ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 1 มิ.ย.61 ปิดที่ 1,719.82 จุด ลดลง 7.15 จุด มี มูลค่าซื้อขาย 57,649.09 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 135.21 ล้านบาท
บล.เอเซีย พลัส ออกบทวิเคราะห์น่าสนใจ “ส่องหุ้นเด่น 6 กลุ่ม รับผลบวกมีการเลือกตั้ง” ระบุว่า เมื่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยร่าง พ.ร.ป.ที่มา ส.ว. และ พ.ร.ป.เลือกตั้ง ส.ส. ไม่ขัดรัฐธรรมนูญทั้ง 2 ฉบับ ขั้นตอน จากนี้คือ รอนำขึ้นทูลเกล้าฯ และลงประกาศในราชกิจจาฯ คาดว่าการเลือกตั้งน่าจะมีขึ้นเดือน พ.ค.62
และทุกครั้งที่การเมืองคลี่คลาย หุ้นกลุ่มที่จะตอบรับทางบวกคือหุ้นที่ได้ประโยชน์มี 4 กลุ่มหลัก ได้แก่ รับเหมาก่อสร้าง, วัสดุก่อสร้าง, แบงก์ และนิคมอุตสาหกรรม ส่วนที่เป็นกลุ่มรองคือ ค้าปลีก และมีเดีย (โฆษณา)
โดยกลุ่มรับเหมาก่อสร้างรับผลบวกตรงๆ เพราะหลังเลือกตั้งรัฐบาล ใหม่มักจะมีโครงการลงทุนภาครัฐจำนวนมาก ซึ่งหากดูจากโครงการภาครัฐที่คาดเปิดประมูลปี 61 มีมากถึง 24 โครงการ มูลค่า 8.2 แสนล้านบาท
ขณะที่ปัจจุบัน backlog ของบริษัทรับเหมาก่อสร้าง 13 แห่ง มี มูลค่ารวม 4.5 แสนล้านบาท รองรับการรับรู้รายได้ 2 ปี โดยกลุ่มรับเหมาฯ ที่ฝ่ายวิจัยเลือกหุ้นเด่นมา 3 ราย ได้แก่ STEC, CK, SEAFCO
กลุ่มวัสดุก่อสร้างจะได้ประโยชน์ต่อจากกลุ่มรับเหมาฯ ความต้องการใช้วัสดุก่อสร้าง เช่น ปูนซีเมนต์ เหล็ก จะมีมากขึ้น ในกลุ่มนี้เลือก SCC เป็นหุ้นเด่น
ส่วนกลุ่มแบงก์ การปล่อยสินเชื่อผ่านโครงการลงทุนต่างๆจะขยายตัวดีขึ้น บวกกับจีดีพีที่เติบโต คาดว่าสินเชื่อปีนี้จะขยายตัว 6.3% แม้ 4 เดือนแรกปีนี้ยังต่ำกว่าเป้า แต่เชื่อว่าจะเร่งตัวขึ้นในครึ่งปีหลัง รวมทั้ง ดอกเบี้ยจะเข้าสู่ขาขึ้นปลายปีนี้ เลือกหุ้นเด่น คือ BBL และ TCAP
ขณะที่กลุ่มนิคมฯมีเป็นประเด็นบวกจากโครงการ EEC อยู่แล้ว เมื่อมีการเลือกตั้ง นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศจะเชื่อมั่นมากขึ้น ตามมาด้วยการตัดสินใจลงทุน หุ้นเด่นกลุ่มนี้คือ WHA และ AMATA
กลุ่มค้าปลีกได้ประโยชน์จากเศรษฐกิจที่ดีขึ้น การเดินหน้าโครงการภาครัฐ การลงทุนภาคเอกชน ก่อให้เกิดการจ้างงาน สร้างรายได้ ผู้บริโภค จับจ่ายใช้สอยมากขึ้น เลือก BJC, COM7, BEAUTY เป็นหุ้นเด่น
ปิดท้ายกลุ่มมีเดีย เน้นไปที่ธุรกิจโฆษณา ทุกครั้งที่มีการเลือกตั้ง การโฆษณาจะคึกคักมากเป็นพิเศษ เชียร์ PLANB!!
อินเด็กซ์ 51