ลุงโคราชวัย 66 ปี ทำฟาร์มเลี้ยงหมูแบบฟรีสไตล์ ปล่อยน้องๆ เกือบ 60 ตัว ใช้ชีวิตอิสระเดินไปมาในที่ 2 ไร่ ชูได้ผลดี หมูโตไวไม่เครียด คุณภาพเนื้อดี อีกทั้งลดต้นทุนเกือบ 40 เปอร์เซ็นต์ แถมมีเวลาว่างเพิ่มขึ้นด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คุณลุงปราณีต อมรวุฒิพงศ์ อายุ 66 ปี เกษตรกรผู้เลี้ยงสุกร บ้านคลองยาง หมู่ที่ 4 ต.ครบุรีใต้ อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ตัดสินใจทดลองใช้พื้นที่ว่างซึ่งเดิมทีเคยใช้ปลูกหญ้าเนเปียให้เป็นอาหารเสริมแก่สุกรที่เลี้ยงไว้ กั้นรั้วรอบพื้นที่จำนวน 2 ไร่ แล้วปล่อยสุกรเกือบ 60 ตัว ให้วิ่งเล่นและหากินแบบธรรมชาติ พร้อมกับสร้างโรงเรือนขนาดเล็กพอให้สุกรได้หลบแดดฝน ส่วนพื้นที่โดยรอบก็จะมีต้นไม้ใหญ่สร้างความร่มรื่นและมีสระน้ำขนาดเล็ก ไว้ให้สุกรได้ลงเล่นน้ำคลายร้อนและทำความสะอาดตัวเอง และมีการปลูกหญ้าเนเปียเสริมอยู่เป็นหย่อมๆ เพื่อให้หมูได้ดูดกินเองตามธรรมชาติ

...

คุณลุงปราณีต กล่าวว่า การเลี้ยงหมูด้วยวิธีนี้สามารถลดต้นทุนในค่าหัวอาหารหมูได้เกือบ 40 เปอร์เซ็นต์ โดยส่วนหนึ่งตัวเองก็จะปลูกหญ้าเนเปียเอาไว้ ให้เป็นอาหารเสริมผสมกับหัวอาหาร และส่วนหนึ่งก็จะให้หมูได้หากินเองในพื้นที่ที่ทำคอกบริเวณเอาไว้ นอกจากนี้หมูที่ถูกเลี้ยงแบบปล่อย จะมีสุขภาพที่แข็งแรง อารมณ์ดีไม่เครียด อีกทั้งยังจะทำให้หมูมีเนื้อแน่น เนื่องจากได้ออกกำลังกาย ทำให้เนื้อเป็นที่ต้องการของตลาดอีกด้วย

เกษตรกรผู้เลี้ยงหมูปล่อยอิสระ กล่าวต่อว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาตัวเองต้องอาศัยทำไร่ทำนาเป็นหลัก พอมีรายได้ก็ซื้อรถไถ รถบรรทุก มารับจ้างไถ และบรรทุกผลผลิตทางการเกษตร ซึ่งในช่วงแรกๆ เมื่อประมาณ 20 ปีก่อน ก็สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ มีงานเข้าให้ทำจนไม่หวาดไม่ไหว แต่เมื่อระยะเวลาผ่านไป ร่างกายก็เริ่มโรยแรงไปตามอายุอานามที่มากขึ้น ประกอบกับช่วงหลังความก้าวหน้าและความทันสมัยของเทคโนโลยีที่สูงขึ้น ทำให้เครื่องจักรอย่างรถไถรถบรรทุก สามารถเข้าถึงได้ง่าย ซื้อหาได้สะดวก มีใช้กันทั่วไป จึงตัดสินใจที่จะลองหาอาชีพอื่น มาเลี้ยงตัว เพราะช่วงเวลาที่ผ่านมานั้นตัวเองก็ได้ดูแลครอบครัวจนหมดห่วง ลูก 2 คน ก็ต่างพากันแต่งงานแยกครอบครัวเป็นของตัวเองหมดแล้ว

คุณลุงปราณีต กล่าวอีกว่า การเลี้ยงหมู จึงเป็นอาชีพใหม่ที่น่าสนใจ เพราะไม่ต้องใช้แรงในการดูแลเยอะ จึงเริ่มลองเลี้ยงโดยเริ่มจากการเลี้ยงแบบทั่วไป ซื้อลูกหมูมาเลี้ยงดูแลให้อาหารแบบฟาร์มด้วยอาหารสำเร็จรูปทั้งหมด แต่ปรากฏว่าต้นทุนเพิ่มสูงขึ้นทุกปี เพราะราคาค่าหัวอาหารปรับตัวขึ้นตลอดไม่มีหยุด ในขณะที่ราคาหมูก็ไม่แน่นอน บางครั้งตกต่ำจนต้องเจอกับปัญหาการขาดทุน ยิ่งในช่วงที่เกิดโรคระบาดไม่ต้องพูดถึง หมูตาย ขายไม่ได้ ต้องล้มลุกคลุกคลานมาแล้วหลายครั้ง แต่ก็ยังกัดฟันสู้เรื่อยมากว่า 10 ปีแล้ว

...

"ยิ่งนานวันอายุก็ยิ่งมาก เรี่ยวแรงก็น้อยลงไปทุกที แต่ก็ยังจำเป็นที่จะต้องมีอาชีพเอาไว้หาเลี้ยงตัวเองและภรรยาคู่ชีวิต จึงลองเสี่ยง หันมาเลี้ยงสุกรแบบปล่อยดู เพราะบริเวณบ้านของตัวเองพื้นที่ค่อนข้างเยอะอยู่ห่างไกลชุมชน ก่อนหน้านี้ก็ได้ใช้ปลูกหญ้าเนเปีย ที่ช่วงหลังได้รับคำแนะนำจากทางเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์อำเภอครบุรี ที่มาส่งเสริมให้ใช้หญ้าเป็นอาหารเสริมร่วมกับอาหารสำเร็จรูป เพื่อลดต้นทุนอยู่แล้ว มากั้นทำคอก ลองนำหมูปล่อยลงเลี้ยง ให้หมูได้วิ่งเล่นและหากินเองได้ยามหิว จะได้ไม่ร้องโวยวายทั้งวัน อีกทั้งยังไม่ต้องทำความสะอาดคอก มูลหมูก็จะกลายเป็นปุ๋ยให้ต้นไม้และหญ้าที่ปลูกไว้ มีสระน้ำให้หมูได้ลงเล่นคลายร้อนทำความสะอาดตัวเอง ส่วนตัวเองก็มีหน้าที่แค่นำหัวอาหารผสมรำและหญ้ามาให้เป็นเวลาเท่านั้น" เกษตรกรผู้เลี้ยงหมูปล่อยอิสระ กล่าว 

...

คุณลุงปราณีต กล่าวว่า ที่ผ่านมาก็ลดภาระในการดูแลไปได้กว่าครึ่ง มีเวลาว่าง มีเวลาพักผ่อนมากขึ้น สุขภาพก็แข็งแรงมีเรี่ยวแรงมากขึ้นตามไปด้วย นอกจากนี้หมูที่ถูกเลี้ยงแบบปล่อยนั้นจะอารมณ์ดีไม่เครียด เพราะได้วิ่งเล่นเต็มที่ เนื้อก็จะแน่นกว่าหมู่ที่เลี้ยงในโรงเรือน ทำให้เป็นที่ต้องการของตลาด อีกทั้งยังโตเร็วกว่าการเลี้ยงทั่วไปเกือบ 1 เดือน ที่สำคัญยังสามารถลดต้นทุนค่าอาหารหมูไปได้มากเกือบ 40 เปอร์เซ็นต์ ทำให้มีกำไรจากการขายหมูในแต่ละรุ่นเพิ่มมากขึ้นด้วย

เกษตรกรผู้เลี้ยงหมูปล่อยอิสระ กล่าวด้วยว่า ทุกวันนี้ตัวเองมีเวลามากขึ้น ไม่ต้องห่วงกังวลคอยดูแลหมูมากเกินไป สุขภาพจิตก็ดี อารมณ์ก็ดี แถมยังมีรายได้ดีขึ้นด้วย จากเมื่อก่อนที่ต้องเสี่ยงดวงอยู่ เพราะต้นทุนค่าอาหารหมูที่สูง การดูแลที่ยากลำบาก และยังต้องมากังวลลุ้นว่าราคาจะได้ตามที่หวังหรือไม่ แต่ตอนนี้ตัวเองแก้ไขปัญหานี้ไปได้แล้วกว่าครึ่ง ต้นทุนลดลงไปเกือบ 40% ทำให้ความเสี่ยงน้อยลง ค่าตอบแทนที่จะได้ก็เพิ่มขึ้นตามส่วนที่ลดต้นทุนลงไป ตอนนี้หมูที่เลี้ยงไว้ ก็มีพร้อมทุกรุ่น ตั้งแต่พ่อพันธุ์แม่พันธุ์ ที่สามารถผลิตลูกรุ่นใหม่ได้เอง ทำให้ไม่ต้องซื้อลูกหมูมาเลี้ยงใหม่ ก็ยิ่งประหยัดต้นทุนได้เพิ่มขึ้นอีกมาก เวลาว่างก็มีมากขึ้น สามารถดูร่างกายรักษาสุขภาพได้ดีขึ้น เมื่อสุขภาพร่างกายดี จิตใจก็ดีตามไปด้วย ตอนนี้ถือว่าอยู่ตัวแล้ว มีเงินเก็บเอาไว้ทำทุนดูแลตัวเองและครอบครัวอย่างไม่ต้องเป็นห่วงอะไรอีกแล้ว.

...