บรรยากาศที่บ้านห้วยโจด ต.ห้วยโจด อ.กระนวน จ.ขอนแก่น พบว่าตอนนี้ วัดสว่าง เปิดลานวัดให้ใช้ตากข้าวโดยผลัดกันมาตากรายละ 2-3 แดด ไม่ต้องเสี่ยงตากบนถนนให้รถชน หรือถูกขโมยข้าว ชี้ ชาวบ้านช่วยกันตากช่วยกันเก็บ ไม่มีทะเลาะเพราะวัดช่วยรวมจิตใจ

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 22 พฤศจิกายน 2566 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตระเวนดูเกษตรกรทำนา ตากข้าวหลังการเก็บเกี่ยว ซึ่งก็ยังพบว่าริมถนนสายต่างๆ ในพื้นที่ชุมชนหมู่บ้าน ยังคงมีการตากข้าวเปลือกกันเช่นเดิม  นอกจากนี้ยังพบว่า พื้นที่หน้า อบต.โรงเรียน รวมถึงลานวัด ก็ยังเป็นสถานที่ในการตากข้าวเปลือกของชาวบ้านในพื้นที่อีกด้วย และที่ลานวัด วัดสว่าง บ้านห้วยโจด หมู่ 11 ต.ห้วยโจด อ.กระนวน จ.ขอนแก่น มีเกษตรกรกว่า 10 ราย นำข้าวเปลือกมาตากจนเต็มลานวัด บางรายข้าวแห้งแล้วก็จัดเก็บใส่กระสอบ เพื่อนำไปเก็บยังยุ้งฉาง

...

นางสาวสุดใจ คำอินทร์ อายุ 41 ปี ชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 3 บ้านห้วยโจด ต.ห้วยโจด อ.กระนวน จ.ขอนแก่น  กล่าวว่า หลังการเก็บเกี่ยวข้าวจากท้องนา ข้าวเปลือกจะมีความชื้น จึงต้องนำมาตาก ซึ่งในพื้นที่บ้านห้วยโจดนั้น สามารถตากข้าวเปลือกได้ในพื้นที่โรงเรียน อบต. และที่วัด เป็นการช่วยเหลือเกษตรกร ไม่ให้เอาข้าวไปตากบนถนน ชาวบ้านส่วนใหญ่จะนำข้าวเปลือกมาตากที่วัด ตากคนละ 2-3 แดด โดยเมื่อตากข้าวแล้ว ทุกคนต้องเฝ้าข้าวของตัวเอง เมื่อข้าวแห้งก็เก็บใส่กระสอบ นำกลับบ้าน เพื่อที่คนต่อไปจะได้มาตากต่อ โดยที่วัดสว่างบ้านห้วยโจด ได้เปิดพื้นที่ลานวัดให้แก่ชาวบ้านนำข้าวมาตากเป็นประจำทุกปี เพื่อที่ชาวบ้านในพื้นที่จะไม่ต้องนำข้าวเปลือกไปตากบนถนนหลวง ซึ่งเสี่ยงอันตรายแก่ผู้ใช้รถใช้ถนน ทั้งเสี่ยงที่ข้าวจะถูกขโมยได้ง่าย 

"ชาวบ้านและทางวัดจึงได้มีการพูดคุยและตกลงร่วมกันว่า จะใช้พื้นที่ลานวัดตากข้าวเป็นประจำทุกปี โดยไม่มีการเก็บเงินแต่อย่างใด แต่เมื่อข้าวแห้งจนสามารถเก็บใส่กระสอบได้แล้ว จะยกข้าว 1 กระสอบให้แก่ทางวัดด้วยความสมัครใจ เพื่อเป็นการตอบแทนทางวัดที่ให้พื้นที่ในการตากข้าว ทั้งเมื่อทุกคนตากข้าวจนหมดแล้ว ชาวบ้านที่นำข้าวมาตากที่วัด จะมาช่วยกันล้างทำความสะอาดลานวัด ให้กลับมาสะอาดดังเดิม โดยทุกคนต่างเต็มใจมาช่วยกันโดยไม่ต้องจ้างแรงงาน" ชาวบ้านที่บ้านห้วยโจด กล่าว.