พฤติกรรมแบบนี้ไม่น่ารักเลยนะคะ สำหรับคุณพี่โชเฟอร์ตุ๊กๆ หรือโชเฟอร์รถแท็กซี่ (บางส่วน) ที่ร่วมกันสร้างภาพลบให้ประเทศไทย เพื่อผลประโยชน์ส่วนตน ไถเงินเข้ากระเป๋า ยิ่งแล้วไปใหญ่ เมื่อเรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นหน้าพระบรมมหาราชวัง และรอบๆเกาะรัตนโกสินทร์ ...ใจคอทำด้วยอะไรก็ไม่รู้ แต่วันนี้ "ถ้าใครอ่านเรื่องราวทั้งหมดนี้" แล้วรู้ถึงกลโกงสุดแยบยล อย่าลืมกระจายข่าวบอกนักท่องเที่ยว หรือคนรู้จักรอบๆ ตัวโดยทั่วกัน
แม้จะถูกสื่อหลายสำนักตีแผ่ไปซ้ำแล้วซ้ำเล่า ก็ยังไม่มีหน่วยงานไหนจัดการให้เป็นเรื่องเป็นราว กวาดล้างจนสิ้นซาก เพราะเท่าที่เห็นกวาดล้างให้หายไป แป๊บๆ กลับมาทำพฤติกรรมแบบเดิมๆ ใหม่อีกรอบ จนชาวบ้านที่พบเห็นเอือมระอา "ไทยรัฐออนไลน์" พาชำแหละกลโกงสุดหน้าด้านของคนบางกลุ่มอีกครั้ง ใครได้อ่านก็อย่าลืมกระจายข่าวบอกนักท่องเที่ยวรอบๆ ตัวกันด้วย เพื่อที่จะไม่เกิดความเสียหายกระทบภาพลักษณ์ การท่องเที่ยว
"ปักหลักรอเหยื่อ หน้าวัดพระแก้ว"
เหยื่อที่ว่านี้ก็คือ นักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่พูดภาษาไทยไม่ได้ เดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลมาจากประเทศต่างๆ รอบโลก ด้วยความหวังตั้งใจจะมาชมประวัติศาสตร์ ปฏิมากรรม ความงามของประเทศไทย แต่คุณพี่โชเฟอร์แท็กซี่ โชเฟอร์ตุ๊กๆ (บางกลุ่ม) ทำลายความหวังเขาพังทลาย ถึงขนาดที่นักท่องเที่ยวเค้ามายืนจ่อหน้าวังแล้ว แต่ก็มิวาย บิดเบือนข้อมูลด้วยประโยคที่ว่า "วันนี้พระบรมมหาราชวังปิด" หรือ "วันนี้ไม่เปิดให้ต่างชาติเข้า" หรือ "การแต่งตัวแบบนี้ไม่สามารถเข้าไปภายในได้" ... นี่แค่ประโยค ตัวอย่างเล็กๆ น้อยๆ
...
"หลอกพาไปตามโปรแกรมที่ตัวเองได้เงิน"
หลอกว่าวัดพระแก้วไม่เปิด หลอกว่าพระบรมมหาราชวังปิด เพื่อนำสู่การจูงใจชวนชาวต่างชาติเหล่านี้ไปเที่ยวสถานที่อื่นๆ ตามโปรแกรมที่โชเฟอร์หัวใส มีส่วนได้ส่วนเสียกับผู้ประกอบการร้านค้า ..ขายทัวร์แพ็กเกจรายวัน พาขึ้นตุ๊กๆ ชมความงามที่ต่างๆ ก่อนจะไปสู่การพาเข้าร้านเพชรพลอย และร้านขายของต่างๆ ที่บวกราคาจนเกินความเป็นจริง เมื่อนักท่องเที่ยวตกลงปลงใจซื้อ พี่โชเฟอร์เขาก็จะได้เปอร์เซ็นต์จากร้านนั้นๆ เป็นผลตอบแทน
เท่านั้นยังไม่พอ ยังสร้างเรื่องโยงไปถึงรัฐบาลไทย บอกว่า "ร้านนี้เป็นร้านที่รัฐบาลมีส่วนรู้เห็น" จึงเลือกสรรแต่สิ่งดีๆ มาแนะนำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ ราคาถูกมาก หากซื้อนำไปขายต่อที่ประเทศตัวเอง ก็จะสามารถนำไปขายต่อบวกได้อีก 100 เปอร์เซ็นต์ คำพูดทั้งหมดเป็นการโน้มน้าวใจจากเจ้าของกิจการร้านค้า
หลอกว่าท่าน้ำปิด ให้ขึ้นรถตุ๊กๆ อ้อมไปนั่งอีกท่า เพื่อเก็บค่าโดยสาร
โชเฟอร์ตุ๊กๆ (บางส่วน) พฤติกรรมแย่ถึงขนาดไปดักรอตามท่าเรือต่างๆ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา และเมื่อเหยื่อที่เป็นนักท่องเที่ยวเดินผ่าน ก็พยายามเข้าไปพูดคุยขายทัวร์ และสร้างเรื่องหลอก (อีกตามเคย) ว่าท่าเรือปิดนะยู ยูต้องนั่งรถตุ๊กๆ ของไออ้อมไปขึ้นอีกท่านึง เพื่อเก็บค่าโดยสารครั้งละ 400-500 บาท
แค่นั้นยังไม่พอ หลอกขายทัวร์ล่องเรือชมวัดราคาแพงเว่อร์ เดินขายตามก้นนักท่องเที่ยว ตื๊อให้ซื้อจนได้ ส่วนคนขายไม่ได้มีแค่พี่ตุ๊กๆ นะจ๊ะ ยังมีใครที่ไหนก็ไม่รู้มายืนดักรอกันอื้อซ่า อยากจะถามว่าจิตใจทำด้วยอะไร ไม่รู้สึกสงสารนักท่องเที่ยวกันบ้างเลยหรือ?
ยัดของใส่มือนักท่องเที่ยว ข่มขู่เอาเงินรอบเกาะรัตนโกสินทร์
เสียงสะท้อนจากนักศึกษา ม.ธรรมศาสตร์ ให้ข้อมูลกับเราว่า บ่อยครั้งที่เห็นคนไทยยืนดักรอฝรั่ง เพื่อขายหมวก ขายสร้อยต่างๆ นานา อยู่ดีๆ ก็ไปยัดใส่มือเขา บางคนพอเขาไม่ซื้อ ก็พาพวกพ้องมาขู่เรียกเก็บเงิน ถือเป็นพฤติกรรมที่ไม่ควรเกิดขึ้นเลยในเมืองไทย เพราะทำให้เกิดภาพลบ เสียหายเป็นอย่างมาก
เมียฝรั่ง ฉุนสิ! นั่งเรือมาลงหน้าวัดพระแก้ว เสียค่าโง่ 5,000 บาท
เรื่องจริงจากคนไทย ซึ่งมีภรรยาเป็นต่างชาติ เล่าให้ฟังว่า "เมื่อ 2 ปีที่แล้ว เราพาแฟนต่างชาติ และลูกๆ จะไปเที่ยววัดพระแก้ว แล้วอยากล่องเรือเที่ยวแถววัด จากนั้นก็มีตุ๊กๆ มาบอกว่า เขาจะพาไปขึ้นเรืออีกทีนึงเป็นเรือใหญ่ เราก็เชื่อเขา เพราะคนขับตุ๊กๆ เป็นคนอารมณ์ดี พูดคุยตลก ชวนหัวเราะ พอไปถึงที่ขึ้นเรือส่วนตัว เรายังให้เงินคนขับตุ๊กๆ ไปอีก ส่วนค่าตั๋วขึ้นเรือ คนไทยคนละ 800 บาท × 4 คน = 3,200 บาท ส่วนแฟนต่างชาติ 1 คน ต้องจ่าย 1,500 บาท
...
สรุปแล้วครั้งนั้นเสียค่าโง่ไปเกือบ 5 พัน เพื่อนั่งเรือมาลงหน้าวัดพระแก้ว พอลงเรือไปแล้วถึงเห็นราคาท่าเรือหน้าวัดว่า คนละ 40 บาท จากนั้นเลยคุยถามคนที่ท่าเรือถึงรู้ว่า เสียค่าโง่เขาไป เหตุเพราะเชื่อใจคนชาติเดียวกัน คิดว่าเขาจะซื่อสัตย์ในอาชีพเขากัน
บวกราคาค่าโดยสารเกินจริง ซึ่งเป็นสิ่งที่คนไทยก็โดน
บ่อยครั้งที่ชาวต่างชาติโพสต์ข้อความลงบนโลกโซเชียล แฉถึงพฤติกรรมแท็กซี่ และพี่ตุ๊กๆ (บางส่วน) ที่ชอบบวกค่าโดยสารเกินความจริง นั่งรถวนไปไม่ถึง 500 เมตร แต่เรียกเก็บเงินตั้ง 500 บาท ... นี่ไม่รวมเรื่องปฏิเสธผู้โดยสารต่างชาติ เพราะเรียกเงินเกินจำนวนจริงแล้วเขาไม่หลงกลใช้บริการให้ไปส่ง... ซึ่งเรื่องการปฏิเสธผู้โดยสารแบบนี้ คนไทยก็โดนกันเป็นประจำ