ที่สวนองุ่นณัฐวดี อ.บางแพ จ.ราชบุรี ช่วงนี้ ผลผลิตออกมาแล้ว โดยเฉพาะองุ่นพันธุ์ไชน์มัสแคทที่มาจากญี่ปุ่น พร้อมที่จะเก็บเกี่ยวผลผลิตส่งลูกค้า และจำหน่ายหน้าสวน กก.ละ 200-250 บาท แม้จะลูกเล็กกว่าและมีเม็ด เพราะอากาศเมืองไทยร้อนกว่าญี่ปุ่น แต่รสชาติไม่ต่างกัน

นายวิวัฒน์ บุญมาวาสนาส่ง เจ้าของสวนองุ่นณัฐวดี อ.บางแพ จ.ราชบุรี เปิดเผยว่า เดิมทีครอบครัวมีอาชีพทำสวนผัก อาทิ ถั่วฝักยาว คะน้า กวางตุ้ง และมะระ ต่อมาปี 2548 ปรับเปลี่ยนมาปลูกองุ่นสายพันธุ์ไวท์มะละกา ซึ่งเป็นสายพันธุ์ขึ้นชื่อของจังหวัด แต่ด้วยคู่แข่งทางการตลาดที่มีจำนวนมาก ทำให้ไม่สามารถควบคุมราคาจำหน่ายได้ จึงหันไปศึกษาและนำกิ่งพันธุ์องุ่นจากต่างประเทศมาทดลองปลูก เพื่อเป็นทางเลือก แม้ว่าจะมีต้นทุนสูง และการปลูกการดูแลค่อนข้างยาก แต่ก็เป็นไม้ผลที่ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า ส่วนตัวแล้วตนชื่นชอบองุ่นสายพันธุ์จากประเทศญี่ปุ่น โดยเฉพาะองุ่นพันธุ์ไชน์มัสแคท เพราะนอกจากรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์แล้ว ยังสามารถผลิตเพื่อการจำหน่ายและพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรได้

...

เจ้าของสวนองุ่นณัฐวดี กล่าวต่อว่า เมื่อประมาณ 2 ปีก่อน ได้นำต้นพันธุ์องุ่นไชน์มัสแคทมาปลูก ช่วงแรกใช้เทคนิคการปลูกและดูแล ทั้งการใช้ฮอร์โมนเพื่อสลายเม็ดและเพิ่มขนาดของผล ให้ได้ผลผลิตเช่นเดียวกับประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นต้นตำรับ แต่เนื่องจากประเทศไทยมีสภาพอากาศร้อนชื้น ทำให้ผลผลิตบางส่วนไม่เป็นไปตามที่ต้องการ ตัดสินใจใช้วิธีการดูแลและบำรุงรักษาแบบธรรมชาติ แม้องุ่นที่ได้จะมีขนาดผลเล็กและมีเม็ด แต่ในเรื่องของรสชาติไม่แตกต่างกัน โดยเฉพาะกลิ่นที่มีความหอมละมุน 

นายวิวัฒน์ กล่าวอีกว่า ในส่วนของการจำหน่าย จะมีกลุ่มลูกค้าที่เป็นสวนองุ่นตามสถานที่ท่องเที่ยว และรีสอร์ตต่างๆ รวมไปถึงผู้ประกอบการนำไปจำหน่ายต่อในห้างสรรพสินค้า ราคาหน้าสวนกิโลกรัมละ 200-250 บาท เมื่อเทียบกับการนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีราคาจำหน่ายสูงถึงช่อละ 1,200-1,500 บาท สำหรับท่านที่สนใจจะเข้าเยี่ยมชมและอุดหนุนสินค้าเกษตร สามารถติดต่อได้ที่ เพจเฟซบุ๊ก “สวนณัฐวดี” โทรศัพท์หมายเลข 06-3092-1616.

...