สวนลุงสำอางค์ การันตีทุเรียนเมืองจันท์คุณภาพ ยึดมั่นความซื่อสัตย์ ไม่ต้องวัดแป้ง ทำได้เพราะใช้คนที่ชำนาญ ดูผิว ดูหนามเป็น การันตีไม่มีทุเรียนอ่อน ทยอยตัดเป็นรุ่นๆ ชี้ราคาทุเรียนต้นปี ต้องไม่สูงเกินจริงเพราะราคาเป็นตัวสำคัญที่ทำให้คนตัดทุเรียนอ่อน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สวนลุงสำอางค์ ปิ่นพงษ์ อายุ 70 ปี อยู่บ้านเลขที่ 112 หมู่ 1 ต.สองพี่น้อง อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี ภายในสวนทุเรียนปลูกเอาไว้หลายสายพันธุ์ บนเนื้อที่กว่า 50 ไร่ ผลิตทุเรียนได้ปีละกว่า 50 ตัน ผู้สื่อข่าวจึงลงพื้นที่เพื่อไปสอบถาม วิธีการปลูก แนวคิดในการผลิตทุเรียนคุณภาพออกสู่ตลาด รวมทั้งได้เวลาตัดไม่ต้องวัดแป้ง ทำได้จริงหรือไม่

ลุงสำอางค์ กล่าวถึงตัดไม่ต้องวัดแป้งว่า มีวิธี คนตัดต้องมืออาชีพ คือ รู้มือ รู้ใจ ต้อดูผิว ดูหนาม ดูแลใกล้ชิด ตั้งแต่ต้นจนวันตัด ขั้นตอนนี้จะไม่อนุญาตให้มือสมัครเล่นเข้าสวน นับจำนวนวันได้ สวนไหนมีสุก มีหล่น ทยอยตัดได้ สังเกตรุ่น ไม่รูดหมดต้น ต้องเก็บช้าๆ เอาไปทีละรุ่น จากยอดบนลงล่าง ทิ้งช่วงเพื่อความชัวร์ ประสบการณ์ บวกซื่อสัตย์ ตัดแล้ว รอ 3 วัน 5 วัน 7 วัน ขั้นตอนเหล่านี้ ทำให้ได้ทุเรียนทานได้ เนื้อนุ่มหอมหวาน ทานอร่อย ส่งออกสดใส ไม่พอขาย ทุ่มเท ตั้งใจ การันตีไม่มีทุเรียนอ่อนหลุดจากสวนลุง 

...

เจ้าของสวนทุเรียนลุงสำอางค์ กล่าวว่า ที่สวนแห่งนี้ลุงเริ่มนับหนึ่ง เรียนรู้ถูกผิด ยึดอาชีพทำสวนผลไม้มากว่าครึ่งชีวิต เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ทุเรียนกิโลกรัมละ หกสลึง หรือ 1.50 - 2 บาท ในวันนั้น ทุเรียนหมอนทอง เพียงราคาเพียงกิโลกรัมละ 20-50 บาท ชาวสวนอยู่ได้สบายๆ อนาคตสูงสุดไม่น่าจะเกิน 100-150 บาท ลุงมั่นใจในรสชาติ ทุเรียนจันท์ ไม่เหมือนใคร จึงตัดสินใจปลูกทุเรียน วันนี้กิโลกรัมละกว่า 250 บาท เกรด A/B  น้ำหนัก 2.5-3.5 กก.ไปจนถึงจัมโบ้ ลูกละเกือบ 1,000 บาท จนถึงกว่า 1,000 บาท ชาวสวนจำนวนมาก ปัจจุบันกลายเป็นเศรษฐีเมื่อ 4-5 ปีที่ผ่านมา  

นายสำอางค์ กล่าวต่อว่า เนื่องจากคนจีนนิยมบริโภคทุเรียนเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ต้องเป็นทุเรียนคุณภาพ คนจีนชอบทานทุเรียนสุก ถ้าไม่มีตลาดจีน ชาวสวนส่วนใหญ่อยู่ไม่ได้ ปริมาณส่งออกแต่ละปีจำนวนมหาศาล ช่องทางในการขายปัจจุบัน มีสองช่องทาง คือ ส่งออกกับออนไลน์ สวนขนาดใหญ่จะมุ่งเน้นการส่งออก เนื่องจากทุเรียนมีปริมาณมาก ได้เงินเร็ว แต่ปัญหาใหญ่ที่ส่งผลกระทบต่อตลาดทุเรียนในหลายปี ที่ผ่านมา คือ ทุเรียนอ่อน เปอร์เซ็นต์แป้งไม่ถึง ทั้งเกษตรกร คนตัด เจ้าของล้ง มีมุมมองที่ตรงกัน ทั้งสามส่วน เป็นได้ทั้งปัจจัยแห่งความสำเร็จ และล้มเหลว ล่มสลายในเวลาเดียวกัน 

ปัจจัยที่ 1 คนตัดต้องมีความชำนาญ เคาะเป็น ดูผิวเป็น มีความเป็นมืออาชีพ ซื่อสัตย์ มีคุณธรรม
ปัจจัยที่ 2 ชาวสวนต้องดูแลทั่วถึง ไม่อนุญาตให้คนตัดตัดตามอำเภอใจในสวนของตน โดยเฉพาะคนตัดที่ขาดประสบการณ์
ปัจจัยที่ 3 เจ้าของล้งนายทุน ต้องไม่สนับสนุนให้ตัดทุเรียนเปอร์เซ็นต์ต่ำ รูดต้น มายัดตู้ เพื่อให้ได้ตามจำนวน สุดท้ายก็ตีกลับ เสียหายทั้งระบบ 

...

"ราคาทุเรียนต้นปี ต้องไม่สูงเกินจริง ราคาเป็นปัจจัยที่ทำให้คนตัดกล้าทำในสิ่งที่ไม่ควรทำ คือตัดทุเรียนอ่อน สวมสิทธิ์ ยัดไส้ เป็นหนึ่งในการทำลายกลไกในตลาดส่งออกให้ล่มสลาย คนจีนผวาไม่กล้าซื้อ ราคาตก ตรงกันข้ามหากทุกอย่างมีมาตรฐาน เปอร์เซ็นต์แป้งได้ ทุเรียนไทยส่งออกสดใสแน่นอน ดังนั้นการแก้ปัญหาทุเรียนอ่อน จึงเป็นเรื่องยากหากทั้ง 3 ส่วนยังมีความโลภ เจ้าของสวนอยากได้ราคาดี แต่แก่ไม่ทัน คนตัดขาดความรับผิดชอบ รู้เห็นเป็นใจ ไร้ความสำนึก คนซื้อเจ้าของล้งต้องไม่เอาทุเรียนอ่อนเข้าแผง บางครั้งต้องการปริมาณ จนลืมไปว่าผู้บริโภคต้องการทุเรียนคุณภาพ เร่งตัดก่อนราคาตก" เจ้าของสวนทุเรียนลุงสำอางค์ กล่าว

...

ด้าน นายธานินทร์ นิยม อายุ 60 ปี ตัวแทนบริษัท เซ็นโรไท ผลไม้สด จำกัด และบริษัท เจ็ทต้าพรีเมี่ยม  จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 101/1 ม.9 ต.คลองนารายณ์ อ.เมือง จ.จันทบุรี ยืนยัน ทุเรียนคุณภาพ หากเปอร์เซ็นต์แป้งถึง ราคาดีแน่นอน มีเท่าไรขายได้หมด เพื่อความชัวร์ทางบริษัทกำหนดเปอร์เซ็นต์แป้งต้องไม่ตำ่กว่า 35 ถ้ายังไม่ถึง รอได้หากน้ำหนักลด ชดเชยราคาให้ ระหว่างรอทุเรียนหล่น การันตี รับซื้อหมด บริษัทของตนเน้นส่งออก 100% เป็นทุเรียนคุณภาพ.