“นิพิฏฐ์” ค้าน ”บิ๊กตู่” ใช้ม.44 ปลด“สมชัย” ออกจาก กกต. ถาม ที”สมชาย แสวงการ"วิป สนช.พูดคล้ายกันกลับไม่โดนปลดบ้าง ยก 2 เหตุผล ยัน มีสิทธิ์ถาม

วันที่ 21 มี.ค. นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคสช. ใช้อำนาจ มาตรา 44 สั่งปลดนายสมชัย ศรีสุทธิยากร ออกจากการทำหน้าที่ กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ออกจากตำแหน่งว่า ส่วนตัวไม่เห็นด้วยกับการใช้คำสั่งปลดนายสมชัย ออกจาก กกต. เพราะชื่อก็ชัดเจนว่า เป็นองค์กรอิสระ สาเหตุที่ตั้งขึ้นก็เพื่อให้ปราศจากการแทรกแซงของฝ่ายบริหาร ครั้งนี้จึงถือเป็นการแทรกแซงชัดเจนที่สุด เหตุการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย หากเป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง เพราะถือว่าผิดกฎหมาย แต่ครั้งนี้ที่ทำได้ เพราะมีมาตรา 44 และมีผลกระเทือนต่อองค์กรอิสระในการปฎิบัติหน้าที่ รวมถึงกระเทือนต่อส่วนราชการประจำ คือ จะยิ่งทำให้องค์กรภาครัฐอื่นๆ หวั่นไหวในการปฎิบัติหน้าที่ ทั้งที่สิ่งที่นายสมชัยพูด ส่วนใหญ่เป็นความจริงว่า เกิดปัญหาในทางปฏิบัติ

“ล่าสุดที่นายสมชัยพูด คือ ถ้ามีการส่งร่างกฎหมายหมวดเลือกตั้งสองฉบับนี้ไปให้ศาลตีความก็จะกระทบต่อการเลือกตั้ง อาจจะไม่ได้เลือกตั้งตามโรดแม็ป หรือไม่ แต่คนในคณะรัฐมนตรี (ครม.) หลายคนออกมาย้ำว่า ไม่มีผลกระทบ ทั้งที่นายสมชัย ยืนยันว่า มีผลกระทบต่อผู้ปฏิบัติ แม้แต่นายสมชาย แสวงการ วิปสนช.เอง ยังออกมาเรียกร้องขอให้พรรคการเมืองร่วมลงสัตยาบัน เลื่อนการเลือกตั้งออกไปอีก 3 เดือน แสดงว่า นายสมชายยอมรับว่า การยื่นเรื่องให้ศาลตีความกฎหมายมีผลกระทบต่อการเลือกตั้งจริง หากเป็นเช่นนี้ นายกฯควรใช้มาตรา 44 กับนายสมชาย ด้วยหรือไม่ ที่ผมเห็นว่า นายสมชัยมีสิทธิ์พูดเพราะ1.ในฐานะผู้ปฏิบัติ 2. สิ่งที่นายสมชัยเอามาพูดส่วนใหญ่ล้วนเป็นความจริง และเกิดขึ้นจริง

...

"ขณะที่สิ่งที่นายกฯ พูด สังคมต่างเห็นแล้วว่า ไม่ได้เกิดขึ้นจริง ผมจึงอยากให้ผู้มีอำนาจควรรับฟังคนที่มีความเห็นต่างบ้าง หรือนายกฯต้องการให้เป็นประชาธิปไตยแบบไทยนิยมที่ต้องสงบเงียบแบบในเรือนจำ ที่มีความเห็นขัดแย้งต่อผู้มีอำนาจไม่ได้เลย เช่นนั้นหรือ ทั้งที่การจะก้าวสู่สังคมประชาธิปไตย ควรมีเสียงเอะอะเหมือนในตลาดสดบ้าง ซึ่งต้องใช้ความอดทนและทำความเข้าใจกัน” นายนิพิฏฐ์ กล่าว...