ชาวนาโคราชยัน รถเกี่ยวข้าวในพื้นที่โคราช ยังคิดราคาเดิมไร่ละ 600 บาท ถือว่าไม่แพงมาก พร้อมฝากขอบคุณรัฐบาลที่ออกนโยบายให้เงินช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1,000 บาท ทำให้แบ่งเบาภาระที่แบกทั้งค่ายา ค่าปุ๋ย และรถเกี่ยวข้าวได้มาก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่รัฐบาล โดยที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) มีมติเห็นชอบโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกร ผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2566/67 ในอัตราไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 20 ไร่ต่อครัวเรือน วงเงิน 56,321 ล้านบาท ซึ่งจะโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารของเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตรไว้ 4.68 ครัวเรือน คาดว่าจะได้รับเงินเร็วที่สุด ในวันที่ 20 พ.ย.66 นี้ ส่งผลให้มีกระแสข่าวว่าบรรดารถเกี่ยวข้าวในบางพื้นที่ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เริ่มมีการโก่งราคาค่าเก็บเกี่ยวกันแล้วนั้น
ล่าสุด เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2566 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปสำรวจชาวนาในพื้นที่ ต.พลกรัง อ.เมือง จ.นครราชสีมา พบว่าชาวนาหลายคนต่างพากันจ้างรถเกี่ยวข้าวมาเกี่ยวข้าวในนาของตนเองอย่างคึกคัก ทำให้บรรดาผู้ประกอบการรถเกี่ยวข้าวมีคิวเกี่ยวข้าวแน่นตลอดทั้งเดือน
...
นางระบาย ถนอมพลกรัง อายุ 61 ปี ชาวนาในพื้นที่ ต.พลกรัง อ.เมือง จ.นครราชสีมา กล่าวว่า ตนเองนั้นได้เช่าที่นา 2 แปลง รวมทั้งหมด 40 ไร่ ค่าเช่าไร่ละ 1,000 บาทต่อปี เพื่อปลูกข้าวชัยนาท ซึ่งปีนี้ข้าวงามกว่าทุกปี โดยตอนนี้ได้จ้างรถเกี่ยวข้าวไปแล้ว 1 แปลง เนื้อที่ 20 ไร่ ได้ข้าวประมาณ 16 ตัน และวันนี้จ้างรถมาเกี่ยวแปลงที่ 2 ซึ่งข้าวงามกว่าแปลงแรก น่าจะได้ข้าวประมาณ 20 ตัน ทั้งนี้ ค่ารถเกี่ยวข้าวปีนี้ก็ยังคิดไร่ละ 600 บาท เหมือนเดิม ซึ่งถือว่าไม่แพงมาก
ส่วนข่าวที่ว่ารถเกี่ยวข้างโก่งราคา ตอนนี้ยังไม่พบ เพราะรถเกี่ยวข้าวที่ติดต่อนี้ก็เป็นขาประจำที่เกี่ยวข้าวให้ตนทุกปี ส่วนเงินที่ได้จากการที่รัฐบาลช่วยเหลือ ไร่ละ 1,000 บาท รวม 20 ไร่ จำนวน 20,000 บาท ตนเองก็จะนำไปเป็นค่าใช้จ่ายต้นทุนการผลิต เช่น ค่าปุ๋ย ค่ายา และค่ารถเกี่ยวข้าว ซึ่งช่วยได้พอสมควร ขณะเดียวกันข้าวที่เกี่ยวมาได้ก็คงจะนำไปขายที่โรงสีทั้งหมด เพราะไม่มีที่ตาก และจำเป็นต้องรีบขาย แม้การขายข้าวสดจะได้ราคาไม่สูง ตอนนี้อยู่ที่กิโลกรัมละ 10 บาทก็ตาม แต่ก็จำเป็นต้องขาย เพื่อนำเงินที่ได้ไปใช้หนี้ ธ.ก.ส.และหนี้ที่กู้ยืมมาจากที่อื่นด้วย.