สวนทุเรียนลุงหนวด อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา โชว์ระบบสเปรย์ละอองน้ำ พ่นน้ำใส่ต้นทุเรียนกว่า 200 ต้นรอบสวนพื้นที่ 6 ไร่ เป็นการคลายความร้อน ลดปัญหาลูกทุเรียนร่วง หรือแห้งยืนต้นตาย ชี้ได้ผลผลิตเพิ่มกว่าเท่าตัว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สวนทุเรียนลุงหนวด พื้นที่บ้านหนองหินโคน ต.สระว่านพระยา อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ใช้วิธีติดตั้งท่อน้ำและหัวสเปรย์น้ำเอาไว้บนต้นไม้ที่อยู่รอบสวน เพื่อใช้สเปรย์น้ำ เพื่อเพิ่มความชื้นสัมพัทธ์ภายในสวนทุเรียนที่เพาะปลูกเอาไว้บนเนื้อที่ 6 ไร่ ประมาณ 200 ต้น เพื่อแก้ไขปัญหาลูกทุเรียนร่วงหล่น ภายหลังจากที่ปีนี้สภาพอากาศในพื้นที่ร้อนและแล้งจัด บางวันอุณหภูมิสูงกว่า 40 องศาเซลเซียส รวมถึงทำการเพิ่มหัวสปริงเกอร์ใต้โคนต้น และเปลี่ยนจากหัวสปริงเกอร์แบบธรรมดา มาเป็นแบบหัวฝอย พร้อมกับเพิ่มระยะเวลาการให้น้ำเท่าตัว ชดเชยการสูญเสียน้ำจากอากาศที่ร้อนจัดของดิน ป้องกันไม่ให้ต้นทุเรียนขาดน้ำจนส่งผลทำให้ต้องทิ้งลูกและใบ
...
ผลการดำเนินงานพบว่า ก็ได้ผลดีอย่างมาก เพราะปีนี้ทุเรียนที่สวนลุงหนวด ติดลูกดกกว่าทุกปีที่ผ่านมาเป็นเท่าตัว และไม่มีปัญหาเรื่องของทุเรียนเป็นโรคศัตรูพืชอีกด้วย แต่อย่างไรก็ตามภัยธรรมชาติยังไม่หมดแค่นี้ ทางสวนทุเรียนลุงหนวดยังต้องเร่งทำให้การผู้โยงลูกทุเรียนที่กำลังจะแก่เพื่อตัดส่งขาย เพื่อป้องกันปัญหาจากพายุฤดูร้อนที่อาจจะเข้ามาได้ทุกเมื่อ หลังจากที่ในช่วงนี้ก็เคยประสบปัญหาลมพายุพัด ลูกทุเรียนร่วงไปแล้วกว่า 40 ลูก
นายสุจิตน์ วันดี อายุ 55 ปี เจ้าของสวนทุเรียนลุงหนวด บอกว่า ปีนี้เห็นว่าสวนทุเรียนของเพื่อเกษตรกรในพื้นที่เจอปัญหาการขาดน้ำ ต้นทุเรียนแห้ง ลูกร่วงหล่น รวมถึงก้นแตก เป็นจำนวนมาก ซึ่งสาเหตุก็เนื่องมาจากสภาพอากาศที่ร้อนและแล้งจัด ทำให้ทุเรียนขาดน้ำจนทำให้เกิดปัญหาดังกล่าว จึงทดลองใช้วิธีการติดตั้งระบบน้ำรอบสวน ด้วยการเดินท่อและติดตั้งหัวสเปรย์น้ำจากที่สูง เพื่อให้ละอองน้ำพัดเข้ามาภายในสวน ซึ่งจะสามารถช่วยในการลดอุณหภูมิ และเพิ่มความชื้นสัมพัทธ์ภายในสวนทุเรียนให้ดีขึ้น
...
เจ้าของสวนทุเรียนลุงหนวด กล่าวด้วยว่า ในช่วงนี้อากาศร้อนจัดทำให้ความชื้นสัมพัทธ์บางวันลดลงต่ำกว่า 40 เปอร์เซ็นต์ แต่ทุเรียนความชื้นสัมพัทธ์ที่เหมาะสมของทุเรียนอยู่ที่ประมาณ 75-85 เปอร์เซ็นต์ ควบคู่ไปกับการเพิ่มอัตรา และระยะเวลาในการให้น้ำที่จากเดิมที่จะให้เพียงช่วงเช้าเวลาเดียว แต่เพิ่มมาให้ช่วงบ่ายเพิ่มอีกประมาณ 15-20 นาที เพราะช่วงนั้นอากาศจะร้อนจัด ขณะเดียวกันก็ได้ทำการเพิ่มจุดสปริงเกอร์น้ำและปรับเปลี่ยนมาเป็นหัวสปริงเกอร์มินิแบบสายฝน เพราะจะสามารถทำน้ำได้ทั่วถึงและครอบคลุมกว่าหัวสปริงเกอร์แบบเหวี่ยงทั่วไป โดยหลังจากที่ปรับเปลี่ยนมาใช้วิธีดังกล่าวปรากฏว่า ทุเรียนที่สวนติดลูกให้ผลผลิตดีกว่าปีที่แล้วกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ จากเดิมปีที่ผ่านมาได้ผลผลิตทั้งสวนประมาณ 10 ตัน แต่ปีนี้คาดการณ์ว่าน่าจะได้อย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 25 ตัน
ทั้งนี้ถือเป็นโชคดีของเกษตรกรในพื้นที่อำเภอครบุรี ซึ่งเป็นแหล่งปลูกทุเรียนแหล่งสำคัญของจังหวัดนครราชสีมา ที่ยังคงมีน้ำใต้ดินเพียงพอให้ใช้ในการดูแลสวนทุเรียนมากกว่าในหลายพื้นที่ แต่อย่างไรก็ตาม ยังมีเกษตรกรในพื้นที่ต้องได้รับผลกระทบจากปัญหาสภาพอากาศที่ร้อนและแล้งจัดในปีนี้ จนทำให้ทางสำนักงานเกษตรอำเภอครบุรี ประเมินว่าผลผลิตทุเรียนของอำเภอปีนี้น่าจะลดลงกว่า 40 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว.
...