ทำความรู้จัก ผู้นำตุรกี ผ่านปรากฏการณ์ปลดฟ้าผ่า แชมป์ พีรพล

อาจารย์นายซาการียา สุขจันทร์ หัวหน้าฝ่ายกฎหมายมูลนิธิมุสลิมเพื่อสันติ ในฐานะแกนนำในการเคลื่อนไหวเรียกร้องให้ นายพีรพล เอื้ออารียกูล หรือ แชมป์ พิธีกรรายการกีฬาชื่อดัง ออกมากล่าวขอโทษ ต่อการที่ได้วิพากษ์วิจารณ์ นายเรเจป ไตยิป แอร์โดกัน ประธานาธิบดีของตุรกี ด้วยถ้อยคำที่รุนแรง ในลักษณะของการใส่ร้าย พร้อมกับเรียกร้อง ให้ผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ในฐานะต้นสังกัด ปลด พิธีกรชื่อดัง ออกจากทุกรายการ เนื่องจากการกระทำดังกล่าว ได้ส่งผลให้เกิดกระแสความไม่พอใจอย่างรุนแรง ต่อทั้งชาวมุสลิมทั้งที่อยู่ในประเทศไทยและต่างประเทศ

ทุกอย่างจบ หลัง แชมป์ ยอมขอโทษ โดนปลดจากทุกรายการ

โดยล่าสุด ทนายซาการี ได้เปิดใจกับ ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ ว่า หลังจากได้รับคำยืนยันจากทางต้นสังกัดว่า ได้นำตัวนายแชมป์ ไปขอขมาต่อ ท่านเอกอัครราชทูตตุรกี ประจำประเทศไทยแล้ว รวมถึงยังมีคำสั่งปลดพิธีกรหนุ่ม ออกจากทุกรายการ เพื่อเป็นการแสดงความรับผิดชอบ จึงถือว่าทุกอย่างจบลงด้วยดี และคงจะไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ เพิ่มเติมอีก

เพราะถือว่าในขณะนี้ นายแชมป์ ได้กล่าวขอโทษ และพร้อมจะแก้ไขในสิ่งที่ผิดพลาดแล้ว

ปกป้องสิทธิชาวมุสลิม โลกอิสลาม ยกย่อง ผู้นำตุรกี หนึ่งในผู้นำจิตวิญญาณ

การใช้ถ้อยคำที่รุนแรง ในกล่าวพาดพิง ท่านประธานาธิบดีของตุรกี ของ นายแชมป์ นั้น นอกจากจะเป็นการกระทำที่ไม่สมควร เนื่องจากเป็นการไปดูหมิ่นผู้นำของประเทศอื่น แล้ว ยังถือได้ว่า เป็นการทำร้ายหัวใจของชาวมุสลิมทั่วโลกอีกด้วย เนื่องจาก ผู้นำท่านนี้ เป็นที่ชื่นชอบอย่างมากในหมู่ชาวมุสลิม

ท่านประธานาธิบดีเรเจป ไตยิป แอร์โดกัน ในทัศนะของชาวมุสลิม ถือว่าเป็นคนดีคนหนึ่ง เนื่องจากเป็นผู้ที่มีบทบาทอย่างมาก ในการออกมาเคลื่อนไหว เพื่อปกป้องสิทธิของชาวมุสลิมที่ถูกรังแก เช่น ชาวปาเลสไตน์ ชาวซีเรีย หรือ ชาวโรฮีนจา จนกระทั่งทำให้รัฐบาลของชาติตะวันตก รู้สึกไม่พอใจ

ด้วยเหตุนี้ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ท่านประธานาธิบดีเรเจป ไตยิป แอร์โดกัน จึงได้รับความนิยมชมชอบอย่างสูงในหมู่ชาวมุสลิมทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น ทั้งในประเทศอินโดนีเซีย มาเลเซีย รวมถึงโลกอาหรับ ซึ่งทำให้ ณ เวลานี้ ผู้นำตุรกี จึงอยู่ในฐานะ หนึ่งในผู้นำทางจิตวิญญาณของชาวมุสลิมไปแล้ว

ฉะนั้น การไปพูดพาดพิงในลักษณะ ใส่ร้าย โดยไม่มีหลักฐานมาพิสูจน์ จึงทำให้ชาวมุสลิมทั่วโลกรู้สึกว่า รับไม่ได้ และเป็นการไม่ให้เกียรติผู้นำของประเทศอื่น ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง

เตือนสติสื่อ ตรวจสอบข้อมูล ระวังตกเป็นเครื่องมือตะวันตกไม่รู้ตัว

จากบทเรียนที่เกิดขึ้น ส่วนตัว จึงอยากให้สื่อมวลชนไม่ว่าจะแขนงใดก็ตาม ควรที่จะมีการตรวจสอบข้อมูลและใช้ความระมัดระวัง ในการนำเสนอต่อประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากข้อมูลที่จะนำเสนอนั้น สุ่มเสี่ยงต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ หรือ อาจไปกระทบกระเทือนต่อความรู้สึก ของ ประชาชน ไม่ว่าจะชนชาติใด หรือ ศาสนาใดก็ตาม

หากเป็นไปได้ สำหรับประเด็นในลักษณะแบบนี้ ส่วนตัวมองว่า สื่อมวลชนควรหลีกเลี่ยง หรือ ไม่ควรนำเสนอไปเลยด้วยซ้ำไป อย่างเช่น กรณีคุณแชมป์ ซึ่งโดยปกติอ่านข่าวกีฬา ก็สมควรพูดคุยเฉพาะประเด็นข่าวกีฬา ไม่ควรนำเรื่องการเมืองระหว่างประเทศมาเกี่ยวข้อง...

เพราะอาจตกเป็นเครื่องมือของตะวันตก ไปโดยไม่รู้ตัว

“สิ่งที่คุณแชมป์ กล่าวหาผู้นำตุรกี มันไม่ใช่ข้อเท็จจริงในเชิงหลักฐาน เป็นการพูดลอยๆ โดยไม่แหล่งอ้างอิงด้วยซ้ำไป ว่า เอามาจากไหน...?

ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ มันเป็นข้อมูลลอย ซึ่งพอเป็นข้อมูลลอย คุณแชมป์ ซึ่งอยู่ทั้งในฐานะพิธีกรและผู้สื่อข่าว จึงไม่ควรพูดออกไปเป็นอย่างยิ่ง!” ทนายซาการี กล่าวด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น

ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ รายงาน