หนุ่มสตูลวัย 31 ปี ที่ อ.มะนัง เปิดฟาร์มเพาะเลี้ยงไก่ฟ้าและนกยูง ทำมา 4 ปีเพื่อเอาไว้เป็นรายได้เสริม แต่รายได้ที่กลับมาค่อนข้างสูงปีละกว่า 1 แสนบาท โดยไก่ฟ้าและนกยูงเหล่านี้เป็นสายพันธุ์ต่างประเทศ จึงไม่ถูกคุ้มครองตาม พ.ร.บ.คุ้มครองสัตว์ป่า

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับไก่ฟ้า เป็นไก่ที่มีขนาดเท่ากับไก่บ้าน แต่ความสวยงามมีมากกว่า โดยเฉพาะตัวผู้ ปัจจุบันไก่ฟ้าได้รับความนิยมในกลุ่มของคนรักสัตว์เลี้ยงสวยงาม เลี้ยงไว้ดูเล่นบางคนก็เลี้ยงไว้เป็นรายได้เสริม เช่นเดียวกับนายอนุสิทธิ์ สุดทุ่ม อายุ 31 ปี ชาวบ้านพื้นที่ ม.4 ต.ปาล์มพัฒนา อ.มะนัง จ.สตูล จากจุดเริ่มต้นที่เลี้ยงไว้ดูเล่น จนขยายกลายเป็นฟาร์มขนาดย่อม เป็นที่รู้จักของกลุ่มไก่ฟ้าและนกยูง

...

นายอนุสิทธิ์ ผู้เพาะเลี้ยงไก่ฟ้า กล่าวว่า จุดเริ่มต้น คือ ตนไปเที่ยวบ้านเพื่อนและเห็นไก่ฟ้า เมื่อเห็นก็มีความชอบเพราะสีสันสดใส จากนั้นได้ศึกษาวิธีการเลี้ยงและซื้อมา 2 คู่เป็นพันธุ์โกลเด้น ตัวผู้จะมีหลายสี ส่วนหัวเป็นสีทอง อกจะมีสีแดง ส่วนหลังมีสีเหลืองและปีกมีสีน้ำเงิน นัยน์ตาจะเป็นวงแหวนสีน้ำเงิน หลังจากเลี้ยงไว้ดูเล่นก็ปรากฏว่าไก่ฟ้าได้ไข่และมีการขยายพันธุ์ ตนจึงเริ่มเลี้ยงอย่างจริงจัง ปัจจุบันเลี้ยงมาได้ 4 ปี เลี้ยงไปด้วยขายไปด้วย

ผู้เพาะเลี้ยงไก่ฟ้า กล่าวต่อว่า ในฟาร์มจะมีไก่ฟ้าพ่อแม่พันธุ์ 8 คู่ และมีลูกเจี๊ยบอีกจำนวนหนึ่ง หลังจากเลี้ยงไก่ฟ้าได้ 2 ปีจึงได้นำนกยูงมาเลี้ยงโดยนำตัวที่โตแล้วมาเลี้ยง จนสามารถขยายพันธุ์นกยูงตอนนี้มีอยู่ 7 ตัว ในแต่ละปีตนสามารถเพาะเลี้ยงไก่ฟ้าได้ประมาณ 100 ตัว แต่สำหรับปีนี้สภาพอากาศที่ร้อนจัดทำให้เชื้อไก่น้อย เป็นไก่ตายโคมมาก มีแค่ 50 ตัวเท่านั้น ซึ่งไก่ฟ้าจะผสมพันธุ์ฤดูแล้งช่วง มี.ค.-เม.ย. และขยายพันธุ์ปีละครั้ง

นายอนุสิทธิ์ กล่าวอีกว่า ไก่ฟ้าของตนที่เลี้ยงตอนนี้เป็นพันธุ์โกลเด้น เยลโล่ เลดี้ดำ เลดี้แอมเฮิสท์ ที่ลักษณะตัวลาย และไก่ฟ้ารีฟส์ นอกจากนี้ยังมีคอแหวนแดง คอแหวนเขียว ซึ่งราคาไม่แพงเหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มต้นเลี้ยง โดยลูกค้าที่มีประสบการณ์จะนิยมซื้อลูกไก่อายุ 1 เดือนขึ้นไป ราคาอยู่ที่คู่ละ 2,000-2,500 บาท ส่วนคนที่มือใหม่แนะนำให้เลี้ยงไก่โตที่อายุ 3 เดือนขึ้นไปอยู่ที่คู่ละ 4,000 บาท โดยไก่ฟ้าแต่ละตัวหากปล่อยให้ไข่และฟักเองตามธรรมชาติ จะอยู่ที่ครั้งละ 7-10 ฟอง แต่หากไข่แล้วเก็บไปฟักในตู้อบจะได้ 15-20 ฟอง และฟักตู้มีโอกาสรอดสูงกว่า

ผู้เพาะเลี้ยงไก่ฟ้า กล่าวถึงนกยูงว่า สำหรับนกยูงตนเพิ่งเลี้ยงได้ 2 ปี โดยนกยูงซึ่งเป็นตระกูลไก่ฟ้าเช่นกัน แต่เป็นไก่ฟ้าขนาดใหญ่ โดยเฉพาะตัวผู้จะมีสีสันสวยงาม ยิ่งตอนรำแพนเกี้ยวพาราสีตัวเมียยิ่งมีความสวยงามมาก นกยูงอายุ 4 ปีขึ้นไปจะเริ่มมีหางยาวเวลารำแพนจะสวยงามมาก ยิ่งตอนนี้เป็นช่วงผสมพันธุ์ที่นกยูงเกี้ยวตัวเมียก็จะรำแพนโชว์ตัวเมียบ่อย นกยูงเป็นสัตว์สวยงามเชิงบวกจึงได้รับความนิยมและมีราคาสูงกว่าไก่ฟ้า นกยูงเป็นสัญลักษณ์ของความโชคดี สูงส่งและความรัก ซึ่งนกยูงสามารถขายได้ทั้งตัวแม้นกระทั่งขนทุกเส้นไม่ว่าจะเป็นหาง ขนคอ ขนแผงคอ ขนหงอนขายได้ทั้งนั้น

...

"ปีที่ผ่านมาตนขายขนหางที่นกยูงสลัดขนได้ถึง 200 เส้นขายเส้นละ 8-20 บาท ส่วนนกยูงที่ในฟาร์มมีอยู่ 3 สายพันธุ์ คือ นกยูงด่าง นกยูงอินเดีย และนกยูงไฮบริด โดยนกยูงอินเดียจะมีสีสันสดในสวยงาม หางยาวสวย และราคาดีโดยลูกนกสายพันธุ์ธรรมดาอายุ 2 เดือนอยู่ที่คู่ละ 2,000-2,500 บาท แต่หากเป็นสายพันธุ์อินเดียอายุ 2-3 ปี ตกตัวละ 7,000-10,000 บาท จากที่ตนเลี้ยงมา 4 ปีปัญหาการเลี้ยงส่วนใหญ่จะอยู่ที่สภาพอากาศที่หน้าฝนจะเป็นโรคหวัด หน้าบวม ส่วนร้อนก็จะเป็นช่วงผสมพันธุ์ที่ทำให้เชื้ออ่อนมีปัญหาเรื่องของผลผลิต" นายอนุสิทธิ์ กล่าว 

...

ผู้เพาะเลี้ยงไก่ฟ้า กล่าวด้วยว่า ตอนนี้ตนเลี้ยงเพื่อความสุขสบายใจ และเป็นรายได้เสริม แต่รายได้เสริมที่ค่อนข้างสูง แต่ละปีมีรายได้จากการขายไก่ฟ้าและนกยูงปีละไม่ต่ำกว่า 1 แสนบาท โดยเฉพาะของตนนั้นเป็นสายพันธุ์ที่สามารถ เพาะเลี้ยงได้อย่างเสรี เนื่องจากไก่ฟ้าและนกยูงเหล่านี้เป็นสายพันธุ์ต่างประเทศ ไม่ต้องขออนุญาตเพราะไม่จัดว่าเป็นสัตว์ที่อยู่ในสถานะคุ้มครองตามกฎหมายแต่ประการใด หากเป็นสายพันธุ์ไทยต้องขออนุญาต ใครที่มีข้อสงสัยสามารถสอบถามหรือ โทรมาสอบถามได้ที่เบอร์ 09-3658-9649 หรือ ทักเฟซบุ๊กส่วนตัว Anusit Sudtum สามารถให้คำแนะนำได้.