ผู้เลี้ยงหมูรายย่อยเผยหมูใต้หน้าฟาร์มราคาต่ำสุด 50-56 บาท/กก. โดยต้นทุน กก.ละ 80-85 บาท/กก. ขาดทุนต่อตัว 30-35 บาท/กก. วอนรัฐบาลหนุนตัดตอนลดแม่พันธุ์และลูกหมู ไม่เช่นนั้นรายย่อยแย่แน่ เพราะแบกต้นทุนอาหารไม่ไหว

นายภักดี ชูขาว เจ้าของฟาร์มเลี้ยงสุกรรายย่อยของจังหวัดพัทลุง เผยว่า สมัชชาผู้เลี้ยงสุกรรายย่อยภาคใต้ จะมีวาระการประชุมการแก้ไขปัญหาสุกรราคาตกต่ำ เพื่อนำเสนอต่อ ร.อ.ธรรมนัส พรหมาเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ อาทิ  เรื่องการเจรจาในการเลี้ยงสุกรของเกษตรสุกรรายย่อยภาคใต้กับผู้ประกอบการเลี้ยงสุกรรายใหญ่ทั้งบริษัทขนาดใหญ่ และบริษัทมหาชน เพื่อจัดสรรพื้นที่การเลี้ยงสุกร เรื่องการเลี้ยงสุกรโดยตัดตอนลดแม่พันธุ์สุกร ลดลูกสุกรขุน โดยให้รัฐบาลสนับสนุนในการลดสุกรขุน โดยนำมาชำแหละแปรรูปเป็น เช่น หมูย่าง ฯลฯ ซึ่งตนมั่นใจว่าถ้าไม่มีการตัดตอนวงจรการเลี้ยงสุกร ในปี 2567 เกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรรายย่อยก็จะไม่มีโอกาสดีขึ้น และต้องล้มเลิกไปในที่สุด” นายภักดี กล่าว  

นายภักดี กล่าวอีกว่า ขณะนี้ การเลี้ยงสุกรเกษตรกรรายย่อยต่างประสบภาวะขาดทุนที่หนักมาก ในส่วนของการซื้อขายสุกรนั้น ขณะนี้ราคาประกาศของสมาคมการค้าผู้เลี้ยงสุกรภาคใต้ ราคา 66 บาท/กก. ส่วนราคาซื้อขายของเกษตรกรรายย่อยหน้าฟาร์มโบรกเกอร์จะมาซื้อขายราคาประมาณ 50 -56 บาท/กก. แต่ต้นทุนการเลี้ยงประมาณ 80-85 บาท/กก. ทำให้ต้องขาดทุนตัวละ 30-35 บาท/กก. เกษตรกรจำยอมต้องขาย เพราะลากการเลี้ยงเอาไว้จะแบกรับกับราคาค่าอาหารไว้ไม่ได้จะขาดทุนเพิ่มอีก.