เกษตรกรสตูล ปลูกขมิ้นด้วงและขมิ้นไร้ราก แซมร่องสวนยางพาราที่ปลูกใหม่ เพื่อเป็นรายได้ระหว่างพักกรีดหน้ายางฯ ทำต่อเนื่องมานับสิบปี จากขมิ้น กก.ละ 10 บาท เป็น 40 บาท ปีสร้างรายได้กว่า 100,000 บาทต่อไร่ ตอนนี้รับซื้อผลผลิตคนในหมู่บ้านไปขายด้วย


เมื่อวันที่ 20 พ.ย. 66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พื้นที่หมู่ที่ 5 ต.ปาล์มพัฒนา อ.มะนัง จ.สตูล เกษตรกรกว่า 30 รายหันมาปลูกขมิ้นแซมในร่องสวนยางเล็กที่เพิ่งปลูกใหม่ เพื่อสร้างรายในช่วงระหว่างรอต้นยางมีอายุครบ 7 ปีถึงจะสามารถเปิดกรีดได้ โดยขมิ้นที่นิยมนำมาปลูกมี 2 สายพันธุ์ คือ ขมิ้นด้วงและขมิ้นไร้ราก สามารถสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ ยิ่งในปีนี้ราคาขมิ้นมีราคาดีมาก จึงไปพบกับ นายสาคร จุลสุวรรณ ชาวบ้านหมู่ที่ 5 ต.ปาล์มพัฒนา อ.มะนัง จ.สตูล เป็นเกษตรกรในพื้นที่ที่เลือกปลูกขมิ้นและปลูกมากว่า 10 ปีแล้ว ตั้งแต่ขมิ้นราคากิโลกรัมละ 10 บาท จนถึงวันนี้ราคาขมิ้นอยู่ที่กิโลกรัมละ 40 บาท

...

นายสาคร กล่าวว่า จุดเริ่มต้นที่หันมาปลูกขมิ้นก็แค่อยากหารายได้เสริมในช่วงพักกรีดหน้ายางเพราะช่วงนั้นจะว่างไม่มีงานทำ จึงเริ่มนำขมิ้นไร้รากมาปลูกในร่องยางขนาดเล็กที่เพิ่งปลูกจำนวน 1 ไร่ผ่านไป 3 เดือนเศษก็เก็บหัวขมิ้นส่งขายได้เงินหลายหมื่นบาท ทั้งๆ ที่ลงทุนไปแค่หลักหมื่นต้นๆ เท่านั้น ต่อมาเมื่อเห็นว่าได้กำไรดี จึงศึกษาวิธีปลูกอย่างจริงจัง และปลูกเพิ่มมาจนทุกวันนี้โดยนำขมิ้นด้วงมาปลูกด้วย เนื่องจากขมิ้นด้วงจะมีราคาสูงกว่าขมิ้นไร้ราก แต่ระยะเวลาการเก็บเกี่ยวจะนานกว่าประมาณ 2 เดือน

"ขมิ้นไร้ราก 3-4 เดือน เก็บเกี่ยวได้แต่ขมิ้นด้วงปลูกนานกว่า 5-6 เดือน แต่ราคาต่างกันมาก โดยราคาปัจจุบันขมิ้นไร้รากจะขายที่ราคา กก.ละ 20 บาทแต่ขมิ้นด้วงจะขายราคา กก. 45 บาท ข้อดีของขมิ้นทั้ง 2 ชนิดจะแตกต่างกันคนละอย่าง ขมิ้นไร้รากจะให้ผลผลิตเยอะกว่าขมิ้นด้วงแต่ราคาจะถูกกว่า ส่วนขมิ้นด้วงให้ผลผลิตน้อยกว่าแต่ราคาสูงกว่าเท่าตัว" เจ้าของสวน กล่าว

...

นายสาคร กล่าวอีกว่า ทุกวันนี้ตนปลูกขมิ้นในที่ดิน 10 ไร่ โดยเช่าที่ของเพื่อนบ้านที่เพิ่งโค่นยางหรือปาล์มน้ำมันใหม่ๆ ในราคาไร่ละ 1,000 บาทต่อปีและสามารถปลูกขมิ้นได้ 3-4 ปีจนกว่าต้นยางพารา หรือปาล์มจะโต โดยต้นทุนที่ใช้ปลูกขมิ้นจะมีค่าซื้อต้นพันธุ์ ค่าปุ๋ยคอก และค่าปุ๋ยเคมีโดยเฉลี่ยต้นทุนจะอยู่ที่ 13,000 บาทต่อไร่เท่านั้น ทุกวันนี้ตนสามารถสร้างรายได้จากการปลูกขมิ้นถึง 100,000 บาทต่อไร่เนื่องจากราคาที่สูง ในขณะเดียวกันตนเองก็ช่วยรับซื้อผลผลิตของชาวบ้านในพื้นที่กว่า 30 คน ที่ปลูกขมิ้นเพื่อไปส่งให้แม่ค้าทำให้สามารถต่อรองราคาได้อีกด้วย

...

ด้าน นายภิภพ สิทธิยาสกุล เกษตรอำเภอมะนัง กล่าวว่า ในพื้นที่ ต.ปาล์มพัฒนา มีเกษตรกรปลูกขมิ้น 30 กว่าราย มีพื้นที่ปลูกรวมกันประมาณ 400 ไร่ ถือว่าเป็นพืชทางเลือกที่สามารถสร้างรายได้ให้เกษตรกรเป็นอย่างดี สำหรับขมิ้นถือว่าเป็นพืชที่ดูแลไม่ยาก ปลูกง่าย อยู่ที่ความชื้นตามฤดูกาล ฝนตกไม่มากจนเกินไปก็จะไม่มีโรค แต่ถ้าฝนตกชุกเกินไปก็จะมีโรคที่เกี่ยวกับเชื้อราที่เกิดจากความชื้นบ้าง โดยทางเกษตร อ.มะนัง ก็จะเข้ามาดูแลและให้ความรู้ในเรื่องของการใช้สารชีวภัณฑ์ เพื่อป้องกันและกำจัดเชื้อราโดยไม่ต้องใช้สารเคมีแต่อย่างใด เพื่อทำให้ผลผลิตของเกษตรกรมีคุณภาพ.