพื่อประกอบการพิจารณาตามระเบียบข้อกฎหมาย ซึ่งนายทะเบียนดูจากหลักฐานเอกสารและพยานบุคคลแล้วเห็นว่าควรพิจารณาให้สัญชาติแก่นายคออี้ดังกล่าว

ด้าน นางเตือนใจ กล่าวว่า นายคออี้เป็นคนท้องถิ่นดั้งเดิม แต่นายคออี้ตกหล่นการบันทึกชื่อในทะเบียนราษฎร์ของไทย ตนติดตามเรื่องนี้มาตลอดในฐานะกรรมการสิทธิมนุษยชน เห็นว่านายคออี้สมควรที่จะได้รับสิทธิ์ในการเป็นสัญชาติไทย จึงประสานนำหลักฐานข้อมูลโดยเฉพาะภาพนายคออี้ถ่ายร่วมกับบิดานายวุฒิ บุญเลิศ ที่บ้านใจแผ่นดินเมื่อปี 2493 และพยานบุคคลที่อยู่ในเหตุการณ์ นำมาให้อำเภอแก่งกระจานตรวจสอบ กระทั้งได้รับการพิจารณาให้นายคออี้ได้รับสัญชาติไทยดังกล่าว.