ถือว่าไม่แย่เลยทีเดียวสำหรับผลประกอบการไตรมาสแรกของแอปเปิล หลังจากปล่อยสมาร์ทโฟนเรือธงดีไซน์ใหม่อย่าง iPhone X ออกมาลุยตลาด
ล่าสุด แอปเปิลประกาศผลรายงานทางการเงินประจำไตรมาสแรกปีงบประมาณ 2018 สิ้นสุดเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2017 บริษัทประกาศรายได้ประจำไตรมาสที่ 88.3 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งเพิ่มขึ้น 13 เปอร์เซ็นต์เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนและเป็นสถิติใหม่ พร้อมรายได้สุทธิประจำไตรมาส 3.89 เหรียญสหรัฐฯ ต่อหุ้นปรับลด ซึ่งเพิ่มขึ้น 16 เปอร์เซ็นต์ นับเป็นสถิติใหม่เช่นกัน ยอดขายในต่างประเทศถือเป็น 65% ของรายได้ประจำไตรมาส
ทิม คุก CEO ของแอปเปิล กล่าวว่า “เรารู้สึกยินดีที่จะรายงานผลประกอบการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Apple ด้วยการเติบโตในทุกด้านรวมถึง รายได้สูงสุดเท่าที่เคยมีมาจากผลิตภัณฑ์ iPhone ใหม่ iPhone X ทำผลงานได้เหนือความคาดหมายและเป็นผลิตภัณฑ์ที่ขายดีที่สุดทุกสัปดาห์นับตั้งแต่เริ่มวางจำหน่ายในเดือนพฤศจิกายน”
นอกจากนั้น Apple ได้ประเมินผลประกอบการประจำไตรมาสที่สอง ประจำปีงบประมาณ 2018 ดังนี้
- รายได้อยู่ระหว่าง 60 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ถึง 62 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ
- กำไรขั้นต้นอยู่ระหว่าง 38 เปอร์เซ็นต์ ถึง 38.5 เปอร์เซ็นต์
- ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานอยู่ระหว่าง 7.6 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ถึง 7.7 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ
- รายได้/(รายจ่ายอื่นๆ) 300 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
- อัตราภาษี 15 เปอร์เซ็นต์
...
ได้ยินข่าวดีแบบนี้ ผู้เกี่ยวข้องทั้งหลายคงยิ้มออก เนื่องจากเหล่าคณะกรรมการบริหารของ Apple ได้ประกาศเงินสดปันผลหุ้นสามัญของบริษัทอยู่ที่ 0.63 เหรียญสหรัฐฯ ต่อหุ้น เงินปันผลจะจ่ายไปยังผู้ถือหุ้นในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2018 โดยที่ผู้ถือหุ้นจะต้องมีสถานะการถือครองหุ้นเมื่อสิ้นสุดวันทำการของวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2018