(รูปเล็ก:พล.ร.ท.โจเซฟ โอคอยน์ ผบ.กองเรือที่7)
ผบ.ต้องรับผิดชอบสถานเดียว...กองทัพเรือสหรัฐฯ สั่งปลดผู้บัญชาการกองเรือที่ 7 แล้ว หลังเกิดเหตุเรือรบสหรัฐฯ ชนกับเรือสินค้าถึง 4 ครั้งในปีนี้ ล่าสุด เรือพิฆาต ยูเอสเอส จอห์น เอส แมคเคน ชนเรือบรรทุกน้ำมัน ทหารเรือหาย10
เมื่อ 23 ส.ค. 60 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานความคืบหน้าเหตุเรือพิฆาตยูเอสเอส จอห์น เอส แมคเคน สังกัดกองเรือที่ 7 ของกองทัพเรือสหรัฐฯ ประสบเหตุชนกับเรือบรรทุกน้ำมัน ‘อัลนิค แมค‘ ในช่องแคบมะละกา เมื่อรุ่งเช้าวันจันทร์ที่ 21 ส.ค. เป็นเหตุให้ทหารเรืออเมริกันบาดเจ็บ 5 นาย และสูญหาย 10 นาย ก่อนที่เมื่อวันที่ 22 ส.ค. นักประดาน้ำได้พบร่างทหารเรือหลายนายในเรือพิฆาตแล้วว่า กองทัพเรือสหรัฐฯ ได้มีคำสั่งปลด พล.ร.ท.โจเซฟ โอคอยน์ พ้นตำแหน่งผู้บัญชาการกองเรือที่ 7 หลังจากเกิดเหตุเรือรบสหรัฐฯ ชนกับเรือลำอื่นในน่านน้ำของเอเชียถึง 4 ครั้งแล้ว ในปีนี้ โดยแถลงการณ์จากกองทัพเรือระบุเหตุผลที่สั่งปลดพล.ร.ท.โอคอยน์ว่า เนื่องจากทางกองทัพสูญเสียความเชื่อมั่นต่อความสามารถในการเป็นผู้บัญชาการกองเรือที่7 ของพล.ร.ท.โอคอยน์
ก่อนหน้านี้ บีบีซี เผยว่า การสั่งปลด พล.ร.ท.โอคอยน์ ซึ่งรับตำแหน่งผู้บัญชาการกองเรือที่ 7 ตั้งแต่ปี 2558 นั้น ยังไม่แน่ชัดว่าจะมีการประกาศคำสั่งอย่างเป็นทางการเมื่อใด เพียงแต่ได้มีการดำเนินการในขั้นตอนที่จะปลดเขาพ้นตำแหน่งแล้วหลังเกิดเหตุ เรือพิฆาต ยูเอสเอส จอห์น แมคเคนชนกับเรือบรรทุกน้ำมัน ในช่องแคบมะละกา ขณะที่เรือพิฆาตกำลังมุ่งหน้าไปยังสิงคโปร์
...
ทั้งนี้ เหตุเรือพิฆาตยูเอสเอส จอห์น แมคเคน ชนกับเรือบรรทุกน้ำมัน ทำให้เรือพิฆาตได้รับความเสียหายหนัก ด้านข้างเป็นรูโหว่ขนาดใหญ่ จนน้ำทะเลทะลักเข้าไปในที่นอนของลูกเรือ ทำให้หนีไม่ทัน ส่วนกองเรือที่ 7ของสหรัฐฯ นั้น มีฐานประจำการอยู่ที่เมืองโยโกสุกะ ในประเทศญี่ปุ่น นับเป็นกองเรือวางกำลังในส่วนหน้าที่ใหญ่ที่สุดของกองทัพเรือสหรัฐฯ ซึ่งมีเรือรบ และเรือดำน้ำประจำการมากถึงประมาณ 50-70 ลำ.