"วิรัช" ถาม คสช.ยึดทรัพย์ "ยิ่งลักษณ์" ไม่ได้ ใครรับผิดชอบ จวก คสช.ยับเล่นปาหี่การเมือง น้ำเน่ายิ่งกว่านักการเมือง
เมื่อวันที่ 31 ม.ค. 61 นายวิรัช ร่มเย็น อดีต ส.ส.ระนอง และกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีศาลปกครองกลางมีคำสั่งยกคำร้องขอทุเลาการยึดทรัพย์สินของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ จำนวน 3.5 หมื่นล้านบาท ว่า ชัดเจนแล้วว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ มีพฤติการณ์ยักย้ายถ่ายเททรัพย์สินในครอบครอง เห็นได้ชัดจากกรณีเงินฝากในบัญชีธนาคารที่พบว่ามีเงินรวม 24.9 ล้านบาท แต่เจ้าหน้าที่รัฐโดยกระทรวงการคลังและกรมบังคับคดีสามารถยึดได้เพียง 1.9 ล้านบาทเท่านั้น ยังไม่รวมถึงทรัพย์สินอื่นๆ เกิดคำถามคาใจคนไทยว่าตลอดเวลาเกือบ 4 ปี ที่รัฐบาล คสช.เข้ามาบริหารและกำหนดทิศทางประเทศได้ มีมาตรการป้องกันและปราบปรามการยักย้ายถ่ายเททรัพย์สินของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และพวกที่ต้องรับผิดชอบความเสียหายจำนวนมหาศาล ในโครงการรับจำนำข้าวหรือไม่อย่างไร เพราะหากมีความตั้งใจจริงในการติดตามทวงเงินเข้ารัฐ ก็สามารถสั่งดำเนินการแช่แข็งการยักย้ายถ่ายเททรัพย์ได้ตั้งแต่ปี 2558 ที่เริ่มขั้นตอนตรวจสอบตามกระบวนการยุติธรรม ซึ่งเคยมีหลายฝ่ายได้เคยทักท้วงไว้ก่อนแล้ว ก็จะไม่เกิดความเสียหายซ้ำซ้อนเช่นนี้ขึ้น แต่กลับเพิกเฉยเสมือนยักคิ้วหลิ่วตาให้ยักย้ายถ่ายเททรัพย์สิน จึงไม่น่าแปลกที่สังคมซึ่งจับตามองกรณีนี้จะวิพากษ์วิจารณ์ โดยครหาว่าผู้มีอำนาจบางคนในรัฐบาล คสช.แอบจับมือเจรจาต่อรองกับนายใหญ่ เพื่อช่วยน้องสาวใช่หรือไม่ อย่างไรที่ชัดเจนคือเหตุใดจึงปล่อยให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ใช้กลไกของเจ้าหน้าที่รัฐบางส่วน แอบหลบหนีออกนอกราชอาณาจักรไปอยู่ประเทศอังกฤษ จนวันนี้ผู้มีอำนาจในรัฐบาลนี้ยังไม่มีคำอธิบายใดๆ ที่พอฟังขึ้นให้กับสังคมไทย เมื่อยึดทรัพย์คืนรัฐไม่ได้เช่นนี้ คสช.หรือใครจะรับผิดชอบ
...
"แต่ที่ผมน่าประหลาดที่สุด คือ เมื่อรัฐบาล คสช.ประกาศสงครามกับการทุจริตคอร์รัปชัน หรือการละเลยเพิกเฉยต่อการปฏิบัติหน้าที่ จนเป็นเหตุให้รัฐและส่วนรวมเสียหายมหาศาล เช่น กรณีโครงการรับจำนำข้าว นอกจากปล่อยให้ผู้ต้องรับผิดชอบหลบหนีคำสั่งศาลแล้ว รัฐบาล คสช.ยังทำผิดพลาดบกพร่องต่อหน้าที่ซ้ำอีก ในการป้องกันและติดตามทรัพย์สินเพื่อคืนแผ่นดิน ตามคำสั่งศาลมูลค่า 3.5 หมื่นล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายคดีที่รัฐบาล คสช.มีพฤติการณ์แปลกๆ กระทำสวนทางกับคำพูด เล่นปาหี่การเมืองเข้าลักษณะหน้าไห้วหลังหลอก พูดจากลับกลอกไปวันๆ แทนที่จะใช้เวลาที่เหลือเร่งทำงานให้เห็นผลสำเร็จเป็นรูปธรรมจับต้องได้ แต่กลับเล่นการเมืองน้ำเน่าเสียยิ่งกว่านักการเมืองที่ตัวท่านเคยดูถูก จึงไม่แปลกใจที่สังคมไทยจะมองว่าเป็นขาลงของรัฐบาล คสช. เพราะการกระทำส่อเจตนาและมีนัยว่า สำคัญกว่าคำพูดเสมอ ซึ่งเวลาจะเป็นตัวพิสูจน์ คสช.ยึดมั่นในผลประโยชน์ของประเทศไทยและสังคม จริงหรือไม่" นายวิรัช กล่าว