2 สามีภรรยาชาวสวนยางที่ หมู่ที่ 4 ต.นิคมพัฒนา อ.มะนัง จ.สตูล นำผักเหลียงมาปลูกแซมไว้ตามร่องสวนยางพาราขนาด 6 ไร่ โดยทำเป็นอาชีพเสริม สามารถเก็บขายได้เงินไม่ต่ำกว่า 1.2 หมื่นบาท/เดือน อีกทั้งยังนำเงินส่วนนี้มาใช้บำรุงสวนยางได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอนันต์ และนางอบรม เมืองปาน เกษตรกร 2 สามีภรรยาในพื้นที่หมู่ที่ 4 ต.นิคมพัฒนา อ.มะนัง จ.สตูล มีแนวคิดนำผักเหลียง มาปลูกแซมร่องสวนยางพารา พื้นที่ขนาด 6 ไร่ ตั้งแต่ปี 2548 ปัจจุบันเกือบ 20 ปีแล้ว ยังคงเก็บยอดผักเหลียงไปขายเป็นรายได้เสริม ทั้งนี้ เฉพาะรายได้จากผักเหลียงที่ปลูกสามารถทำเงินได้เดือนละไม่ต่ำกว่า 12,000 บาท
...
ป้าต้อย ภรรยาเจ้าของสวน กล่าวว่า เมื่อปี 2547 ตนปลูกยางในเนื้อที่ 6 ไร่ ผ่านไป 1 ปีพี่สาวของตนบอกว่าระหว่างร่องยางมันว่างอยู่น่าจะเอาต้นผักเหลียงมาปลูกเสริม จะได้กิน หากผักมีมากก็ขายสร้างรายได้เสริมเพราะในพื้นที่ยังไม่มีใครปลูก ต่อมาจึงซื้อกิ่งพันธุ์จำนวน 1,000 ต้น มาปลูกแซมในระหว่างร่องสวนยาง ผ่านไป 1 ปีผักเหลียงเริ่มแตกยอดสามารถเก็บขายได้ ในขณะที่ต้นยางพาราที่ปลูกไว้มีอายุแค่ 2 ปีต้องใช้เวลาอีก 5 ปีถึงจะสามารถเปิดกรีด แต่ในช่วงดังกล่าวตนสามารถเก็บผักเหลียงขายสร้างรายได้ เพื่อนำมาเป็นค่าดูแลบำรุงต้นยางได้
ภรรยาเจ้าของสวนผักเหลียง กล่าวต่อว่า ต่อมาเวลาผ่านไปผักเหลียงที่ปลูกไว้ก็เพิ่มจำนวนต้นมาหลายเท่าตัวจนเต็มพื้นที่ แตกยอดออกมามากมายทำให้ตนเองสามารถเก็บผักเหลียงขายมีรายได้มาเลี้ยงครอบครัว จนถึงตอนนี้ ตนเก็บผักเหลียงขายมีรายได้เฉลี่ยอยู่ที่ 3,000 บาทต่อ 1 สัปดาห์ หรือ 12,000 บาทต่อเดือน โดยจะเก็บผักเหลียงสัปดาห์ละ 3 วัน วันละประมาณ 12-15 กิโลกรัม ราคาขายอยู่ที่กิโลกรัมละ 80 บาท หรือทำเป็นมัด ขายมัดละ 10 บาท ลูกค้ามีความต้องการมากเก็บขายไม่พอ หากเปรียบเทียบกับยางพารา 6 ไร่ที่มีรายได้ก็น่าจะเท่าๆ กัน เพราะบางช่วงราคายางตกต่ำ อีกทั้งช่วงฤดูฝนไม่สามารถกรีดยางได้ แต่ผักเหลียงเก็บได้ทุกวัน ยิ่งฝนตกผักยิ่งแตกยอดมากขึ้น
...
ป้าต้อย กล่าวอีกว่า ผักเหลียงเป็นพืชที่ทนต่อสภาพอากาศ ไม่ค่อยมีแมลงหรือศัตรูพืชมากัดกินทำลาย ทำให้ง่ายต่อการดูแล การให้ปุ๋ยก็ไม่จำเป็นต้องมาก สำหรับสวนของตนใช้ปุ๋ยอินทรีย์ปีละครั้งเท่านั้น ผักเหลียงนำมาปรุงอาหารได้หลายเมนู เช่น ผักเหลียงผัดไข่ ผักเหลียงลวกกะทิ หรือลวกจิ้มน้ำพริก แต่เมนูที่ถือว่าเด็ดและยังไม่มีใครค่อยทำรับประทานก็คือ ยำผักเหลียง โดยเครื่องปรุงทุกอย่างคล้ายๆ การยำถั่วพู แต่เปลี่ยนจากถั่วพูมาเป็นผักเหลียง โดยใช้ยอดสดมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วนำไปใส่ในเครื่องปรุง รสชาติของผักเหลียงจะหวานและมันเข้ากับเครื่องได้เป็นอย่างดีถือว่าเป็นเมนูเด็ด
...
นอกจากอาหารแล้ว ป้าต้อยยังนำใบผักเหลียงมาทำเป็นขนมทองพับและข้าวเกรียบ โดยนำยอดผักเหลียงมาปั่นและผสมกับแป้งใส่น้ำตาลเล็กน้อยและกะทินำมาทำเป็นขนมทองพับได้รสชาติอีกแบบ โดยว่างๆ จะทำขายถุงละ 20 บาท ถือว่าเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มจากผลผลิตได้เป็นอย่างดี.