เจ้าหน้าที่ อบจ.พัทลุง พร้อมชาวบ้านและนักท่องเที่ยวกว่าร้อยคน ร่วมลงแขกเกี่ยวข้าวนาเล บนที่นาติดทะเลสาบสงขลาตอนใน แห่งเดียวของประเทศไทยใน ต.ลำปำ อ.เมือง โดยชาวนาเพียงนำต้นข้าวลงไปปักดำในทะเล ไม่ต้องใช้ปุ๋ย หรือสารเคมีใดๆ เลย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 7 ก.ย. 66 ที่ผ่านมา นายพา ผอมขำ เลขานุการ นายก อบจ.พัทลุง ได้นำข้าราชการ พนักงาน อบจ.พัทลุง เกษตรกรชาวนาในพื้นที่ ร่วมกันลงแขกเกี่ยวข้าวนาเลที่ อบจ.ร่วมกับชาวบ้านร่วมกันปักกล้าทำนาในทะเลสาบลำปำเมื่อประมาณ 3 เดือนที่ผ่านมา ที่ริมทะเลสาบลำปำ (ทะเลสาบสงขลา ตอนใน) บริเวณหลังโรงเรียนวัดปากประ ต.ลำปำ อ.เมืองพัทลุง โดยการทำนาข้าวริมทะเลสาบดังกล่าวนี้ มีเพียงแห่งเดียวของประเทศไทย โดยกิจกรรมดังกล่าวนี้มีกลุ่มนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างจังหวัดนำรถยนต์ส่วนตัวเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าวมากกว่า 100 คน
...
นายเคลื่อน สุวรรณรัตน์ อายุ 87 ปี อดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 8 ต.ลำปำ อ.เมืองพัทลุง กล่าวว่า ในพื้นที่ดังกล่าวมีการทำนาริมทะเลสาบมานานกว่า 70 ปี เพื่อนำข้าวมาบริโภคในครอบครัว โดยเริ่มหว่านข้าวในเดือนพฤษภาคมซึ่งเป็นช่วงน้ำในทะเลลดต่ำลงไปประมาณ 50-100 เมตร หลังจากนั้นในช่วงลมตกก็จะเริ่มนำกล้าไปปักในทะเล ทิ้งไว้ประมาณ 3 เดือน โดยที่ไม่ต้องดูแลอะไร ไม่ต้องจ้างไถดิน ไม่ต้องให้ปุ๋ย ข้าวที่ปักไว้จะงอกงาม และออกรวงให้เก็บเกี่ยวในช่วงเดือนกันยายนของทุกๆ ปี โดยในขณะนี้มีชาวนาที่ปลูกข้าวริมทะเลสาบลำปำ 35 ราย มีพื้นที่ปลูกรวมจำนวน 65 ไร่ โดยใช้พันธุ์ข้าว กข.55 ที่ อบจ.สนับสนุนเมล็ดพันธุ์มาให้ ใช้ปลูกในนาทะเล โดยมีผลผลิตในขั้นที่น่าพอใจยิ่ง
ด้านนายพา กล่าวว่า การทำนาในพื้นที่ดังกล่าวนั้น ถือเป็นภูมิปัญญาที่ล้ำเลิศของชาวบ้าน และเป็นหนึ่งเดียวของประเทศไทย ที่ชาวบ้านสามารถนำต้นข้าวลงไปปักดำในทะเลที่ไม่ต้องลงทุนให้ปุ๋ย ไม่ต้องใช้สารเคมีฆ่าแมลง โดยธรรมชาติจะช่วยสร้างความสมดุล เมื่อเกิดการระบาดของโรค ซึ่งเมื่อน้ำในทะเลลงท่วมต้นข้าวจะมีแมลงและปลาชนิดต่างๆ ในน้ำได้กำจัดศัตรูข้าว ในขณะเดียวกันพื้นที่ดังกล่าวยังเป็นที่อยู่อาศัยและขยายพันธุ์ของพันธุ์สัตว์น้ำอีกด้วย
...
เลขานุการ นายก อบจ.พัทลุง กล่าวด้วยว่า หลังจากที่ทาง อบจ.พัทลุงเข้ามาสนับสนุนส่งเสริมการทำนาดังกล่าว และนำสู่การสนับสนุนการท่องเที่ยว ทำให้มีกลุ่มนักท่องเที่ยวติดต่อเข้ามาเยี่ยมชมแปลงนาข้าวดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงเดือนกันยายน ซึ่งเป็นช่วงเก็บเกี่ยวข้าวนั้นได้มีกลุ่มนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศได้ติดต่อเข้ามาเยี่ยมชมกันเป็นจำนวนมากแล้ว.