ชาวบ้านร่มเกล้า อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก มารับจ้างเร่งเก็บพริกพันธุ์อัมพวาโกลด์ และพันธุ์อัมพวาเพอร์เฟกต์ ที่เจ้าของสวนผลไม้ปลูกแซมในสวนทุเรียน 5 ไร่ ส่งขายอินโดนีเซียและจีน โดยปลูกระหว่างรอผลผลิตเติบโต ทำมีรายได้ปีละนับล้านบาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ฐานชัยมณี หมู่ที่ 11 บ้านร่มเกล้า ต.ชมพู อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก หลายพื้นที่คึกคักไปด้วยชาวบ้านที่ออกมารับจ้างเก็บพริก เพื่อส่งขายให้กับโรงงาน และมีล้งมารับซื้อใส่ตู้คอนเทนเนอร์ นำส่งออกไปขายให้กับประเทศอินโดนีเซีย และประเทศจีน โดยชาวบ้านบางรายมีรายได้จากการรับจ้างเก็บพริกวันละ 800-1,000 บาท ขณะที่ชาวสวนบอกปลูกพริกเป็นรายได้เสริมระหว่างรอทุเรียนผลไม้หลักที่กำลังปลูก และเติบโต  แต่ละปีมีรายได้เป็นกอบเป็นกำ เฉลี่ยปีละนับล้านบาทเลยทีเดียว

...

นางศิริพร จันทร์อยู่ อายุ 59 ปี เจ้าของสวนผลไม้คุณศิริพร ชาวบ้านในพื้นที่ หมู่ 11 บ้านร่มเกล้า ต.ชมพู อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก อยู่บริเวณฐานชัยมณีใกล้กับฐานแตกเปิดเผยว่า ตัวเองมีพื้นที่ปลูกผลไม้หลากหลายอย่าง ทั้งทุเรียน เงาะ ลำไย มะปราง มะยงชิด มันสำปะหลัง บนพื้นที่นับ 100 ไร่ โดยเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ได้นำพื้นที่บริเวณใกล้บ้าน ที่เดิมเคยปลูกมันสำปะหลัง กว่า 5 ไร่ แต่ได้พลิกที่ดินหันมาปลูกพริกแทน เนื่องจากเห็นมีตลาดส่งออกได้ดีกว่า โดยพริกที่ปลูกเป็นพันธุ์อัมพวาโกลด์ และพันธุ์อัมพวาเพอร์เฟกต์

เจ้าของสวนผลไม้คุณศิริพร กล่าวว่า สำหรับพริกพันธุ์อัมพวาโกลด์ เป็นพริกที่เม็ดใหญ่ ปลูกง่าย ให้ผลผลิตดกดี  ส่วนอัมพวาเพอร์เฟกต์ เป็นพริกพันธุ์เม็ดเล็กให้ผลดกดี ทนทานต่อโรคสูง ซึ่งการเก็บครั้งหนึ่งได้ผลผลิต 2-3 ตันต่อครั้ง แต่ละรุ่นสามารถเก็บผลผลิตได้มากสุดถึง 10 ครั้ง การปลูกพริกนี้เพื่อรอต้นทุเรียนที่เริ่มปลูกเติบโตจนสามารถออกผลผลิตได้ต้องใช้เวลานานไม่ต่ำกว่า 5 ปี โดยผลผลิตที่สร้างรายได้ดี มีตลาดรับซื้อแน่นอน มีล้งมารอรับซื้อถึงที่หมู่บ้าน ราคาขายส่ง แพงสุดจากหน้าสวน ราคากิโลกรัมละ 50 บาท ขึ้นอยู่กับผลผลิตว่ามีความสวยงาม และช่วงตลาดที่มีความต้องการ

นางศิริพร กล่าวต่อว่า สำหรับสวนพริกที่ปลูกมีพื้นที่ไม่มากประมาณ 5 ไร่ ปลูกเต็มพื้นที่ ช่วงออกใหม่ จะต้องจ้างคนงานมาก 40-50 คน เพื่อเร่งเก็บเกี่ยวผลผลิตให้ทันส่งขาย ช่วงแรกๆ เก็บได้สูงสุด 3 ตัน/ครั้ง ส่วนอัตราการจ้างคนงานเก็บขึ้นอยู่กับปริมาณการเก็บได้ มีตั้งแต่กิโลกรัมละ 8 บาท จนถึง 10 บาท บางคนเก็บเร็วสามารถเก็บพริกได้ถึงวันละ 100 กิโลกรัม หรือมีรายได้วันละ 1,000 บาท นับว่าเป็นรายได้ที่ดีมากสำหรับอาชีพการรับจ้างเก็บพริกในพื้นที่

...

เจ้าของสวนผลไม้คุณศิริพร กล่าวอีกว่า สำหรับการปลูกพริกไม่ยุ่งยาก ใช้เวลาเพาะกล้าประมาณ 30-40 วัน ก่อนนำลงปลูก ใช้เวลาปลูกดูแลต้นประมาณ 2 เดือน ก็ออกดอก และมีเม็ดพริกสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้  สำหรับพริกที่เก็บจะเป็นพริกแก่เม็ดสีเขียว เป็นที่นิยมมากว่า เม็ดสีแดง และราคาพริกหน้าสวนวันนี้อยู่ที่กิโลกรัมละ 35 บาท เป็นราคาที่พออยู่ได้ วันนี้เก็บผลผลิตได้ 1,800 กิโลกรัมเท่านั้น เนื่องจากคนงานน้อย และเก็บเป็นครั้งที่ 7 แล้ว ส่วนการดูแลพริกต้องระวังเรื่องโรคระบาดเท่านั้น ถ้ามีการระบาดของโรคต้องไถทิ้ง บางรายเก็บผลผลิตไปได้เพียง 2 ครั้ง เจอโรคระบาด ทำให้ประสบปัญหาขาดทุน เพราะค่าปุ๋ย ค่ายาแพงมาก แต่หากชาวสวนดูแลดี บำรุงต้น บำรุงดอกดี และควบคุมโรคไม่ให้ระบาดได้ ก็สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ถึง 10 ครั้ง  ซึ่งจะทำให้เจ้าของสวนจะมีรายได้มากถึง 1 ล้านบาท ในช่วงระยะเวลาสั้นๆ ช่วง 3-5 เดือนเท่านั้น 

...

ด้านนางระเบียบ บวบทอง คนงาน กล่าวว่า มีอาชีพรับจ้างเก็บพริก เป็นงานสบาย แม้ต้องทำงานกลางแจ้ง เก็บพริกจากต้นที่สวนพริกให้ผลผลิตดกดี ช่วงนี้พริกมาก ได้ค่าจ้างกิโลกรัมละ 9 บาท วันหนึ่งตนมีรายได้ประมาณ 500 บาท ซึ่งคนวัยรุ่นหนุ่มสาวมีความชำนาญ เก็บรวดเร็วจะมีรายได้มากกว่า บางคนรับค่าจ้างวันละ 900 บาท หรือมากกว่าพันบาทเลยก็มี นับเป็นการสร้างรายได้ดี คนงานในพื้นที่ได้มีงานทำ และมีรายได้ตลอดทั้งปี หลังจากว่างจากการเก็บเกี่ยวผลไม้ ซึ่งก่อนหน้านี้ก็รับจ้างเก็บทุเรียน ช่วงนี้ก็จะมาเก็บพริก สลับกับการเก็บเงาะ ลำไย ทำให้ชาวบ้านมีรายได้ดีขึ้น.