ชาวบ้านจากหมู่บ้านต่างๆ ใน อ.ครบุรี โคราช เกือบร้อยชีวิต มาไสกุ้งฝอยที่หาดทรายทอง ริมเขื่อนลำแชะช่วงน้ำขึ้น สร้างรายได้เสริมหลายพันบาทต่อวัน โดยอุปกรณ์ที่จับเป็นการประดิษฐ์คิดเอง
เมื่อวันที่ 24 ก.ย. 66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณหาดทรายทอง ภายในเขื่อนลำแชะ บริเวณบ้านมะค่า ต.โคกกระชาย อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ชาวบ้านจากตำบลต่างๆ ของอำเภอครบุรี รวมถึงอำเภอใกล้เคียง ต่างพาสมาชิกครอบครัว และเพื่อนบ้าน นำอุปกรณ์การจับกุ้งฝอย มาไล่จับกุ้งฝอยที่อยู่ภายในเขื่อนกันเป็นจำนวนเกือบ 100 คน เพื่อนำกลับไปประกอบอาหารเลี้ยงครอบครัว และจำหน่ายเป็นรายได้เสริม
สำหรับอุปกรณ์ที่ใช้ก็เป็นภูมิปัญญาที่คิดค้นกันขึ้นมาเอง โดยใช้ผ้าตาข่ายถี่ กว้างประมาณ 2 เมตร ยาว 2 เมตรครึ่ง มาผูกติดกับลำไม้ไผ่ขนาดความยาว 3 เมตร ที่ไขว้กันเป็นรูปตัว X ด้านล่างตาข่ายติดโซ่ขนาดเล็กถ่วงน้ำหนัก ส่วนปลายลำไม้ไผ่ด้านล่างใช้ล้อมาติด หรือใช้เป็นพลาสติกที่มีลักษณ์คล้ายรองเท้าติดไว้ เพื่อใช้สำหรับดันลากไปในน้ำอย่างสะดวก จากนั้นก็จะใช้คนเพียง 1 คน เดินไสอุปกรณ์ตัวนี้ไปในน้ำ เพื่อให้กุ้งฝอยที่หากินอยู่ภายในน้ำเข้ามาติดตาข่ายที่รองรับเองไว้
...
การจับกุ้งฝอยแต่ละรอบก็จะใช้เวลาแตกต่างกันไป แล้วแต่ความชำนาญ และพละกำลังของคนที่เดินดันอุปกรณ์ บางคนที่ชำนาญมากๆก็จะเดินได้นานนับชั่วโมง ขึ้นฝั่งครั้งหนึ่งก็จะได้กุ้งฝอยมา 1-2 กิโลกรัม นิยมหาไสกุ้งกันในช่วงกลางคืน เพราะเป็นช่วงที่กุ้งออกมาหาอาหารมากที่สุด แต่ละวันก็จะได้กุ้งคนละ 5-6 กิโลกรัม บางคนชำนาญมากก็จะได้กุ้งมากกว่า 10 กิโลกรัมต่อวันเลยทีเดียว หากใครได้มากก็จะนำไปจำหน่ายในชุมชน ราคากิโลกรัมละ 120-130 บาท สร้างรายได้เสริมให้กับครอบครัวเป็นอย่างดี
นายเอี่ยม เสยกระโทก อายุ 60 ปี ชาวบ้านนาราก ต.อรพิมพ์ อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา เป็นอีกหนึ่งคนที่มาหากุ้งฝอยภายในเขื่อนลำแชะ บอกว่า ในช่วงนี้เป็นช่วงที่น้ำภายในเขื่อนลำแชะเริ่มปรับตัวสูงขึ้น ทำให้น้ำไปท่วมกอหญ้าริมหาดที่เกิดขึ้นในช่วงน้ำลด จึงกลายเป็นแหล่งอาหารอันอุดมสมบูรณ์ และที่หลบภัยของกุ้งฝอยและปลาขนาดเล็ก ทำให้มีความชุกชุมของสัตว์น้ำขนาดเล็กมากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะกุ้งฝอย ชาวบ้านจึงพากันหลั่งไหลมาหาจับสัตว์น้ำขนาดเล็กเหล่านี้ไปทำอาหาร และจำหน่ายกันเป็นจำนวนมาก ถือเป็นวิถีชีวิตพื้นบ้านของคนแถบนี้ และยังเป็นโอกาสที่ดีที่จะได้ทำความรู้จักกับชุมชนใกล้เคียงอื่นๆ เพื่อเพิ่มความสัมพันธ์อันดีระหว่างคนในแต่ละชุมชนอีกด้วย
...
ชาวบ้านนาราก ต.อรพิมพ์ อ.ครบุรี กล่าวด้วยว่า แต่ละวันชาวบ้านก็จะหากุ้งฝอยได้หลายกิโลกรัม อย่างตนเองที่เคยไสกุ้งได้มากที่สุดเกือบ 40 กิโลกรัมต่อคืนเลยทีเดียว ส่วนใหญ่หามาได้ก็จะนำไปประกอบอาหาร ที่นิยมก็จะเป็นพล่ากุ้ง หรือทำกุ้งเต้น ถ้าได้เยอะก็จะหมักเป็นกุ้งจ่อมเก็บไว้ แต่หากนำไปขาย ราคาก็จะอยู่ที่กิโลกรัมละประมาณ 120-130 บาท หรือประมาณ 1,200 บาทต่อกิโลกรัม ถือเป็นรายได้เสริมงอย่างดีทีเดียว.