เกษตรอุบลฯ จัดกิจกรรม ปัดดอก ชมหางแย้ แลสวนทุเรียนแสงแรกแห่งสยามที่ อ.น้ำยืน

อุบลราชธานี จัดงานปัดดอก ชมหางแย้ แลสวนทุเรียนแสงแรกแห่งสยาม ที่แปลงใหญ่ทุเรียน หมู่ 6 ต.บุเปือย อ.น้ำยืน ดูการสาธิตปัดดอกทุเรียน การผสมเกสรดอกทุเรียน ในช่วงระยะหางแย้ อันเป็นช่วงที่เกษตรกรต้องทะนุถนอม โดยหลังจากนี้ 120 วันจึงจะเก็บผลผลิตได้

เย็นวานนี้ (5 มี.ค. 2567) ที่แปลงใหญ่ทุเรียน หมู่ 6 ต.บุเปือย อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี นางทรงลักษณ์ วรภัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เป็นประธานเปิดกิจกรรม ปัดดอก ชมหางแย้ แลสวนทุเรียนแสงแรกแห่งสยาม โดยมี นายถิรพุทธิ์ คานทอง เกษตรจังหวัดอุบลราชธานี, นายอาทิตย์ บุษบา นายอำเภอน้ำยืน หัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และเกษตรกร ร่วมกิจกรรม สาธิตการปัดดอกทุเรียน การผสมเกสรดอกทุเรียน ในแปลงทุเรียนแห่งนี้ โดยใช้ไม้กวาดอ่อนปัดไปมาเบาๆ เพื่อช่วยผสมดอกทุเรียนให้ติดผลมากที่สุด โดยระยะนี้เรียกว่าระยะหางแย้ หรือ "ระยะที่ห้าของดอกทุเรียน กลีบดอกจะร่วงลง" ซึ่งเป็นกิจกรรมในงาน "ตัด ปัดดอก ชมหางแย้ แลสวนทุเรียนแสงแรกแห่งสยามน้ำยืน" ที่ สำนักงานเกษตรจังหวัดอุบลราชธานี ได้จัดขึ้น

ในช่วงนี้ เป็นช่วงที่เกษตรกรต้องทะนุถนอมและเอาใจใส่ต่อดอกทุเรียนอย่างมากโดยเฉพาะการทำให้ทุเรียนติดผลได้ง่ายขึ้น อีกทั้งจะทำให้ผลทุเรียนแก่ใกล้เคียงกัน จึงจะสามารถกำหนดวันเก็บเกี่ยวได้  ที่สำคัญ ลูกทุเรียนต้องมีความสมบูรณ์ และมีคุณภาพ จึงต้องมีการ ปัด เกสร ทุเรียนช่วย ซึ่งเวลาที่เหมาะสม คือ ช่วงเวลา 19.00 - 21.00 น. เป็นเวลาที่ดอกตัวเมียมีน้ำหวานออกมามากที่สุดและเหมาะในการผสมมากที่สุด หลังจากผสมทุเรียนแล้ว อีก 120 วัน จะสามารถเก็บผลผลิตได้

นอกจากกิจกรรมการผสมเกสรดอกทุเรียนในแปลงทุเรียนแล้ว ยังมีการเสวนาในหัวข้อ “ทิศทางทุเรียนแสงแรกแห่งสยามในอนาคต” ซึ่ง จัดขึ้นสร้างขวัญและกำลังใจให้กับเกษตรกร ผู้ปลูกทุเรียน เป็นเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้การทำสวนทุเรียน และเพื่อประชาสัมพันธ์ทุเรียนอำเภอน้ำยืนให้เป็นที่รู้จักในตลาดมากยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ จังหวัดอุบลราชธานี มีพื้นที่เพาะปลูกทุเรียนประมาณ 4,100 ไร่ เกษตรกร 468 ครัวเรือน โดยอำเภอน้ำยืนมีพื้นที่ปลูกทุเรียน 2,551 ไร่ เกษตรกร 369 ครัวเรือน มีพื้นที่ที่ให้ผลผลิตแล้ว 1,538 ไร่ ผลผลิตเฉลี่ย 1,749 กิโลกรัม/ไร่ (อายุเฉลี่ย 9 ปี) ราคาจำหน่าย 150 บาท/กิโลกรัม คิดเป็นมูลค่า 403 ล้านบาท/ปี มีการจัดตั้งแปลงใหญ่ไม้ผล ที่มีทุเรียนเป็นสินค้าหลัก จำนวน 6 แปลง เกษตรกร 256 ครัวเรือน พื้นที่ 2,107 ไร่.