ชาวสวนสับปะรดศรีเชียงใหม่ ผันตัวเองมาทำชุมชนกลุ่มแปรรูปสับปะรดบ้านหม้อ แปรรูปสับปะรด ผลิตไวน์สับปะรด-สุราสับปะรด GI ศรีเชียงใหม่ ทำรายได้เดือนละ 7-8 หมื่นบาท ขายตามงาน ออนไลน์ และผ่านไปรษณีย์ไทย ส่งขาย สปป.ลาว รวมทั้ง เกาหลีใต้ก็สนใจ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ โรงสุราแช่ผลไม้วิสาหกิจชุมชนกลุ่มแปรรูปสับปะรดบ้านหม้อ หมู่ 1 ต.บ้านหม้อ อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย กำลังนำสับปะรดของเกษตรกรแปลงใหญ่ในพื้นที่ ซึ่งเป็นสินค้าการเกษตรที่ขึ้นชื่อของอำเภอศรีเชียงใหม่ เพราะสับปะรดที่นี่ได้รับการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ หรือ GI เพราะมีเอกลักษณ์ในรสชาติที่หอมหวานฉ่ำ มีพื้นที่ปลูกรวม 1,400 ไร่ เป็นพืชที่สร้างรายได้หลักให้ชาวศรีเชียงใหม่กว่า 80 ครัวเรือน นำมาเข้าสู่กระบวนการแปรรูปเป็นไวน์สับปะรด "ตำจอก" และสุราสับปะรด "ซมเซย" เพื่อเป็นการเพิ่มมูลค่าทางการเกษตรของจังหวัดหนองคาย
...
นายภูเบศ ใจขาน ผู้ใหญ่บ้านหม้อ หมู่ 1 ต.บ้านหม้อ ในฐานะประธานวิสาหกิจชุมชนกลุ่มแปรรูปสับปะรดบ้านหม้อ กล่าวว่า ก่อนที่จะมาแปรรูปสับปะรดก็เป็นชาวสวนทำไร่สับปะรดมาก่อน ตั้งแต่ปี 2555-2559 แต่ประสบปัญหาเรื่องราคาสับปะรดตกต่ำ ก็เลยผันตัวเองมาทำเกี่ยวกับวิสาหกิจชุมชนกลุ่มแปรรูปสับปะรด โดยได้องค์ความรู้จากนักวิชาการต่างๆ มหาวิทยาลัยขอนแก่น มหาวิทยาลัยราชภัฏฯ แมักระทั่งอุตสาหกรรมจังหวัด พาณิชย์จังหวัด พัฒนาการจังหวัด และภาครัฐมาให้ความรู้ด้านการแปรรูป ผลิตภัณฑ์ตัวแรกที่ทำขึ้นมาก็ คือ "น้ำสับปะรดสกัด 100%" มีลักษณะเด่น คือ วัตถุดิบหลักเป็นสับปะรด GI ศรีเชียงใหม่ ได้ขึ้นทะเบียนพาณิชย์ในลำดับที่ 156 ของประเทศไทย มีลักษณะเด่น คือ รสชาติหอมหวานฉ่ำ เป็นคุณลักษณะเฉพาะถิ่น ถือว่าเป็นจุดแข็งของสับปะรดที่นี่
ผู้ใหญ่บ้านหม้อ หมู่ 1 กล่าวต่อว่า กระทั่งเมื่อปี 2562 ก็ประสบปัญหาของโรคโควิด-19 ระบาดช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ทำให้เกิดปัญหาในเรื่องการตลาด จึงปรับเปลี่ยนรูปแบบการแปรรูปสับปะรดให้มีความหลากหลายยิ่งขึ้น จากน้ำสับปะรด ก็เป็นสับปะรดอบแห้ง ไวน์สับปะรด "ตำจอก" ท้ายสุดที่ได้รับใบอนุญาตจากกรมสรรพสามิตก็ คือ "สุรากลั่นชุมชน" ที่สกัดมาจากสับปะรดหมัก ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ล่าสุด ส่วนเศษสับปะรดที่เหลือก็นำไปเป็นอาหารปศุสัตว์ของชาวบ้าน เป็นการคืนสู่ชุมชนที่ได้เกื้อกูลกัน ซึ่งสามารถจะทำเป็นนวัตกรรมขับเคลื่อนเศรษฐกิจหมุนเวียนได้ตามนโยบายของภาครัฐ ซึ่งเป็นวัตกรรมที่จะเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
...
นายภูเบศ กล่าวอีกว่า ในด้านการตลาดเมื่อก่อนก็ได้อาศัยกับพาณิชย์จังหวัด อุตสาหกรรมจังหวัด พัฒนาชุมชน เกษตรจังหวัด และหน่วยงานภาครัฐที่ช่วยสนับสนุนในช่องทางการตลาด ด้วยการออกบูธจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร รวมทั้งไปเปิดตลาดที่เมืองทองธานี อีกช่องทางหนึ่งก็คือตลาดออนไลน์ และทำ MOU กับไปรษณีย์ไทย ทำให้มีสินค้าออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะตลาด สปป.ลาว ได้ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก รวมทั้งประเทศเกาหลีใต้ที่สนใจในเรื่องสุรากลั่นชุมชน ซึ่งจะมาทำ MOU ร่วมกัน ซึ่งได้มีการเจรจาในเบื้องต้นกันแล้ว
...
ผู้ใหญ่บ้านหม้อ หมู่ 1 กล่าวด้วยว่า ส่วนรายได้ตอนนี้ ถ้ามองถึงมูลค่าก็ยังน้อยอยู่ประมาณ 70,000-80,000 บาท/เดือน แต่ค่าใช้จ่ายก็ยังสูง อย่างเช่นสับปะรดทุกวันนี้ราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ 20 บาท ถือว่าเกษตรกรผู้ปลูกสับปะรดสามารถลืมตาอ้าปากได้ในปีนี้ และวิสาหกิจชุมชนแปรรูปสับปะรดยังเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือเกษตรกรในการนำผลผลิตรมาสู่กระบวนการแปรรูป ซึ่งสามารถแปรรูปสับปะรดได้วันละประมาณ 1 ตันต่อครั้งต่อวัน ถือว่าเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการช่วยเหลือชาวสวนสับปะรดในพื้นที่อีกด้วย.