หญิงชาวอังกฤษคนหนึ่งสารภาพกับสามี ว่าถูกข่มขืนหลังเมาไม่ได้สติจากงานปาร์ตี้ แต่ท้ายที่สุดกลับพบว่าผู้กระทำความผิดไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก ผู้เป็นสามี คนที่ใช้ชีวิตร่วมกันกับเธอมาตลอดนั่นเอง...

เหตุเกิดในค่ำคืนหนึ่งของเดือนพฤษภาคม 2016 โดยตามรายงานของ หนังสือพิมพ์ The Independent ของอังกฤษ หญิงรายนี้ได้ตัดสินใจออกไปนอกบ้านเพราะมีปากเสียงกับสามีของเธอ หลังดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างหนัก เธอตกอยู่ในสภาพที่มีอาการมึนเมามาก โชคดีที่เธอได้รับความช่วยเหลือจากพลเมืองดีที่พบเห็นและมีความห่วงใยจึงได้โทรแจ้งให้สามีของเธอมารับ เมื่อกลับไปถึงบ้าน สามีของเธอกลับฉวยโอกาสในขณะที่เธอเมามายไม่ได้สติทำการล่วงละเมิดทางเพศเธอ

ในวันต่อมา เธอเกิดความสงสัยว่า คงมีใครข่มขืนเธอโดยที่ไม่รู้ว่าเป็นสามีของเธอ เธอรับสารภาพกับสามีว่าเธอตกเป็นเหยื่อถูกข่มขืน ซึ่งเขาก็ได้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทว่าในที่สุด การตรวจสอบดีเอ็นเอแสดงให้เห็นว่า ผู้กระทำความผิดในคดีข่มขืนไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นสามีของภรรยาผู้เคราะห์ร้าย เขาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนในชั้นต้นว่า ภรรยาของเขาตกอยู่ในสภาพ "เมามายจนไม่ได้สติ แทบไม่รู้สึกตัวเลย และก็พูดจาไม่รู้เรื่อง"

ขณะที่ผู้พิพากษากล่าวในศาลระหว่างการพิจารณาคดีในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า "คุณจึงได้พาเธอกลับบ้านและข่มขืน โดยที่เธอไม่อยู่ในสภาวะที่จะยินยอมได้เพราะปริมาณแอลกอฮอล์จำนวนมากที่เธอดื่ม ซึ่งเป็นข้อสรุปที่ชัดเจนของคณะลูกขุน"

แม้จำเลยจะให้การเพื่อปกป้องตนเอง โดยอธิบายว่า เขาได้มีเพศสัมพันธ์กับเธอโดยที่เธอยินยอมพร้อมใจเมื่อสัปดาห์ก่อนหน้า แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านดีเอ็นเอได้พิสูจน์ให้เห็นความจริงที่ตรงกันข้าม สามีของเหยื่อจึงถูกตัดสินจำคุก 7 ปี และจะต้องถูกบันทึกในทะเบียนประวัติผู้กระทำความผิดทางเพศแห่งชาติ (National Sex Offender Registry) และจะถูกห้ามไม่ให้ทำการติดต่อกับภรรยาของเขา ยกเว้นผ่านทางทนายความเท่านั้น

...

ส่วนฝ่ายภรรยาที่ถูกสามี "ทรยศ" ระบุว่า เขาเป็นคนที่เธอไว้วางใจมากที่สุดและเธอตกใจสุดขีด หลังจากพบความจริงที่ไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดขึ้นกับตนเอง