ทุกข์ซ้ำเติมชาวนา อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี หลังฝนตกลมแรงทำให้นาข้าวหลายพื้นที่ ข้าวล้มจมน้ำได้รับความเสียหายเป็นบริเวณกว้าง ทั้งที่อีกไม่กี่วันก็จะได้เก็บเกี่ยว และคาดว่าถึงวันเก็บเกี่ยว ข้าวจะมีความชื้นสูง ถูกกดราคาให้ต่ำแน่นอน
เมื่อวันที่ 8 พ.ย. 2566 ฝนที่ตกหนักและมีลมกระโชกแรงมา 2 วัน ติดต่อกัน เช่น พื้นที่ตำบลหนองฉาง อำเภอหนองฉาง จังหวัดอุทัยธานี ที่ผู้สื่อข่าวลงไปสำรวจตั้งแต่เช้าตรู่ ได้พบกับเกษตรกรชาวนาในพื้นที่ดังกล่าว กำลังมาดูความเสียหายของแปลงนา ที่เพราะปลูกไว้ เป็นพันธุ์ข้าว กข 74 ซึ่งต้องใช้ระยะเพาะปลูกตั้งแต่หว่าน ปักดำ จนถึงอายุเก็บเกี่ยวเป็นเวลา 140 วัน เป็นข้าวใช้เวลาปลูกนานแต่น้ำหนักดี เมื่อเกี่ยวไปขาย
อย่างไรก็ตาม แปลงนาข้าวดังกล่าวของชาวนารายนี้ และแปลงนาของเกษตรกรรายอื่นๆ ที่อยู่ในพื้นที่เดียวกัน ข้าวที่มีทั้งกำลังตั้งท้องออกรวง รวมถึงข้าวอีกไม่ถึงสัปดาห์ก็จะสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตไปขายได้แล้ว ต้นข้าวรวงหักพังราบเป็นหน้ากลองกำลังจะได้รับความเสียหายเป็นบริเวณกว้าง ส่งผลให้เกษตรกรชาวนากำลังทุกข์หนัก หากฝนตกลงมาซ้ำอีก ก็จะเพิ่มความเสียหายไปมากกว่านี้ โดยเฉพาะข้าวที่มีอายุจะเก็บเกี่ยว
...
เกษตรกรที่เป็นชาวนาตั้งความหวังก่อนหน้านี้ว่า ปีนี้ราคาข้าวดีกว่าปีที่ผ่านมา คือมีราคาตันละกว่า 1 หมื่นบาท จะได้ผลกำไรเป็นกอบเป็นกำ มีเงินไปใช้หนี้ค่าพันธุ์ข้าว ค่าปุ๋ย ค่า ยา และยังมีเงินใช้หนี้ในส่วนอื่นๆ รวมทั้งยังมีเงินเก็บและมีทุนทำนาโดยไม่ต้องไปกู้หนี้ยืมสินใคร แต่ความฝันได้พังทลายที่ต้องเจอกับภัยธรรมชาติ ข้าวที่ล้มจมน้ำ เมื่อถึงเก็บเวลาเก็บเกี่ยว ข้าวจะมีความชื้นสูงเมื่อนำไปขายจะถูกหักความชื้นและถูกกดราคาและต้องพากันขาดทุนอย่างแน่นอน
ขณะเดียวกันฝนที่ตกลงมาดังกล่าวในพื้นที่เดียวกัน ได้ส่งผลดีให้เกษตรกรชาวนา ที่เพิ่งเพาะปลูกข้าวรอบใหม่ ซึ่งข้าวกำลังเริ่มเจริญเติบโต และอยู่ในวัยที่ต้องการน้ำ และมีน้ำขังในแปลงนา โดยไม่ต้องลงทุนสูบน้ำจากแหล่งน้ำของตนเอง เพื่อไปหล่อเลี้ยงต้นข้าว และสามารถสำรองแหล่งน้ำไว้ ตอนที่แปลงนาต้องเจอกับสภาพความแห้งแล้งข้างหน้า จะได้มีแหล่งน้ำ สูบน้ำไปหล่อเลี้ยงต้นข้าวได้ต่อไป.