นราธิวาส จัด 2 กิจกรรม งานบุฟเฟต์ทุเรียนบางนรา พันธุ์หมอนทองสายแร่ทองคำ กินไม่อั้น หัวละ 350 บาท ควบคู่กิจกรรมแข่งขันรถออฟโรดไทย-มาเลเซีย เพื่อโปรโมต ทำให้ได้การตอบรับที่ดีจากนักท่องเที่ยว มาลองชิมกันจำนวนมาก แถมซื้อกลับถูกกว่าตลาด กก.ละ 50 บาท

เมื่อวานนี้ (3 ก.ย. 66) ที่บริเวณตลาดกลางเกษตรเพื่อการส่งออก ต.ละหาร อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส นายนัจมุดดีน อูมา อดีต สส.นราธิวาส คณะทำงานพรรคภูมิใจไทย จ.นราธิวาส และ นายซาการียา สะอิ สส. เขต 4 จ.นราธิวาส พรรคภูมิใจไทย เป็นตัวแทน นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รอง หน.พรรคภูมิใจไทย และทีมงาน ได้ร่วมกับ นายณรงค์ สังข์ประสิทธิ์ ท่องเที่ยวและกีฬา จ.นราธิวาส และสโมสรโรตารีนราธิวาส รวมไปถึงห้างหุ้นส่วนจำกัดรุสกีค้าผลไม้ ที่ได้ร่วมกันจัดกิจกรรมที่ 1 เป็นงานบุฟเฟต์ทุเรียนบางนรา พันธุ์หมอนทองสายแร่ทองคำ กินแบบไม่อั้น ในราคาหัวละ 350 บาท ไม่อิ่มไม่ต้องกลับ

...

ทุเรียนบางนรา พันธุ์หมอนทองสายแร่ทองคำนี้ มีพื้นที่ปลูกบนเทือกเขาในพื้นที่ อ.สุคิริน ที่มีแม่น้ำสายบุรี ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของแร่ทองคำไหลผ่าน ทำให้ทุเรียนมีรสชาติหอม กลมกล่อม หวานอร่อย เนื้อนุ่มกว่าสายพันธุ์อื่น ซึ่งมีผู้บริโภคในพื้นที่อำเภอและจังหวัดใกล้เคียง รวมไปถึงชาวมาเลเซียที่เดินทางมากับสมาชิกในครอบครัวเป็นจำนวนมาก ได้ทยอยชิมช็อปบุฟเฟต์ทุเรียนอย่างไม่ขาดสายตลอดทั้งวัน ซึ่งถือว่าเป็นผลพลอยได้ในการประชาสัมพันธ์ให้ทุเรียนหมอนทองสายแร่ทองคำ

นอกจากจะส่งไปจำหน่ายในประเทศจีนแล้ว ในโอกาสอันใกล้นี้อาจจะมีตลาดประเทศมาเลเซีย เป็นที่รองรับทุเรียนหมอนทองสายพันธุ์แร่ทองคำในอนาคตอันใกล้นี้ เนื่องจากชาวมาเลเซียที่เดินทางมาร่วมกิจกรรมแข่งขันออฟโรด มีความพึงพอใจในรสชาติ และได้พากันซื้อกลับไปเป็นของฝาก ที่มีราคาถูกกว่าท้องตลาด ตกกิโลกรัมละเกือบ 50 บาท

ด้าน นายณรงค์ สังข์ประสิทธิ์ ท่องเที่ยวและกีฬา จ.นราธิวาส กล่าวว่า การจัดกิจกรรมแข่งขันรถออฟโรดไทย-มาเลเซีย ซึ่งมีรถจากหลายๆจังหวัด โดยเฉพาะพื้นที่ภาคใต้และประเทศมาเลเซีย นอกจากนี้ยังมีบุฟเฟต์ผลไม้ทุเรียน เป็นผลไม้ที่มีชื่อเสียงของ จ.นราธิวาส อยากจะเชิญชวนพี่น้องในจังหวัดและต่างจังหวัดมาชม และเชียร์กินผลไม้ทุเรียนสายแร่ทองคำ ที่มีในพื้นที่ อ.สุคิริน และมีแม่น้ำสายบุรีไหลผ่าน ทำให้พื้นดินในบริเวณ จ.นราธิวาส เป็นพื้นดินที่มีความอุดมสมบูรณ์ ทำให้เนื้อทุเรียนมีความนิ่ม สด และอร่อย

...

ส่วนกิจกรรมที่ 2 การแข่งขันออฟโรด 2 แผ่นดินไทย-มาเลเซีย ซึ่งถือว่าเป็นกิจกรรมคู่ขนาน มีการแข่งขันตั้งแต่ช่วงเช้ายันดึกแบบมาราธอนนานกว่า 12 ชั่วโมง ที่มีนักแข่งจากจังหวัดต่างๆ ของประเทศไทย และจากประเทศมาเลเซียใน 5 รุ่น คือ รุ่นฮาร์ดคอร์บิ๊กบอดี้, รุ่นฮาร์ดคอร์มินิบอดี้, รุ่นไลท์คอร์ห้ามวิ้น, รุ่นปีกนกห้ามวิ้น และการประกวดรถแต่ง ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวนี้ได้รับความสนใจจากประชาชนเป็นจำนวนมาก แม้จะมีฝนตกลงมาก็ตาม แต่ยังได้รับความชื่นชอบ ยืนเชียร์กันจนจบการแข่งขันในรายการนี้

...

นายนัจมุดดีน อูมา อดีต สส.นราธิวาส คณะทำงานพรรคภูมิใจไทย และทีมงาน ได้ร่วมกับ นายณรงค์ สังข์ประสิทธิ์ ท่องเที่ยวและกีฬา จ.นราธิวาส ได้เป็นตัวแทนมอบถ้วยรางวัลชนะเลิศจาก นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และรองชนะเลิศทั้ง 5 ประเภท เป็นการปิดท้ายกิจกรรม ซึ่งทางผู้ร่วมกันจัดงานในครั้งนี้ คาดหวัง 2 กิจกรรมที่จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 1 ถึง 3 กันยายน 2566 สามารถเป็นการดึงดูดนักท่องเที่ยว ให้เดินทางมาท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้มีจำนวนมากขึ้น อย่างน้อยเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ถดถอยให้กระเตื้องขึ้นตามลำดับ.