
กระบะโดนตัดหน้า ชนยับ โจ๋ 17 ขาขาด ไถลพลิกคว่ำกวาดเรียบร้านชำ
หนุ่มโรงงานระยอง เลิกกะดึก ขับกระบะกลับบ้าน ชนโครมฮอนด้าแจ๊ซ กลับรถตัดหน้า ไถลฟาดเสาไฟหัก กวาดมอเตอร์ไซค์จอดริมทาง หนุ่ม 17 โชคร้าย ขาขาดกระเด็น ก่อนพลิกคว่ำ พุ่งเข้าร้านชำ ข้าวของพังยับ...
เมื่อเวลา 00.15 น. วันที่ 4 เม.ย. พ.ต.ท.ณัฐพงศ์ แพงไพรี รอง ผกก. (สอบสวน) สภ.ปลวกแดง รับแจ้งอุบัติเหตุรถชนบนถนนสายปลวกแดง-บ้านคลองกรำ หมู่ 4 ต.ปลวกแดง อ.ปลวกแดง จ.ระยอง มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส ขาขวาขาด และได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยอีก 2 คน ในที่เกิดเหตุพบรถกระบะ ยี่ห้อโตโยต้า 4 ประตู สีขาว ทะเบียน กจ 4657 กาฬสินธิ์ สภาพหงายท้องล้อชี้ฟ้า อยู่ในร้านขายของชำ เลขที่ 173 หมู่ 4 ต.ปลวกแดง ของนายขวัญ น้อยอุดม อายุ 32 ปี ซึ่งได้รับความเสียหายอย่างหนัก
นายขวัญ บอกว่า ปิดร้านเร็ว พออาบน้ำเสร็จก็ได้ยินเสียงโครม จากนั้นเห็นรถกระบะคันดังกล่าวหงายท้องไถลชนประตูหน้าบ้าน และข้าวของในร้านเสียหาย รวมทั้งรถจักรยานยนต์ โดยค่าเสียหายประมาณแสนกว่าบาท
ห่างออกไปประมาณ 10 เมตร พบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ สีขาว ทะเบียน 1 กฆ 3507 ระยอง อยู่ในสภาพพังยับ และเสาไฟฟ้าหัก 1 ต้น โดยขาขวาของคนขับรถจักรยานยนต์ ขาดกระเด็นออกไปราว 3 เมตร กู้ภัยได้นำส่ง รพ.ปลวกแดง ไปแล้วพร้อมคนขับรถกระบะและแฟนสาว
จากการสอบสวนทราบว่านายนคร ทรัพย์กุล อายุ 31 ปี ชาวตำบลภูปอ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งทำงานโรงงานแห่งหนึ่ง หลังจากเลิกงานกะดึกได้ขับรถกระบะกลับ โดยมี น.ส.พัชรี ทรัพย์กุล อายุ 31 ปี นั่งมาด้วย วิ่งมาจากตลาดปลวกแดงมุ่งหน้ากลับบ้านที่บ้านคลองกรำ ต.ตาสิทธิ์ อ.ปลวกแดง กระทั่งมีรถเก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า แจ๊ซ สีเทาดำ ทะเบียน 5 กจ 8745 กรุงเทพมหานคร ที่จอดอยู่ริมถนนด้านซ้ายได้กลับรถตัดหน้า จึงชนเข้าอย่างจังและเสียหลักไปชนรถจักรยานยนต์ที่นายอัครราช คงทน อายุ 17 ปี นั่งคร่อมจอดอยู่เนื่องจากน้ำมันหมด จนได้รับบาดเจ็บสาหัสขาขาด รวมถึงเสาไฟฟ้า ก่อนพลิกคว่ำเข้าไปในร้านขายของชำได้รับความเสียหาย โดยนายนคร บอกว่า พอรถชนกับรถเก๋งก็จำอะไรไม่ได้แล้ว ซึ่งตนกับแฟนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย
ส่วนรถเก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า แจ๊ซ ซึ่งถูกชนจนด้านหน้าพังยับ ได้ขับรถมาจอดหน้าอพาร์ตเมนต์ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 100 เมตร และคนขับได้หายตัวไป คาดหลบเข้าไปอยู่ในอพาร์ตเมนต์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยกรถไปไว้ที่ สภ.ปลวกแดง เพื่อติดตามตัวคนขับมาสอบสวน รวมถึงคนที่เกี่ยวข้องต่อไป.