อ.กัลยาณิวัฒนา จ.เชียงใหม่ จัดงานสวัสดีกัลยากาแฟครั้งที่ 2 เพื่อทำให้กาแฟกัลยาณิวัฒนาเป็นที่รู้จักวงกว้าง และรับรางวัลในเวทีกาแฟโลก ณ สันอ่างเก็บน้ำห้วยอ้อ ป่าสนวัดจันทร์ ส่งเสริมการปลูกพืชมูลค่าสูง ปลอดภัย เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม


เมื่อวันนี้ 22 มกราคม 2567 นายกิ่งเพชร พันธุ์ประยูร นายอำเภอกัลยาณิวัฒนา จ.เชียงใหม่ ได้พิธีเปิดงาน "สวัสดีกัลยากาแฟ" ครั้งที่ 2 ประจำปี พ.ศ.2567 ผ่านมาได้ 2 วัน ณ บริเวณป่าสนวัดจันทร์ สันอ่างเก็บน้ำห้วยอ้อ (ออป.) หมู่ที่ 3 ตำบลบ้านจันทร์ อำเภอกัลยาณิวัฒนา จังหวัดเชียงใหม่ โดยมี นายแสนชัย จูเปาะ ผู้แทนเกษตรกรผู้ปลูกและแปรรูปผลิตภัณฑ์กาแฟ ได้กล่าวรายงานถึงที่มา และวัตถุประสงค์ของการจัดงานว่า ด้วยกลุ่มสมาชิกผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์กาแฟ ร่วมกับเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟ ผู้ประกอบการที่พักโฮมสเตย์ ผู้ประกอบการร้านอาหาร กลุ่มผู้ผลิตสินค้า OTOP ส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พร้อมด้วยภาคีเครือข่ายภาคประชาชน ในพื้นที่อำเภอกัลยาณิวัฒนาได้ร่วมกันจัดงาน “สวัสดีกัลยากาแฟ ครั้งที่ 2” ประจำปี พ.ศ.2567 ณ บริเวณสันอ่างเก็บน้ำห้วยอ้อ ป่าสนวัดจันทร์ หมู่ที่ 3 ตำบลบ้านจันทร์

...

นายอำเภอกัลยาณิวัฒนา กล่าวต่อว่า การจัดงานครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประชาสัมพันธ์ และนำเสนอผลิตภัณฑ์กาแฟในพื้นที่อำเภอกัลยาณิวัฒนากว่า 18 ผลิตภัณฑ์ ให้เป็นที่รู้จักแก่ประชาชนทั่วไป นักท่องเที่ยว และผู้ประกอบการร้านกาแฟทั้งในและต่างประเทศ เนื่องจากผลิตภัณฑ์กาแฟของพื้นที่อำเภอกัลยาณิวัฒนาได้รับรางวัลอันดับที่ 3 จากเวที Cup of Excellence Thailand 2023 ซึ่งเป็นเวทีการประกวดกาแฟระดับโลก รวมถึงได้รับรางวัลอันดับ 1 ใน 5 จากเวที THAI Specailty Coffee Awards 2023 ซึ่งจัดโดย สมาคมกาแฟพิเศษไทย ตลอดระยะเวลาการประกวด 10 ปีที่ผ่านมา โดยภายในงานมีกิจกรรมการแข่งขันชงกาแฟ การคั่วกาแฟ รวมทั้งมีการแสดงและจำหน่ายสินค้าผลิตภัณฑ์ชุมชนและของดีอำเภอกัลยาณิวัฒนา เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับพี่น้องประชาชน จึงร่วมกันจัดงานนี้ขึ้น

นายกิ่งเพชร กล่าวอีกว่า "กาแฟ" เป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญของจังหวัดเชียงใหม่ และของประเทศไทย และเป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมทั่วโลก โดยในประเทศไทยธุรกิจร้านกาแฟมีการเติบโต และขยายตัวเพิ่มขึ้นทุกปี เป็นไปตามเทรนด์ หรือแนวโน้มการดื่มกาแฟของคนรุ่นใหม่ที่เริ่มให้ความสนใจกับที่มาหรือเรื่องราวของกาแฟเอกลักษณ์ของแหล่งปลูก รูปแบบการบริโภค และรสชาติของกาแฟกันมากขึ้น

...

นายอำเภอกัลยาณิวัฒนา กล่าวอีกว่า ปัจจุบันตลาดเครื่องดื่มกาแฟของไทยยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2567 คาดว่าจะมีมูลค่า ตลาด 64,517 ล้านบาท และมีอัตราการขยายตัวเฉลี่ยร้อยละ 3.8 ต่อปี ด้วยร้อยละ 90 นำเข้าจากต่างประเทศ และเราสามารถผลิตกาแฟใช้เองภายในประเทศได้เพียงร้อยละ 10 เท่านั้น สำหรับอำเภอกัลยาณิวัฒนามีปลูกกาแฟจำนวนประมาณ 400 คน มีพื้นที่ปลูกประมาณ 1,700 ไร่ มีผลผลิตต่อปีอยู่ที่ประมาณ 101 ตัน คิดเป็นร้อยละ 0.01 ของผลผลิตรวมทั้งประเทศต่อปี ประกอบกับแผนพัฒนาจังหวัดเชียงใหม่ประจำปี พ.ศ.2567 ได้กำหนดยุทธศาสตร์ของจังหวัดเชียงใหม่ไว้ 3 ประเด็น ได้แก่

...

1.การส่งเสริมการท่องเที่ยวสร้างสรรค์มูลค่าสูง โดยเน้นการท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพโดยอาศัยความเข้มแข็งของ Mice city และ soft Power รวมทั้งส่งเสริมการท่องเที่ยวประเภทอื่นๆ เช่น งานเทศกาลงานท่องเที่ยวเชิงอาหาร งานท่องเที่ยวเชิงเกษตร การท่องเที่ยวเชิงชุมชนและส่งเสริมการเรียนรู้วัฒนธรรม
2.การยกระดับการผลิตผลผลิตทางการเกษตรและอาหารปลอดภัย เพื่อเชื่อมโยงการแปรรูปให้มีมูลค่าสูงสุด โดยเน้นการยกระดับการผลิตผลผลิตทางการเกษตรและส่งเสริมให้แปรรูปอาหารที่มีความปลอดภัยได้มาตรฐาน และเชื่อมโยงอุตสาหกรรมการแปรรูปที่มีมูลค่าสูง รวมทั้งการส่งเสริมการเกษตรเพื่อเพิ่มคาร์บอนเครดิต


3.เศรษฐกิจสร้างสรรค์และชุมชน เน้นการยกระดับสินค้าโดยใช้ sofe power เทคโนโลยีและดิจิตอล เพื่อสร้างมูลค่าให้กับผู้ประกอบการ รวมทั้งเน้นสร้างทักษะสมัยใหม่ในการประกอบอาชีพให้กับแรงงานและผู้ประกอบการ รวมทั้งเกษตรกร และส่งเสริมการตลาดเพื่อเชื่อมโยงการค้าสู่ตลาดระดับสากลจนประสพความสำเร็จ

...

ในเรื่องการปลูกกาแฟ นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ให้ความสำคัญกับการปลูกกาแฟ จึงเป็นโอกาสของเกษตรกรที่ปลูกพืชเชิงเดี่ยวที่ต้องการหันมาปลูกกาแฟ หรือปลูกพืชที่มีมูลค่าสูง และยุทธศาสตร์ของจังหวัดเชียงใหม่ หรือเป้าหมายคือให้พี่น้องประชาชนอยู่ดีมีสุข คนกับป่าอยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืน ใช้พื้นที่ปลูกพืชที่ให้ผลผลิตสูง และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนที่สนใจจะปลูกกาแฟ หรือปลูกพืชที่มีมูลค่าสูง มาร่วมกันดูแลรักษาป่าต้นน้ำ ด้วยการปลูกพืชที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อให้คนอยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืน และให้ผลผลิตที่มีมูลค่าสูงและมีความยั่งยืน จนประสบความสำเร็จ.