
คปภ. ห้ามยกเลิก "ประกันโควิด เจอ จ่าย จบ" แต่สามารถเสนอทางเลือกเปลี่ยนประกันได้ แต่ถ้าลูกค้าไม่สมัครใจเปลี่ยน ห้ามบังคับ และยังได้รับความคุ้มครองตามเดิม
วันที่ 15 พฤศจิกายน 2564 นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) ได้แถลงข่าวกรณีปัญหาการประกันภัยโควิด-19 แบบเจอจ่ายจบ เปิดเผยว่า จากการประชุมร่วมกับสมาคมประกันวินาศภัยแล้วนั้น ทาง คปภ.จะยึดหลักที่เป็นประโยชน์ต่อผู้เอาประกันภัยมากที่สุด
โดย คปภ.ยืนยันว่า คำสั่งนายทะเบียนเลขที่ 38/2564 ในการห้ามยกเลิกกรมธรรม์ประกันภัยโควิดยังคงมีผลบังคับใช้อยู่ รวมถึงการห้ามปรับเปลี่ยนเงื่อนไขของกรมธรรม์โดยไม่ได้รับการยินยอมจากผู้เอาประกันจะถือว่ามีความผิดตามกฎหมาย
นายสุทธิพล เปิดเผยว่า จากการประชุมร่วมกันระหว่าง คปภ.กับทางสมาคมฯ มีความเห็นตรงกันกรณีให้ยึดผลประโยชน์ของประชาชนผู้เอาประกันเป็นสำคัญในการแก้ไขปัญหา โดยทาง คปภ.ยินดีรับฟังข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติมกับบริษัทประกันภัยที่เสนอขายประกันโควิดแบบเจอจ่ายจบ เพื่อพิจารณามาตรการเยียวยาผลกระทบให้ตรงกับปัญหาของแต่บริษัท โดยให้บริษัทประกันภัยเลือกเปลี่ยนความคุ้มครองอื่นตามความสมัครใจของผู้เอาประกันเท่านั้น จึงเห็นว่าบริษัทประกันภัยที่ประสบปัญหาสามารถใช้แนวทางนี้ในการบรรเทาผลกระทบไปก่อนได้
“ประเด็นที่หารือแล้วยังมีบทสรุปไม่สอดคล้องกันคือการที่สมาคมขอให้ยกเลิกคำสั่งนายทะเบียนเกี่ยวกับสิทธิ์การยกเลิกกรมธรรม์ เพราะสมาคมมีข้อเสนอมาให้ยกเลิกแต่ไม่เสนอแนวทางแก้ไขมาให้ ซึ่งเรายังยึดประโยชน์ของผู้เอาประกัน และคำสั่งจะยังมีผลบังคับใช้อยู่ ซึ่งการยกเลิกหรือปรับเปลี่ยนกรมธรรม์จะต้องได้รับการยินยอมจากทั้ง 2 ฝ่ายเท่านั้น”
นอกจากนี้ในกรณีของ บริษัท เดอะวัน ประกันภัย จำกัด (มหาชน) ได้ชี้แจงและตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วได้รับการยืนยันว่า การดำเนินการของบริษัมเป็นการเสนอทางเลือกให้กับผู้เอาประกันภัยโดยเป็นไปตามความสมัครใจของผู้เอาประกันภัย จะไม่มีการบังคับผู้เอาประกันภัยแต่อย่างใด
หากผู้เอาประกันภัยไม่ยอมรับทางเลือก สัญญาประกันภัยของผู้เอาประกันภัยจะมีผลบังคับเหมือนเดิมทุกประการ จึงขอให้มั่นใจว่า คปภ.ดำเนินการเต็มที่ และจะติดตามเรื่องดังกล่าวอย่างใกล้ชิด และจะหาทางแนวแก้ปัญหาของบรษัทประกันภัยด้วย
ขณะที่ นายสาระ ล่ำซำ นายกสมาคมประกันชีวิตไทย ขอชี้แจงว่า บริษัทประกันชีวิตทุกบริษัทได้ดำเนินธุรกิจด้วยการบริหารจัดการความเสี่ยงรอบด้าน ทั้งก่อนและหลังการรับประกันภัย และไม่มีเงื่อนไขให้บริษัทประกันชีวิตสามารถยกเลิกสัญญาระหว่างทางได้ ยกเว้นแต่มีหลักฐานชัดเจนว่าผู้เอาประกันภัยปกปิดข้อเท็จจริงที่เป็นสาระสำคัญต่อการรับประกันภัย หรือมีเจตนาทุจริตต่อบริษัท
ขณะเดียวกัน ธุรกิจประกันชีวิตมีความมั่นคงและมีระดับความเพียงพอของเงินกองทุนสูงกว่าที่กฎหมายกำหนด และเพียงพอต่อการปฏิบัติตามภาระผูกพันของกรมธรรม์ประกันภัยทุกกรมธรรม์ที่ออกให้แก่ผู้เอาประกันภัย ดังนั้นธุรกิจประกันชีวิตพร้อมที่จะดูแลและให้ความคุ้มครองแก่ผู้เอาประกันภัยจนกว่าจะครบกำหนดสัญญา
จึงขอให้ผู้เอาประกันภัยที่ทำประกันชีวิตในทุกแบบผลิตภัณฑ์ กับทุกบริษัทประกันชีวิต เชื่อมั่นว่าธุรกิจประกันชีวิตมีความมั่นคง และพร้อมยึดมั่นคำสัญญาที่ระบุไว้ภายใต้เงื่อนไขกรมธรรม์
“ธุรกิจประกันชีวิตพร้อมอยู่เคียงข้างผู้เอาประกันภัย และคนไทยในทุกสถานการณ์ และปฏิบัติตามพันธะสัญญาในกรมธรรม์ประกันภัยเสมอ” นายสาระ กล่าวในตอนท้าย.