ชาวสวนในพื้นที่ อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว พลิกฟื้นท้องนา มาปลูกเมล่อนในพื้นที่ "ละลุ" ที่เกิดจากการกัดเซาะของหน้าดินเป็นภูมิประเทศสูงๆ ต่ำๆ ดินปนทรายดินไม่อุ้มน้ำ โดยสร้างโรงเรือนปลูกเมล่อนพันธุ์ "จันทร์ฉาย" ขายราคาดี กก.ละ 120 บาท เนื้อหวานกรอบอร่อย ลูกค้าจองทางออนไลน์ทะลัก ทำเงินดีกว่าปลูกข้าว
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว ซึ่งเป็นพื้นที่ประสบภัยแล้งซ้ำซากของจังหวัดสระแก้ว หันมาพลิกฟื้นท้องนา มาปลูกเป็นสวนเมล่อน อยู่ในพื้นที่ของ "ละลุ" ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ใน อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว โดยคำว่า "ละลุ" นั้นเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดจากน้ำฝนกัดเซาะ การยุบตัวหรือพังทลายของหน้าดิน มาเป็นเวลานานนับพันๆ ปี ทำให้สภาพดินบางจุดที่ยังแข็งอยู่ไม่ยุบตัวเมื่อถูกลมพัดกัดกร่อนนานๆ เข้าจึงเกิดความสูงต่ำสลับกันไป จนเป็นรูปลักษณะต่างๆ มองคล้ายเป็นกำแพง เสาดิน หรือหน้าผา เป็นต้น ซึ่งลักษณะคล้ายกับแพะเมืองผี ของจังหวัดแพร่
พื้นดินบริเวณนี้จะมีลักษณะเป็นดินปนทรายดินไม่อุ้มน้ำ ทำให้ไม่สามารถเพาะปลูกอะไรได้ แต่จู่ๆ ก็มีชาวนาในพื้นที่ซึ่งไม่ยอมแพ้ธรรมชาติ หันมาพลิกฟื้นท้องนา มาปลูกเป็นสวนเมล่อน ในพื้นที่ดิน บริเวณบ้านตนเอง ห่างจาก ละลุ ไม่ไกล ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัด และเกิดประสบความสำเร็จ เมล่อนเจริญเติบโตได้ดีมีรสชาติหวานกรอบอร่อย มียอดจองซื้อทางออนไลน์ล้นทะลัก
...
เมื่อวันที่ 27 มี.ค. 2567 น.ส.เอื้อนจิต ช่วยนก พาณิชย์จังหวัดสระแก้ว พร้อมด้วยนายประจักร์ ประสงค์สุข เกษตรจังหวัดสระแก้ว ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมที่บ้านเลขที่ 208 ม.9 บ้านหนองผักแว่น ต.ทัพราช อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว ซึ่งเป็นพื้นที่ปรับเปลี่ยนจากทุ่งนามาเป็นสวนเมล่อน โดยได้พบกับ น.ส.กาญจนาวดี ดวงภักดีรัมย์ อายุ 40 ปี และนายโชติพัทร์ ดาศรี สองสามีภรรยา เกษตรกร ที่เปลี่ยนวิถีชีวิตจากทำนาปลูกข้าวมาเป็นชาวสวนปลูกเมล่อน
น.ส.กาญจนาวดี กล่าวว่า เดิมอดีตที่ดินตรงนี้เป็นทุ่งนา ตัวเองก็มีอาชีพทำนา แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จเพราะพื้นดินบริเวณนี้อยู่ติดกับละลุ เป็นที่ดินปนทรายไม่อุ้มน้ำ อีกทั้ง อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว เป็นพื้นที่แห้งแล้งประสบภัยแล้งซ้ำซากมาทุกปี อีกทั้งราคาข้าวก็ตกต่ำจึงชวนสามีไปปรึกษากับเกษตรจังหวัดสระแก้ว และ จนท. เกษตรฯ ได้แนะนำและสนับสนุนให้ตนทดลองปลูกเมล่อน ซึ่งเป็นผลไม้ที่มีราคาดีและกำลังเป็นที่ต้องการของตลาด จึงได้กลับมาทำโรงเรือนปลูกเมล่อนฯ ตามคำแนะนำของ เจ้าหน้าที่เกษตรฯ โดยได้เลือกสายพันธุ์ "จันทร์ฉาย" ซึ่งมีรสชาติที่อร่อย และมีความต้องการของตลาด ขายราคาดี ถึง กก.ละ 120 บาท เลยทีเดียว
เจ้าของสวนเมล่อน กล่าวต่อว่า การปลูกเมล่อนในโรงเรือน ใช้เวลาปลูกประมาณ 65 วัน เมล่อนก็สามารถเก็บผลขายได้แล้ว ลูกค้าส่วนใหญ่ก็จะเป็นลูกค้าในพื้นที่และพื้นที่ใกล้เคียง โดยเฉพาะในตลาดออนไลน์ มียอดสั่งจองกันจำนวนมาก สร้างรายได้ให้กับตนและครอบครัวเป็นอย่างมาก ดีกว่าทำนาปลูกข้าวเยอะเลย
น.ส.กาญจนาวดี กล่าวถึงเคล็ดลับการปลูกเมล่อนในดินละลุ ว่า เนื่องจากดินละลุ เป็นดินปนทรายดินไม่อุ้มน้ำ ไม่เหมาะกับการปลูกพืช แต่ดินละลุก็มีแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์จึงได้ทดลองปลูกเมล่อนแบบพื้นที่ปิดคือปลูกในโรงเรือน แล้วนำดินละลุมาผสม กับส่วนผสมต่างๆ เช่น ปุ๋ยหมัก กากอ้อย น้ำหมักจุลินทรีย์ ตามคำแนะนำจาก จนท.เกษตรฯ หลังจากทดลองปลูกในกระถางพบว่า เมล่อนสามารถเจริญเติบโตได้ดี จึงได้นำดินละลุมาใช้เป็นส่วนผสมในการปลูกเมล่อน นอกจากจะทำให้ต้นเมล่อนสามารถเจริญเติบโตได้ดีแล้ว เมื่อเก็บผลผลิตก็สังเกตได้ว่าผลเมล่อนจะมีรสชาติที่หวานกรอบอร่อย ต่างจากใช้ดินปกติในการปลูก
...
เจ้าของสวนเมล่อน กล่าวอีกว่า สำหรับข้อดีของการปลูกในโรงเรือน คือ สามารถป้องกันแมลงและน้ำฝนได้ นอกจากนี้ยังเผยอีกว่าเมล่อนที่สวนของเราจะคัดผลเมล่อนที่ยังเล็ก เลือกผลที่สมบูรณ์ที่สุดไว้เพียงต้นละ 1 ลูกเท่านั้น นอกนั้นจะตัดทิ้ง เพื่อให้เมล่อนเจริญเติบโตได้เต็มที่ ทำให้เราสามารถควบคุมการปลูกได้ประมาณ 250 ลูกหรือ 250 ต้นต่อ 1 โรงเรือนใช้เวลาในการปลูกประมาณ 3 เดือน ก็สามารถตัดขายได้ ซึ่งเมล่อน "พันธุ์จันทร์ฉาย" ของเราที่นำมาปลูกจะมีลักษณะเป็นผิวเรียบ เปลือกเป็นสีเหลืองทอง มีรสชาติที่หวานกรอบอร่อย โดยมีความหวานประมาณ 14 บิต+ สามารถทำให้มีรายได้ต่อรอบถึง 65,000 บาท เลยทีเดียว
...
น.ส.กาญจนาวดี กล่าวด้วยว่า ในช่วง 1 ปี สามารถทำได้ถึง 3 รอบ รายได้ทั้งปีก็เกือบ 1 ล้านบาท เลยทีเดียว ซึ่งราคาจำหน่ายก็จะอยู่ที่กิโลกรัมละ 120 บาท 1 ลูก จะมีน้ำหนักประมาณ 1.5-2.4 กิโลกรัม และการปลูกส่วนใหญ่จะใช้ปุ๋ยคอก กากอ้อย (ขี้เค้ก) เนื่องจากจังหวัดสระแก้วเป็นพื้นที่ที่เป็นแหล่งที่ตั้งของโรงงานน้ำตาล จึงสามารถนำกากอ้อยมาทำปุ๋ยอินทรีย์ได้ ซึ่งสามารถลดต้นทุนได้มาก ทั้งนี้ เมล่อน ที่สวนของเรา ได้รับการตรวจรับรองจากสำนักงานเกษตรจังหวัดฯ ว่ามีรสชาติหวานกรอบ อร่อย ปลอดภัย ความหวานอยู่ประมาณ 14 บิต+ ซึ่งเป็นที่ต้องการของตลาดเป็นอย่างมาก
ด้าน นายคูนชัย อนันต์ ลูกค้าที่เดินทางมาซื้อเมล่อน กล่าวว่า เมล่อน สวนนี้ มีรสชาติหวานกรอบอร่อยไม่เหมือนใคร ตนจึงติดใจต้องกลับมาซื้อจนกลายเป็นลูกค้าประจำไปแล้ว ส่วนใครที่สนใจก็สามารถสั่งซื้อได้ที่เบอร์โทร. 097-3489209 คุณกาญจนาวดี เจ้าของสวนเมล่อน ละลุ ชายแดนตาพระยา จังหวัดสระแก้ว.