ก่อนหน้านี้ อาจารย์ เผ่าทอง ทองเจือ เคยเขียนเล่าเรื่องของ สมเด็จพระนารายณ์มหาราช เอาไว้ ไทยรัฐออนไลน์ ขอรวบรวมนำมาให้อ่านกันอีกครั้ง
1. สมเด็จพระนารายณ์มหาราช หรือ พระนารายณ์ ประสูติกาลในราวปี พ.ศ. 2175 หรือ 386 ปีที่ผ่านมา
2. เมื่อ พระบิดา คือ สมเด็จพระเจ้าปราสาททอง เสด็จสวรรคต ขณะนั้น พระนารายณ์ทรงมีพระชนมายุได้เพียง 24 พรรษา ได้ร่วมมือกับ พระศรีสุธรรมราชา ซึ่งเป็นพระเจ้าอาแท้ๆ ช่วงชิงราชสมบัติมาจาก เจ้าฟ้าไชย ซึ่งเป็นพระเชษฐาของพระนารายณ์ ที่เพิ่งขึ้นครองราชย์ได้เพียง 2 วัน
3. พระนารายณ์ ทรงวางแผน และขอความช่วยเหลือจากชาวต่างชาติหลายกลุ่ม ที่อยู่อาศัยอยู่ที่อยุธยา ฮอลันดา ญี่ปุ่น ชาวเปอร์เซีย หรืออิหร่าน และชาวมุสลิม-ปัตตานี ในการชิงราชสมบัติ
4. หลังจากนั้น พระนารายณ์ ทรงยกย่องให้ พระศรีสุธรรมราชา ขึ้นครองสิริราชสมบัติต่อไป เพื่อให้ตายใจ พระศรีสุธรรมราชา ทรงตั้งให้พระนารายณ์ เป็น พระมหาอุปราช เสด็จไปประทับที่พระราชวังบวรสถานมงคล ปัจจุบันคือ พระราชวังจันทรเกษม
...
5. หลังจากนั้นเพียงไม่ถึง 2 เดือนครึ่ง พระนารายณ์ ทรงใช้ชาวต่างชาติคณะเดิม ร่วมกันก่อการปฏิวัติขึ้นอีกครั้งหนึ่ง โดยในครั้งนี้ได้ทรงจับพระศรีสุธรรมราชา สำเร็จโทษเรียบร้อยแล้ว จึงเสด็จขึ้นครองสิริราชสมบัติ เป็นพระมหากษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยา ลำดับที่ 28
6. พระนารายณ์ ทรงสร้างเมืองลพบุรีขึ้นอีกเมืองหนึ่ง ริมแม่น้ำลพบุรี หลังจากที่ครองราชสมบัติผ่านไปแล้วราว 10 ปี และยังได้เสด็จไปประทับที่เมืองนี้ในแต่ละปี เป็นเวลายาวนานกว่าที่กรุงศรีอยุธยา จนนักประวัติศาสตร์หลายๆ ท่านเรียกว่า "ราชธานีแห่งที่สอง"
7. การสร้างเมืองลพบุรี เนื่องจาก พระนารายณ์ และสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง มีศัตรูมากมายรายรอบพระองค์ เนื่องจากการเข่นฆ่าล้างบางพระราชวงศ์ด้วยกันมาหลายครั้งหลายหน รวมทั้งเรื่องของเสนาบดีใหม่และเก่า ที่ไม่อาจลงรอยทำงานร่วมกันได้ เพราะมาจากต่างมูลนายหลายข้าหลายเจ้า
ส่วนตัวเมืองลพบุรี และพระราชวังเอง ที่ทรงสร้างขึ้นใหม่นั้น ก็มีรั้วรอบขอบชิด กะทัดรัด ง่ายต่อการรักษาความปลอดภัย สามารถคัดเลือกเฉพาะเสนาบดีที่ทรงไว้วางพระราชหฤทัยเท่านั้น ให้ตามเสด็จไปที่ลพบุรีได้ นี่เองที่น่าจะเป็นสาเหตุหลักมากกว่าที่เคยกล่าวอ้างกันว่าเพื่อหนีพม่า หนีฝรั่งเศส หรือหนีชาวต่างชาติ
8. หลังจากที่ พระนารายณ์ ทรงครองราชสมบัติผ่านไปได้ 32 ปีแล้ว ในขณะที่เจริญพระชนมพรรษาได้ 56 พรรษา ราว พ.ศ. 2231 ขณะนั้น ทรงพระประชวรหนัก และประทับอยู่ที่พระที่นั่งสุทธาสวรรย์ พระราชวังนารายณ์ราชนิเวศน์ เมืองลพบุรี
9. ปลายรัชสมัยของพระนารายณ์ ได้ทรงแต่งตั้งให้พระเพทราชาเป็นผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน ในขณะที่สมเด็จพระนารายณ์ประทับอยู่ที่ลพบุรี และทรงพระประชวรหนัก พระเพทราชาได้ออกอุบายกำจัดพระปีย์ พระโอรสบุญธรรมในสมเด็จพระนารายณ์ ที่ทรงรักดั่งแก้วตาดวงใจให้ตายตกไป โดยที่พระนารายณ์ทรงรับรู้ แต่ไม่อาจช่วยเหลือได้ หัวอกของพระองค์จึงแทบจะสลาย ที่ต้องทนเห็นลูกอันเป็นที่รัก ถูกพรากไปประหารต่อหน้าต่อตา
10. พระเพทราชา ยังมีคำสั่งให้จับเจ้าพระยาวิชาเยนทร์ หรือ คอนสแตนติน ฟอลคอน เสนาบดีคนสนิทใกล้ชิดกับพระองค์ และเป็นที่โปรดปรานเสน่หาอย่างยิ่ง ไปประหารชีวิต ยิ่งทำให้พระนารายณ์ที่กำลังประชวรหนักถึงกับทรุดลงอย่างรวดเร็ว
11. เมื่อพระนารายณ์เสด็จสวรรคต อย่างทุกข์ระทม บรรดาข้าราชการดั้งเดิมของพระองค์ที่เคยไว้วางพระราชหฤทัย กลับอัญเชิญพระเพทราชาขึ้นครองราชย์ กับทั้งยังได้ล้มราชวงศ์เดิม และสถาปนาราชวงศ์ใหม่ คือ ราชวงศ์บ้านพลูหลวง ดังนั้น พระนารายณ์จึงเป็นพระมหากษัตริย์องค์สุดท้ายของราชวงศ์ปราสาททอง