ผลสอบพบมีมูล ผิดวินัยร้ายแรง ชงย้ายพ้นพื้นที่

ผลสอบสวนข้อเท็จจริง ผอ.โรงเรียนสามเสนวิทยาลัย พบมูลความจริงมีความผิดชัดเจน มีการรับเงินช่วงห้ามระดมทุน ขัดนโยบาย สพฐ. ซ้ำร้ายมีการ ออกใบเสร็จรับเงินย้อนหลัง เลขาธิการ กพฐ.สั่งตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัยทันที พร้อมล้อมคอก ปี 2561 โรงเรียนรับเด็กตามแนวปฏิบัติเข้มข้น ด้าน รมว.ศึกษาฯ สั่งตรวจสอบการรับเงินบริจาคโรงเรียนต้องโปร่งใส

ตามที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง นายวิโรฒ สำรวล ผอ.โรงเรียนสามเสนวิทยาลัย กรณีมีผู้เผยแพร่คลิปวีดิโออ้างว่าผู้ปกครองนำเงินสดจำนวน 400,000 บาท มาจ่ายให้กับทางโรงเรียนภายในห้องทำงานของนายวิโรฒ เพื่อแลกให้ลูกได้เข้าเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 นั้น

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 19 ก.ค. นายการุณ สกุลประดิษฐ์ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ ถึงเรื่องดังกล่าวว่า คณะกรรมการสืบข้อเท็จจริงฯ ได้รวบรวมข้อมูลและหลักฐานจากผู้ร้องเรียน พบว่ามีมูลความจริงตามที่มีการกล่าวหา เพราะนโยบายของสพฐ.ที่เป็นแนวปฏิบัติเรื่องการรับนักเรียนนั้น ห้ามมิให้มีการเรียกระดมทรัพยากรระหว่างการรับนักเรียน แต่จากการตรวจสอบคลิปพบว่าเหตุการณ์ในคลิปได้เกิดขึ้นในวันที่ 19 เม.ย. เป็นช่วงที่ห้ามให้ระดมทรัพยากร ที่สำคัญไม่ได้มีการออกใบเสร็จทันที แต่มาออกย้อนหลังให้ในวันที่ 20 มิ.ย. ถือว่าผิดระเบียบกระทรวงการคลังเกี่ยวกับเรื่องการรับเงิน ดังนั้นจึงเท่ากับว่านายวิโรฒเข้าข่ายมีการกระทำความผิดจริง คณะกรรมการสอบสวนฯจึงสรุปเสนอให้มีการตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง หลังจากนี้ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) กทม. เขต 1 จะเป็นผู้ดำเนินการเสนอเรื่องให้ศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.) ตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรงต่อไป

...

เลขาธิการ กพฐ.กล่าวอีกว่า ส่วนประเด็นที่ นายวิโรฒยังมีอำนาจสั่งการในโรงเรียนได้อยู่นั้น เมื่อคำสั่งดังกล่าวออกแล้ว สพฐ.จะพิจารณาโยกย้ายนายวิโรฒออกจากพื้นที่ทันที อาจจะเข้ามาช่วยราชการในส่วนกลางก็ได้ สำหรับกรณีที่มีศิษย์เก่ามายื่นข้อมูลลับรายชื่อนักเรียนชั้น ม.1 ที่ทางโรงเรียนสามเสนวิทยาลัยรับเพิ่มอีกกว่า 50 คนนั้น เรื่องนี้คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงได้ตรวจสอบแล้ว ไม่พบเด็กกลุ่มดังกล่าวได้เข้าเรียน อย่างไรก็ตาม ในการสอบสวนหากคณะกรรมการสอบสวนฯพบหลักฐานเชื่อมโยงไปถึงบุคคลใด ก็จะมีการตั้งกรรมการสอบสวนด้วยทั้งหมดไม่มีการยกเว้น

นายการุณกล่าวต่อไปว่า รมว.ศธ.ได้ย้ำให้ดำเนินการเรื่องนี้อย่างโปร่งใสและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย หากมีความผิดจริงก็ให้ดำเนินการ เพราะเรื่องนี้สังคมให้ความสนใจ และคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นต้องมีความเป็นกลางด้วย เมื่อเกิดปัญหากรณีนี้ขึ้น ในการรับนักเรียนปีการศึกษา 2561 สพฐ.จะกำชับให้โรงเรียนทุกแห่งดำเนินการตามแนวปฏิบัติรับนักเรียนของ สพฐ.อย่างเคร่งครัดด้วย

ด้าน นพ.ธีระเกียรติกล่าวว่า เมื่อคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงสรุปว่าเรื่องนี้มีมูลความผิดชัดเจน ตนจึงสั่งการให้ สพฐ.ตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัย ขณะเดียวกันให้ไปตรวจสอบเรื่องการรับเงินบริจาค รวมถึงการรับนักเรียนผู้ทำคุณประโยชน์ของโรงเรียนต่างๆด้วย สพฐ.มีระเบียบชัดเจนว่า การรับเงินบริจาคห้ามทำในช่วงที่มีการรับนักเรียน และในการรับเงินนั้นมีการออกใบเสร็จให้หรือไม่ สพฐ. ไปตรวจสอบว่ามีเหตุการณ์ลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้นในโรงเรียนอื่นหรือไม่ ส่วนเรื่องการรับนักเรียนผู้ทำ คุณประโยชน์ กรณีของโรงเรียนสามเสนฯก็มีการระบุชัดเจนว่า ต้องทำคุณประโยชน์อย่างต่อเนื่อง ตน ก็ย้ำมาตลอดเช่นกันว่า เรื่องนี้ต้องมีหลักเกณฑ์ที่ชัดเจน และการรับเด็กคนนั้นๆต้องมีตรงตามหลักเกณฑ์จริงๆ ไม่ใช่บริจาคเงินครั้งเดียว ก็เข้าเกณฑ์แล้ว เพราะ ฉะนั้นขอให้ทำทุกอย่างตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด อย่าเอาเรื่องการรับเงินบริจาคมาอ้าง สำหรับเด็กที่เข้าเรียนไปแล้วไม่ต้องเป็นห่วง ไม่มีผลกระทบแน่นอน