ดีเอสไอ สอบปากคำ "ประกร-พลภัทร" 2 ผู้ต้องหาคดีหมูเถื่อน ตีนไก่เถื่อน หน.พนักงานสอบสวนยันได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ เว้นปมส่วย จนท.รัฐที่ยังไม่ให้การนัดสอบอีกครั้ง 28 มี.ค. ขณะที่ "ชนิสรา" เข้ามอบตัวกับดีเอสไอแล้ววันนี้ (1 มี.ค.)
ความคืบหน้ากรณีดำเนินการจับกุมผู้เกี่ยวข้องนำเข้าหมูเถื่อน ตีนไก่เถื่อน หลังจากที่ กรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยคณะพนักงานสอบสวนคดีหมูเถื่อนได้รวบรวมพยานหลักฐานขอศาลอาญาออกหมายจับแก่บุคคลและนิติบุคคลที่เกี่ยวข้องกับขบวนการนำเข้าเนื้อสัตว์เถื่อนนานาชนิดมายังราชอาณาจักรไทย ในคดีพิเศษที่ 127/2566 ทั้งสิ้น 9 หมายจับ อันประกอบด้วย 5 หมายจับบุคคลทั่วไป คือ 1.นายประกร มหากิจโภคิณ 2.น.ส.ชนิสรา มหากิจโภคิณ 3.นายกิตติ ราชเนตร 4.นายภูวดล เกลียวจยกูล 5.นายพลภัทร สุขหน้าไม้ และหมายจับนิติบุคคล 4 หมายจับ ได้แก่ 1.บริษัท พีซี ฟูดส์ เซ็นเตอร์ จำกัด 2.บริษัท มั่นคง โฟรเซ่น จำกัด 3.บริษัท โคลเวอร์ซัพพลาย จำกัด 4.บริษัท โปรดักส์-มี จำกัด ล่าสุดพนักงานสอบสวนได้นำตัว นายประกร และนายพลภัทร มาสอบปากคำเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (29 ก.พ. 67)
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 1 มี.ค. 2567 พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม และในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน กล่าวว่า สำหรับผลการสอบปากคำผู้ต้องหา 2 ราย คือ นายประกร มหากิจโภคิณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พี ซี ฟูดส์ เซ็นเตอร์ จำกัด และนายพลภัทร สุขหน้าไม้ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โปรดักส์-มี จำกัด คณะพนักงานสอบสวนค่อนข้างได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการประกอบธุรกิจภายในพื้นที่เขตปลอดอากร หรือ Free Zone ว่าดำเนินการอย่างไร เริ่มทำตั้งแต่ปี พ.ศ.ใด และยังพบบัญชีส่วยที่กลุ่มผู้ต้องหาจ่ายให้กับเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งผู้ต้องหายังไม่ได้ให้การในส่วนนี้ แต่จะต้องเข้าให้การอีกครั้งในวันที่ 28 มี.ค. โดยจะต้องกลับไปรวบรวมพยานเอกสาร หลักฐานต่างๆ เพื่อกลับมาตอบใน 20 ประเด็นที่เหลือ เนื่องจากทางกรมศุลกากรได้ให้ข้อมูลบางอย่างกับดีเอสไอ จึงเป็นเหตุผลที่ผู้ต้องหาต้องกลับมาชี้แจงให้ครบถ้วน
...
โดยเมื่อวันที่ 29 ก.พ. ตนสอบปากคำ นายประกร จนถึงเวลา 00.00 น. ขณะที่ นายพลภัทร สอบปากคำเสร็จสิ้นราวๆ 21.00 น. และทั้งคู่ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ก่อนได้รับการประกันตัวชั่วคราวในชั้นสอบสวน โดยการวางหลักทรัพย์จำนวน 200,000 บาท ขณะนี้ยังเหลือผู้ต้องหาอีก 3 ราย ได้แก่ น.ส.ชนิสรา มหากิจโภคิณ นายกิตติ ราชเนตร และนายภูวดล เกลียวจยกูล ที่จะต้องเข้ามอบตัวและให้ปากคำ
ส่วนการสอบปากคำแก่ผู้ต้องหาที่เหลือก็จะใช้ประเด็นการสอบถามเดียวกันทั้งหมดเพราะ 5 ผู้ต้องหาล้วนมีส่วนเกี่ยวข้องกับตู้คอนเทนเนอร์ที่ตกค้างอยู่ที่ท่าเรือแหลมฉบัง ว่าเหตุใดจึงไม่มีการนำตู้ออกจากท่าเรือ ส่วนบทบาทของนายประกร และนายพลภัทรนั้น พบว่านายประกร มีบทบาทในการทำสินค้าในเขตปลอดอากร โดยการนำเข้าเนื้อสัตว์ ชิ้นส่วนสัตว์แช่แข็งจากต่างประเทศ แล้วนำมาไว้ในพื้นที่ปลอดอากร ก่อนส่งจำหน่ายในประเทศไทย ส่วนนายพลภัทรมีบริษัทของตัวเอง แต่ก็มาประกอบธุรกิจร่วมกันกับนายประกร จากนั้นก็มีการขออนุมัติจากกรมศุลกากรเพื่อประกอบธุรกิจ
พ.ต.ต.ณฐพล กล่าวว่า สำหรับการจ่ายส่วยของกลุ่มผู้ต้องหา พบจากการเข้าตรวจค้นบริษัทของพวกเขาเมื่อวันที่ 1 ก.พ. แม้ทั้งคู่จะยังไม่ได้ให้การ แต่มีการให้ถ้อยคำสารภาพถึงเรื่องการจะนำตู้ออกจากท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี จะต้องมีการจ่ายเป็นเงินสวัสดิการให้แก่เจ้าหน้าที่รัฐหลายหน่วยงาน ไม่ต่ำกว่า 20 ราย มีทั้งเจ้าหน้าที่กรมศุลกากร กรมปศุสัตว์ เจ้าหน้าที่หน่วยงานบริเวณชายแดน และยังมีนักข่าวท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ตำรวจ และปลัด โดยดีเอสไอจะต้องไปตรวจสอบว่ารายชื่อที่ปรากฏในบัญชีส่วยเป็นรายชื่อนามสกุลจริง มีตัวตนจริงหรือไม่ หรือว่าถูกแอบอ้างขึ้นมา เพราะมีการพฤติการณ์จ่ายเงินทั้งแบบเงินสดและจ่ายผ่านบัญชีธนาคาร
เบื้องต้นเราได้ตรวจสอบแล้วว่าเจ้าของบัญชีธนาคารคือใครบ้าง พบว่ากลุ่มผู้ต้องหามีการง่ายเงินให้เจ้าหน้าที่รัฐ อัตราเดือนละ 20,000-50,000 บาท และยังมีการจ่ายแบบเป็นรายตู้คอนเทเนอร์ ซึ่งภายในสัปดาห์หน้าเราจะเชิญตัวกลุ่มเจ้าหน้าที่และบุคคลที่ปรากฏชื่อในบัญชีส่วยมาสอบปากคำในฐานะพยานทั้งหมด เพื่อให้ความเป็นธรรมแก่พวกเขา จากนี้คณะพนักงานสอบสวนจะมีการนัดหมายประชุมกับเจ้าหน้าที่ศุลกากรถึงเรื่องการรับผิดชอบพื้นที่ปลอดอากร เพื่อขยายผลมาอย่างต่อเนื่องในคดีพิเศษที่ 127/2566
การออกหมายจับผู้ต้องหา 5 รายดังกล่าวถือว่าเป็นกลุ่มที่ 2 และในคดีนี้เราจะมีกลุ่มผู้ต้องหากลุ่มที่ 3 เพิ่มเติมเข้ามาโดยเป็นกลุ่มใหญ่ เป็นกลุ่มที่ไม่เคยถูกดำเนินคดีมาก่อน ขณะนี้คณะพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างรวบรวมเอกสารข้อมูลซึ่งได้ขอจากกรมศุลกากร กรมปศุสัตว์ เพื่อที่จะมาดูว่าการนำตู้คอนเทนเนอร์ จำนวน 10,000 ตู้ เข้ามาในไทย และนำออกจากท่าเรือ มีขั้นตอนอย่างไร
...
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อเวลา 10.00 น. น.ส.ชนิสรา มหากิจโภคิณ ได้เดินทางเข้ามอบตัวกับ พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม หัวหน้าพนักงานสอบสวน เมื่อผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่ามีอะไรอยากจะชี้แจงจากการถูกออกหมายจับ หรือปฏิเสธข้อหาใดหรือไม่ เจ้าตัวเงียบไม่มองหน้าผู้สื่อข่าว และรีบสาวเท้าเดินหนี ปฏิเสธการตอบคำถาม เมื่อถามต่อว่าจากการเข้าตรวจค้นบริษัท พีซี โฟรเซ่น จำกัด ดีเอสไอพบว่ามีบัญชีการจ่ายส่วยให้กับเจ้าหน้าที่รัฐหลากหลายหน่วยงาน เจ้าตัวไม่ตอบคำถามใดๆ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการนำตัวไปทำบันทึกการจับกุมกับเจ้าหน้าที่ชุดศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว ดีเอสไอ ที่ชั้น 4 อาคารกรมสอบสวนคดีพิเศษ และเมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการดังกล่าวเจ้าหน้าที่ชุดศูนย์สืบสวนฯ จะคุมตัว น.ส.ชนิสรา มาส่งให้พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีทำการสอบปากคำตามขั้นตอนต่อไป.