
คาดว่าหลายคนยังจำกันได้ กับเหตุการณ์ที่แอปเปิลปรับลดความเร็วของเครื่องในผู้ใช้ไอโฟนรุ่นเก่า จนทางบริษัทออกมายอมรับ พร้อมกับขอโทษในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ในการแถลงการณ์ขอโทษฉบับนั้นให้เหตุผลกำกับว่า แบตเตอรี่ลิเทียมไอออนที่ใช้อยู่ในไอโฟนนั้น เมื่อใช้ไปในระยะเวลานานจะเกิดการเสื่อมสภาพตามอายุ ซึ่งอาจก่อให้เกิดการดับกะทันหัน และแอปเปิลไม่ต้องการให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะนั้น
เพื่อแสดงความขอโทษจากใจ แอปเปิลจึงปรับลดราคาค่าเปลี่ยนแบตเตอรี่ของไอโฟนรุ่นเก่า (ที่หมดประกันแล้ว) เหลือเพียง 29 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 1,000 บาท) จากแต่เดิมราคา 79 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 2,900 บาท) ซึ่งข้อเสนอนี้สามารถใช้ได้กับผู้ใช้ไอโฟนทั่วโลกตั้งแต่เดือนมกราคม 2018 เป็นต้นไป
ไม่เพียงเท่านั้น แอปเปิลยังระบุต่ออีกว่า ระบบปฏิบัติการ iOS รุ่นถัดไปในปี 2018 นี้จะมีฟีเจอร์ที่แสดงประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ เพื่อให้ผู้ใช้ตรวจสอบได้เอง ซึ่งเห็นว่าจะเป็นจริงตามนั้น
ล่าสุดนี้พบว่า ระบบปฏิบัติการ "iOS 11.3 beta 2" ได้มีการทดลองเพิ่มฟีเจอร์ “Battery Health” เพื่อให้ผู้ใช้งานได้เข้าไปดูประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ว่ายังคงสภาพสมบูรณ์เหมือนเดิมหรือไม่ โดยเข้าไปที่ Settings > Battery > Battery Health ซึ่งจะแบ่งการแสดงผลต่างกัน ดังนี้

1. Maximum Capacity
สำหรับไอโฟนเครื่องใหม่ที่เพิ่งเริ่มใช้งาน จะเห็นว่าความจุแบตเตอรี่เต็ม 100% แต่จะลดลงเรื่อยๆ ตามระยะเวลาการใช้งานที่มากขึ้น
2. Peak Performance Capabilities
เพื่อบ่งบอกประสิทธิภาพการทำงานของแบตเตอรี่ย่อยๆ ดังนี้
- Performance normal: ประสิทธิภาพปกติ
- Performance management applied: เปิดระบบจัดการพลังงานเพื่อป้องกันเครื่องดับ
- Battery Health Unknown: ระบบไม่สามารถตรวจสอบประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ได้ ควรนำไปตรวจสอบที่ศูนย์
- Performance management turn off: ผู้ใช้งานเลือกติดระบบนี้ด้วยตัวเอง
- Battery Degraded: แบตเตอรี่เสื่อมประสิทธิภาพแล้ว ควรติดต่อศูนย์บริการเพื่อเปลี่ยนแบตฯใหม่
อย่างไรก็ตาม ไทยรัฐออนไลน์ ต้องย้ำอีกรอบว่านี่คือเบต้าของระบบปฏิบัติการ iOS 11.3 beta 2 สำหรับใครที่อยากทดลองใช้ คงต้องอดใจรออีกนิด เพราะคิดว่าอีกไม่นานก็จะปล่อยออกมาให้ใช้กันแล้วจ้า.




ที่มา