เกษตรกรที่ทำสวนผัก บริเวณชุมชนท่าตะโก ต.ในเมือง ที่โคราช ตอนนี้เจอผลกระทบจากแดดแรงอากาศร้อนจัด ส่งผลกระทบทำให้ผักหลายชนิดไม่เติบโต ผักชี และผักขึ้นฉ่ายตายยกแปลงเสียหายนับแสนบาท ขณะที่ราคาขายพุ่งไป กก.ละ 160 บาท

เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2567 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจสวนผัก บริเวณชุมชนท่าตะโก ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ซึ่งมีเกษตรกรทำแปลงผักจำนวนมาก โดยมีการปลูกผักหลายชนิด อาทิ ผักชี ผักขึ้นฉ่าย ผักคะน้า โหระพา และกะเพรา เป็นต้น พบว่าเกษตรกรได้ทิ้งให้แปลงผักว่างเปล่าเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากช่วงนี้สภาพอากาศที่ร้อนจัด ส่งผลกระทบทำให้ผักหลายชนิดไม่เติบโต และได้รับความเสียหายถูกแดดเผาตายเป็นจำนวนมาก

...

โดยเฉพาะแปลงปลูกผักที่มีใบอ่อน เช่น ผักชี และผักขึ้นฉ่าย ซึ่งพบว่าถูกแดดเผาต้นและใบเหี่ยวเฉาตายทุกแปลง จนเกษตรกรหลายรายถอดใจต้องปล่อยทิ้งให้เหี่ยวตายไปหมด เนื่องจากไม่สามารถดูแลรักษาถึงช่วงเก็บเกี่ยวไปขายได้ ยังคงเหลือเพียงผักบางชนิด เช่น กะเพรา และโหระพา ที่มีใบทนแดดได้ดี ที่สามารถเก็บไปขายได้ในช่วงนี้ แม้ว่าโหระพาจะได้ราคาไม่สูงมากนัก ราคาขายกิโลกรัมละ 40 บาทเท่านั้น

นางสำรวย โมมขุนทด อายุ 60 ปี เกษตรกรชาวชุมชนท่าตะโก เปิดเผยว่า ปีนี้แดดแรงมาก อากาศร้อนกว่าทุกปีที่ผ่านมา ทำให้ผักหลายชนิดไม่เติบโต ขณะเดียวกันผักชี และผักขึ้นฉ่าย ซึ่งเป็นผักใบอ่อน ทนแดดไม่ค่อยได้ ตอนนี้เหี่ยวเฉาตายไปเกือบหมด อย่างตนเองนั้นปลูกผักขึ้นฉ่ายไว้ 2 แปลง เก็บผลผลิตไปขายได้เพียง 1 แปลงเท่านั้น ส่วนอีก 1 แปลงต้องปล่อยให้เหี่ยวเฉาตายไปทั้งหมด คิดมูลค่าความเสียหายกว่า 1 แสนบาทเลยทีเดียว เนื่องจากแดดร้อนจัด ไม่สามารถป้องกันอะไรได้เลย

เกษตรกรชาวชุมชนท่าตะโก กล่าวด้วยว่า ถ้าจะป้องกันไม่ให้ถูกแดดเผาก็ต้องใช้สแลนมากั้นแดด ซึ่งก็ต้องใช้เงินลงทุนซื้อสแลนจำนวนมาก ไม่คุ้มทุน ดังนั้นจึงทำให้ปีนี้ผักขึ้นฉ่ายเสียหายจำนวนมาก ราคาจึงพุ่งสูงขึ้น โดยถ้าขายส่ง ถุงละ 5 กิโลกรัม ขายในราคา 300 บาท แต่ถ้าขายปลีกกิโลกรัมละ 160 บาท ทั้งนี้สำหรับการปลูกผักขึ้นฉ่ายนั้น ต้องใช้เวลาประมาณ 60 วัน ถึงจะเก็บขายได้ และการดูแลรักษาก็ยากมาก ใครที่ไม่เคยทำการปลูกผักชนิดนี้จะไม่เข้าใจเลยว่ายากเพียงใด ดังนั้นจึงอยากให้คนที่บ่นว่าผักขึ้นฉ่ายแพงมากช่วงนี้ รู้สึกเห็นใจ และเข้าใจเกษตรกรบ้าง.

...