เกษตรกรที่บ้านปรางค์ โคราช เลี้ยงสาหร่ายน้ำจืด "ไข่ผำ" ในสวนเกษตรผสมผสานพื้นที่ 4 ไร่ เอาลงบ่อน้ำใช้เวลา 14 วัน ตักขายในตลาดกิโลกรัมละ 35-40 บาท สร้างรายได้สูงถึง 2 หมื่นบาทต่อเดือน ชี้ โปรตีนสูง ใช้ทำอาหารได้ทั้งแกง หรือผัด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางบุษบา ม้วนสูงเนิน อายุ 48 ปี เกษตรกรบ้านปรางค์ หมู่ที่ 11 ตำบลหินดาด อำเภอห้วยแถลง จังหวัดนครราชสีมา ได้หันมาทดลองเพาะเลี้ยงไข่ผำเป็นอาชีพเสริม ที่เกิดจากการต่อยอดมาจากการทำเกษตรผสมผสานบนพื้นที่ 4 ไร่ เน้นทำแบบอินทรีย์ จึงทำให้เกิดไข่ผำ หรือที่เรียกว่าสาหร่ายน้ำจืด ไข่ผำจะพบได้ในพื้นที่ภาคเหนือและภาคอีสานเป็นส่วนมาก ในแถบภาคกลางยังมีไม่มาก และแทบยังไม่มีคนรู้จัก

...

นางบุษบา กล่าวว่า ตอนเริ่มทำสวนเกษตรผสมผสานในตอนแรก ก็ยังไม่รู้จักเหมือนกันว่าไข่ผำคืออะไร หรือมีประโยชน์อย่างไร เพราะไข่ผำ เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ตนเองปิ๊งไอเดียขึ้นมาว่า จะนำเอาไข่ผำมาทดลองปรุงทำเป็นอาหาร ปรากฏว่าไข่ผำมีรสชาติอร่อยมาก คล้ายๆ กินไข่ปลา มีคุณค่าสารอาหารที่ให้โปรตีนสูง และมีสารต้านอนุมูลอิสระ ตนเองจึงนำไข่ผำไปขายที่ตลาด ในราคากิโลกรัมละ 35-40 บาท ปรากฏว่าขายดีมาก เฉลี่ยเดือนละกว่า 15,000-20,000 บาท

เกษตรกรบ้านปรางค์ กล่าวต่อว่า การเลี้ยงไข่ผำไม่ต้องลงทุนอะไรเลย เพราะว่าการเพาะเลี้ยงไข่ผำใช้เวลาในการเพาะเลี้ยงเพียง 2 สัปดาห์ ปล่อยเลี้ยงไว้ในสระตามธรรมชาติ ก็สามารถเก็บผลผลิตขายได้ สามารถนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์สร้างมูลค่าเพิ่มได้หลากหลาย สำหรับไข่ผำเป็นพืชน้ำ ลักษณะเป็นสีเขียว ขนาดเล็กคล้ายไข่ปลา กระจายคลุมเหนือผิวน้ำเป็นแพ มีขึ้นอยู่ตามแหล่งน้ำที่เป็นน้ำนิ่ง เช่น บึง และหนองน้ำธรรมชาติทั่วไป โดยปกติจะมีมากในแหล่งน้ำธรรมชาติที่ไม่มีน้ำไหลเวียน

...

นางบุษบา กล่าวด้วยว่า เวลาเก็บไข่น้ำต้องใช้สวิงช้อนขึ้นมา แล้วล้างให้สะอาดก่อนจะนำไปปรุงทำอาหาร ไข่ผำเป็นพืชผักพื้นบ้านที่ชาวบ้านนิยมนำไปประกอบอาหารกันมานานตั้งแต่สมัยโบราณ เช่น แกง หรือผัด บางทีก็ใส่เป็นส่วนประกอบของไข่ผำ เป็นพืชน้ำที่มีขนาดเล็กมาก คล้ายตะไคร่น้ำ รูปร่างเป็นเม็ดกลมเล็กๆ ขณะนี้กำลังเป็นที่ต้องการของตลาด ทำให้ตนเองมีรายได้จากการเพาะเลี้ยงไข่ผำขายเป็นกอบเป็นกำเลยทีเดียว.