ฝนตกชุกพาเทพธิดาดอยหรือ หน่อไม้ไผ่ไร่ผุดหน่อตามป่าเขา 1 ปีมี 1 ครั้ง ชาวบ้านรวมกลุ่มทำหน่อไผ่ไร่อัดปี๊บขายปี๊บละ 350 บาท สร้างรายได้เข้าสู่กลุ่มหน่อไม้อัดปี๊บตำบลบ้านปิน เป็นเงินปีละกว่าแสนบาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากฝนตกที่ตกชุกทำให้ "เทพธิดาดอย" หรือ หน่อไม้ไร่ ผุดหน่อโผล่ตามป่าเขาบนดอยสูง ชาวบ้านบ้านปิน ตำบลบ้านปิน อำเภอดอกคำใต้ จ.พะเยา จึงพากันเดินทางเข้าป่า หาหน่อไม้ไผ่ไร่ หรือหน่อไร่ ที่ชาวบ้านเรียกกัน เพื่อนำมารับประทานขายและนำไปต้มอัดปี๊บเพื่อจำหน่าย ซึ่งช่วงนี้ฝนตกซุก หน่อไม้ไผ่ไร่เริ่มผุดแทงหน่อออกเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะพื้นที่ป่าบนเขาที่มีความอุดมสมบูรณ์และเป็นป่าที่ปลอดสารเคมี เนื่องจากบนพื้นที่ป่าบนเขานั้นไม่มีการทำไร่เลื่อนลอย หรือทำสวนแต่อย่างใด จึงทำให้สภาพดินเป็นดินที่ดีอุดมสมบูรณ์ จึงทำให้หน่อไม้ไผ่ไร่ มีรสชาติที่หวาน กรอบ อร่อยและเป็นที่ต้องการของผู้ที่นิยมรับประทานหน่อไม้ดังกล่าว 

...

ชาวบ้านจึงพากันออกขุดหาหน่อไม้เพื่อนนำมาขาย-กิน และทำหน่อไม้ปี๊บไว้ขายตอนช่วงหมดฤดูหน่อไม้ 1 ปี มีเพียง 1 ครั้ง ที่หน่อไม้ไผ่ไร่แทงหน่อ ทำให้ชาวบ้านพากันขุดหน่อไม้ไร่มาขาย และรับประทาน ซึ่งราคาหน่อไม้ไผ่ไร่ดิบซื้อขายราคา กิโลกรัมละ 10 บาท สูงจึงทำให้บางรายสามารถสร้างรายได้ในการหาหน่อไม้ชนิดนี้ในช่วงนี้ได้มากถึงวันละกว่า 1,000 บาท และยังทำหน่อไม้อัดปี๊บขายปี๊บละ 350 บาท สร้างรายได้ให้กับกลุ่มแม่บ้านและชุมชนด้วย

นางนูน เผ่าต๊ะใจ อายุ 51 ปี ชาวบ้าน ต.บ้านปิน กล่าวว่า พื้นที่ป่าช่วงนี้อย่างฝนตกมีความอุดมสมบูรณ์และหน่อไผ่ไร่ นั้นจะออกเป็นจำนวนมากในช่วงนี้ และได้ออกหาขุดหาหน่อไม้ไผ่ไร่จะตั้งแต่เช้ามืดจนถึงช่วงบ่ายก็จะนำหน่อไม้มาขายส่งให้กลุ่มแม่บ้าน ในเขตพื้นที่ตำบลบ้านปิน ในกิโลกรัมละ 10 บาท แต่ละวัน จะหาหน่อไม้ไร่ได้ประมาณ วันละ 30-50 กิโลกรัม สามารถสร้างรายได้วันละ ไม่ต่ำกว่า 1,000 บาท สำหรับช่วงนี้หน่อไม้ไผ่ไร่ กำลังที่จะเริ่มออกมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากเป็นปลายฝนต้นฤดูหนาว 

ด้าน นางจันเป็ง อินต๊ะสุวรรณ์ สมาชิกในกลุ่มหน่อไม้อัดปี๊บตำบลบ้านปิน กล่าวว่า การทำหน่อไม้ปี๊บของกลุ่มแม่บ้าน บ้านงิ้วหงก หมู่ 2 ตำบลบ้านปิน อำเภอดอกคำใต้ จังหวัดพะเยา 1 ปีจะมีเพียง 1 ครั้งเนื่องจากหน่อไม้ไผ่ไร่ จะออกตามฤดูกาล ช่วงปลายฝนต้นหนาว ชาวบ้านจึงได้รวมกลุ่มรับซื้อ หน่อไผ่ไร่ในราคากิโลกรัมละ 10 บาท เพื่อนำมาทำเป็นหน่อไม้ปี๊บ ขายช่วงนอกฤดูกาล หลังจากรับซื้อหน่อไผ่ไร่มาแล้วก็จะนำมาคัดตัดแต่งขนาดให้มี ความยาวเท่ากัน และนำล้างด้วยน้ำสะอาด 3 น้ำ และใช้น้ำฝนล้างอีก 2 น้ำ จากนั้นทำการบรรจุใส่ปี๊บให้ได้น้ำหนัก 13 กิโลกรัม และนำไปต้มจนได้ที่ จึงปิดฝาปี๊บด้วยแผ่นสังกะสี และเชื่อมด้วยตะกั่ว และเก็บไว้เพื่อรอจำหน่าย หลังหมดฤดูกาลหน่อไม้ไผ่ไร่ และเป็นการถนอมอาหาร ที่ชาวบ้านทำสืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน

...

สำหรับหน่ออัดปี๊บจัดจำหน่ายปี๊บละ 350 บาท สามารถสร้างรายได้ เข้ากลุ่มปีละแสนกว่าบาท หน่อไม้ไผ่ไร่นั้นจะสามารถนำมาประกอบอาหารได้หลากหลายเมนูทั้ง ต้ม แกง ผัด ยำ จึงเป็นที่นิยมของชาวบ้านในการนำมารับประทาน และใน 1 ปีมีเพียง 1 ครั้งที่หน่อไผ่ไร่สดมีกินได้เพียงฤดูกาลเดียวเท่านั้นในช่วงนี้ จึงทำให้ชาวบ้านรวมกลุ่มเพื่อนำหน่อไม้ไผ่ไร่ อัดปี๊บ ไว้กินนอกฤดูกาล และเป็นการถนอมอาหารที่ชาวบ้านสืบทอดกันมา และสร้างรายได้ให้แก่ชุมชนและกลุ่ม.