ชาวนาในพื้นที่ ต.ครบุรีใต้ อ.ครบุรี นำท่อนมันสำปะหลังลงปลูกในนาแทนการทำนาปรัง เพราะเขื่อนไม่สามารถจ่ายน้ำทำนาได้ เชื่อเป็นทางเลือกที่ดีเพราะใช้น้ำน้อย เก็บขายเป็นรายได้ระหว่างรอทำนา และยังช่วยตัดวงจรแมลงศัตรูพืชได้

เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. 66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวนาในพื้นที่ ต.ครบุรีใต้ อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ส่วนหนึ่ง ตัดสินใจลงทุนไถนาข้าวที่เพิ่งเก็บเกี่ยว แล้วนำท่อนพันธุ์มันสำปะหลังมาปลูกทดแทน เนื่องจากในช่วงจากนี้ไปจะเข้าสู่ฤดูแล้งที่หลายฝ่ายคาดการณ์ว่าจะรุนแรงและยาวนานกว่าที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลมาจากภาวะเอลนีโญที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นทุกปี ประกอบกับในปีนี้พื้นที่ตำบลครบุรีใต้ ที่ส่วนใหญ่จะเป็นพื้นที่ภายในเขตชลประทานของโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษามูลบน ส่วนใหญ่จะต้องงดงานทำนาปรังรอบนี้อย่างแน่นอน เพราะปริมาณน้ำภายในเขื่อนมูลบนมีปริมาณค่อนข้างน้อยกว่าทุกปี จำเป็นที่จะต้องสงวนไว้จัดสรรให้กับการอุปโภคบริโภคเป็นหลัก ทำให้ไม่เพียงพอที่จะส่งน้ำให้กับเกษตรกรได้ทำนาปรังทั้ง 45,000 ไร่ได้ ทางเลือกในการเพาะปลูกมันสำปะหลังจึงเป็นหนทางหนึ่งที่จะยังสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรในช่วงที่ต้องรอฤดูกาลเพาะปลูกข้าวนาปีในปีหน้าอีกกว่าครึ่งปี

...

นายอรรถพล ชุมกระโทก เกษตรกรหนุ่มวัย 38 ปี หนึ่งในชาวนาที่หันมาปลูกมันสำปะหลังในช่วงที่ต้องงดการทำนาปรังปีนี้ ก็ได้เปลี่ยนนาข้าวจำนวน 5 ไร่ มาเป็นไร่มันสำปะหลังแล้วเช่นเดียวกัน โดย นายอรรถพล กล่าวว่า การปลูกมันสำปะหลังดีกว่าปล่อยให้นาข้าวต้องเปล่าประโยชน์ไปนานอีกกว่า 6 เดือน กว่าจะถึงฤดูฝน หรือช่วงฤดูกาลเพาะปลูกข้าวนาปี อีกทั้งในช่วงนี้ราคามันสำปะหลังค่อนข้างดี สูงกว่ากิโลกรัมละ 3 บาท จึงมีความหวังว่าจะมีรายได้จากการปลูกมันสำปะหลัง ที่เป็นพืชใช้น้ำน้อยในช่วงนี้มาทดแทนการเพาะปลูกข้าวนาปรังที่มีความเสี่ยงสูง ที่จะไม่มีน้ำเพียงพอให้ได้ใช้จนถึงฤดูกาลเก็บเกี่ยว

เกษตรกรหนุ่มที่ปลูกมันสำปะหลังแทนการทำนา กล่าวต่อว่า นอกจากการปลูกมันสำปะหลังจะทำให้ครอบครัวมีรายได้ในช่วงที่ต้องงดการทำนาแล้ว ยังมีข้อดีอีกหลายข้อ เพราะเป็นการเพาะปลูกพืชระบบหมุนเวียน ทำให้แปลงนาได้พัก ตัดวงจรการระบาดของโรคแมลงศัตรูพืช วัชพืชแซมข้าว หรือที่เรียกว่าข้าวดีดได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังช่วยลดปัญหาการเผาตอซังข้าว ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดฝุ่น PM 2.5 ลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศ ที่เป็นสาเหตุสำคัญที่นำไปสู่ภาวะโลกร้อนตามนโยบายของรัฐบาลอีกด้วย

...

รายงานข่าวแจ้งว่า นอกจากตำบลครบุรีใต้แล้ว ยังคงมีอีกชาวนาอีกหลายพื้นที่ของอำเภอครบุรี ที่มีนาข้าวในเขตชลประทานทั้งในส่วนของเขื่อนมูลบน และเขื่อนลำแชะ สองเขื่อนหลักของจังหวัดนครราชสีมา หันมาปลูกมันสำปะหลังแทนการทำนาปรังไปแล้วไม่น้อยกว่า 1,000 ไร่ แม้ว่าจะต้องลงทุนกันใหม่เพราะต้องซื้อท่อนพันธุ์ ค่าปุ๋ย ค่ายาใหม่ๆ แต่เกษตรกรก็ยังมั่นใจว่า มันสำปะหลังในนารอบนี้จะพอที่จะสร้างรายได้ ระหว่างที่ต้องรอฤดูกาลปลูกข้าวนาปีรอบใหม่ ดีกว่าที่ต้องทิ้งที่นาให้เปล่าประโยชน์ถึงครึ่งปี.