สมเด็จพระราชินีอาชิ เชริง เป็ม วังชุก แห่งภูฏาน เสด็จเยือนประเทศไทยเพื่อเจริญศาสนสัมพันธ์ พร้อมด้วยพระธิดาและพระโอรส พุทธศาสนิกชนร่วมถวายการต้อนรับเนืองแน่น..

เมื่อวันที่ 31 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สมเด็จพระราชินีอาชิ เชริง เป็ม วังชุก พร้อมด้วยพระธิดาและรินโปเชหรือองค์ลามะน้อย เจ้าชายราชวงศ์ภูฏาน เสด็จเป็นการส่วนพระองค์เพื่อเจริญศาสนสัมพันธ์ พุทธเถรวาท-พุทธตันตรยานกับคณะสงฆ์ไทย

เมื่อเวลา 08.30 น. เสด็จยังวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร โดยมี พระพรหมสิทธิ กรรมการมหาเถรสมาคม ประธานสำนักงานกำกับดูแลพระธรรมทูตไปต่างประเทศ เจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ พร้อมด้วยคณะสงฆ์ พระธรรมโพธิวงศ์ หัวหน้าพระธรรมทูตไทยสายอินเดีย-เนปาล ถวายการต้อนรับ ทั้งยังมีพุทธศาสนิกชนที่ทราบข่าวมาเฝ้ารอรับเสด็จ และเข้าขอพรจากองค์ลามะน้อยจำนวนมาก จากนั้น เสด็จไปยังวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร โดยมีพระเทพเมธี รักษาการเจ้าอาวาสวัดอรุณฯ และพระโสภณวชิราภรณ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาส พร้อมด้วยคณะสงฆ์ ถวายการต้อนรับ

ทั้งนี้ พระพรหมสิทธิ กล่าวว่า เมื่อครั้งที่ได้เดินทางไปปฏิบัติศาสนกิจที่ประเทศภูฏาน เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ได้มีโอกาสเข้าเฝ้าสมเด็จพระราชินีอาชิ เชริง เป็ม วังชุก พร้อมด้วยพระธิดา และรินโปเชหรือองค์ลามะน้อย ที่พระตำหนัก พระราชอุทยานทิมพู เมืองทิมพู จึงได้เชิญท่านให้มาเจริญศาสนสัมพันธ์กับคณะสงฆ์ไทย องค์ลามะน้อย มีพระชันษาเพียง 3 ปีนั้น ทางภูฏานเชื่อกันว่า เป็นผู้ระลึกชาติได้ เมื่อกว่า 800 ปีที่แล้ว อีกทั้งเวลามีพิธีสำคัญทางพระพุทธศาสนากษัตริย์จิกมี จะโปรดเกล้าฯ ให้องค์ลามะน้อย เสด็จแทนพระองค์อยู่เป็นประจำ

...

พระธรรมโพธิวงศ์ กล่าวว่า เรื่ององค์ลามะน้อยนี้ สร้างความฮือฮาในประเทศภูฏานและอินเดียเป็นอย่างมาก เพราะเมื่อครั้งที่องค์ลามะน้อย เสด็จมายังมหาวิทยาลัยนาลันทา ประเทศอินเดีย องค์ลามะน้อยทรงจำได้ว่า เคยเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยนาลันทา ประเทศอินเดีย เมื่อ 824 ปีก่อน และทรงจำสถานที่ต่างๆ ได้อย่างแม่นยำ แม้กระทั่งห้องเรียนของพระองค์เอง.