เกษตรกรชาวสวนยางพารา ที่ ต.นาเชือก อ.นาเชือก จ.มหาสารคาม ผันตัวเลิกปลูกยางพารา หลังเจอราคาตกต่ำ แบ่งที่ 13 ไร่ หันมาปลูกฝรั่งไส้แดง อาทิ ฝรั่งหงเป่าสือ กิมจูไส้แดง เฟิ่นหงมี่ หงจ้วนสือ แดงอโยธา และสายน้ำผึ้ง เก็บขายทำรายได้ 3 หมื่นต่อเดือน

นายปิยะวัฒน์ โพธิ์ศรี อายุ 43 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ ตำบลนาเชือก อำเภอนาเชือก จังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า เดิมตนเองทำงานเป็นลูกจ้าง อบต. แต่มีที่ดิน 18 ไร่ เป็นที่ว่างเปล่า เลยปลูกยางพาราไว้ช่วงปี 2549 เพราะราคาน้ำยางสมัยนั้น กก. 50 บาท แต่หลังจากนั้นราคาตกลงมาเรื่อยๆ จนขาดทุนมาโดยตลอด เนื่องจากปริมาณน้ำฝนตกมาน้อย น้ำยางไม่มีคุณภาพ ราคาน้ำยางตกต่ำเหลือ 18 กก. ทำไปก็ได้แค่ค่าคนกรีดยาง จึงได้หาทางออกโดยจ้างให้เขามาตัดต้นยางพาราทิ้ง แล้วนำพื้นที่จำนวน 5 ไร่ มาปลูกฝรั่งหงเป่าสือ กิมจูไส้แดง เฟิ่นหงมี่ หงจ้วนสือ แดงอโยธา และสายน้ำผึ้ง

...

เจ้าของสวนฝรั่งที่ ต.นาเชือก กล่าวต่อว่า หลังจากตนเองก็ลาออกจาก อบต. มาดูแลสวนเอง ทำมาได้ 2 ปี ได้ผลผลิตเป็นที่น่าพอใจ สำหรับวิธีการปลูกฝรั่งที่สวน จะซื้อต้นพันธุ์ฝรั่งฃต่างๆ มาจากสวนที่เชื่อถือได้ ในราคาต้นละ 200 บาท และมีการขยายพันธุ์เองด้วย ใส่ปุ๋ยแกลบขี้ไก่ มูลวัว ในสวนใช้ระบบน้ำหยดแบบสมาร์ทฟาร์ม ที่สวนจะเน้นปลูกฝรั่งไส้แดง อร่อยหวานอมเปรี้ยว เพราะราคาจำหน่ายได้ราคาดีกิโลกรัมละ 60 บาท จึงขยายพื้นที่ปลูกเพิ่มเป็น 13 ไร่

นายปิยะวัฒน์ กล่าวอีกว่า ตอนนี้สวนตนเองปลูกต้นฝรั่งได้ 2 พันกว่าต้น ในปีนึงจะเก็บฝรั่งได้ 4 ครั้ง สามารถเก็บฝรั่งได้ครั้งละมากกว่า 6,000 กก. มีรายได้ต่อปีกว่า 4 แสนบาท สำหรับสวนฝรั่งที่ปลูกจะคัดขนาดจะเด็ดให้เหลือกิ่งละไม่เกิน 2 ลูก เพราะจะทำให้ลูกมีขนาดโตประมาณ 3 ลูกต่อ กก. จะเป็นที่ต้องการของตลาดเป็นส่วนใหญ่ พ่อค้าจะมารับซื้อถึงสวน ไม่ได้ขายส่งที่อื่นเลย เพราะผลฝรั่งของสวนเรามีคุณภาพรสชาติอร่อยคุณภาพดี จึงมีคนมาซื้อถึงสวน เพราะถ้าเอาไปขึ้นห้างราคาจะอยู่ที่ 100-120 บาทต่อ กก. 

เจ้าของสวนฝรั่งที่ ต.นาเชือก กล่าวด้วยว่า ตนเองคิดถูกที่ยอมโค่นสวนยางพาราทิ้ง เพราะการปลูกฝรั่งใส้แดงทำให้มีรายรับเดือนละ 2-3 หมื่นบาท มีรายรับทุกเดือน ทำให้ความเป็นอยู่ดีขึ้น มีเงินเข้าทุกวัน ค่าใช้จ่ายในการดูแลฝรั่ง และคนงาน ก็ใช้น้อยกว่าการปลูกยางพารา ใครสนใจติดต่อซื้อฝรั่ง โทร.สอบถามได้ได้ที่เบอร์ 08-8301-7698.