ผลไม้ไทยฟีเวอร์ "ธรรมนัส" ยกขบวนสินค้าเกษตรลุยแดนมังกร ภายในงาน CATF พร้อมสร้างโอกาสเกษตรกรไทยทำเงิน ต่อยอดสินค้าพรีเมี่ยม


วันที่ 18 ต.ค. 2568 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ชูนโยบาย "สร้างรายได้ สร้างตลาด สร้างโอกาส" ส่งเสริมเกษตรกรไทยมีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างยั่งยืน มุ่งยกระดับสินค้าเกษตร เดินหน้าผลักดันการส่งออกผลไม้ไทยไปตลาดจีน ขนผลไม้มูลค่าสูง สินค้าเกษตรแปรรูป ภายใต้โครงการ Thailand Agri Intertrade 2025 พร้อมนำนวัตกรรม Smart Farming เข้าร่วมโชว์ศักยภาพในงาน China International Agricultural Trade Fair (CATF) ณ เมืองเทียนจิน สาธารณรัฐประชาชนจีน กระแสตอบรับดีเกิดคาด ทุเรียนไทยยังได้รับความนิยมสูง ผลไม้อบแห้ง ผลไม้แช่อิ่ม ครองใจผู้บริโภคเป็นที่หนึ่งในแดนมังกร

ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายปณิธาน มีไชยโย ผู้อำนวยการองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) พร้อมด้วยคณะผู้บริหารเข้าร่วมงาน China International Agricultural Trade Fair (CATF) ณ เมืองเทียนจิน สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 17–19 ตุลาคม 2568 ภายในงานได้ให้การต้อนรับ นายหาน จุ้น (Han Jun) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและกิจการชนบท สาธารณรัฐประชาชนจีน และนายจาง กง (Zhang Gong) นายกเทศมนตรีนครเทียนจิน สาธารณรัฐประชาชนจีน ที่ให้เกียรติเยี่ยมชมพาวิลเลียนสินค้าเกษตรและผลไม้ไทย ซึ่งไทยนำผลไม้ที่ได้รับความนิยมสูง อาทิ ทุเรียนแช่แข็ง มะม่วงน้ำดอกไม้ มะพร้าว ขนุน ลองกอง ลำไย กระเจี๊ยบ และส้มโอ เป็นต้น พร้อมทั้งสินค้าเกษตรแปรรูป ผลไม้อบแห้ง และผลไม้แช่อิ่ม เพื่อให้ผู้บริโภคชาวจีนและชาวต่างประเทศได้ลิ้มลองรสชาติความอร่อย พร้อมกิจกรรม Business Matching ตอกย้ำภาพลักษณ์ "สินค้าเกษตรไทยคุณภาพระดับโลก"

...

ร้อยเอก ธรรมนัส เผยว่า กระทรวงเกษตรฯ มีนโยบายยกระดับสินค้าเกษตรมูลค่าสูง มุ่งเน้นผลิตสินค้าเกษตรคุณภาพตามมาตรฐานสากลสอดคล้องความต้องการของตลาด ผลไม้ไทยเป็นสินค้าเศรษฐกิจหลักสร้างรายได้การส่งออกให้แก่ประเทศเป็นอย่างมาก ในปี 2567 ประเทศไทยมีมูลค่าการส่งออกผลไม้และผลิตภัณฑ์กว่า 309,519 ล้านบาท โดยจีนเป็นตลาดส่งออกผลไม้ไทยรายใหญ่ที่สุด และมีความต้องการผลไม้เมืองร้อนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง การเข้าร่วมงาน China International Agricultural Trade Fair (CATF) ในครั้งนี้จึงนับเป็นโอกาสดีในการกระชับความสัมพันธ์กับจีนให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น สร้างโอกาสทางการค้าใหม่ๆ ขยายฐานผู้บริโภคในตลาดที่มีศักยภาพสูงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ที่ผ่านมาไทยส่งออกผลไม้สดไปจีนกว่า 1 ล้านตัน โดยเฉพาะ “ทุเรียน มังคุด และลองกอง” ซึ่งยังคงเป็นที่ต้องการสูงอย่างต่อเนื่อง

การนำผลไม้ไทยไปเปิดตลาดในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการกระชับความสัมพันธ์ทางการค้าแล้ว ยังเป็นการขยายช่องทางการกระจายสินค้าเกษตรจากพี่น้องเกษตรกรไทยสู่ตลาดต่างประเทศ เพราะจีนเป็นหนึ่งในตลาดส่งออกสินค้าเกษตรหลักของไทย ซึ่งผมได้มอบนโยบายให้เพิ่มการส่งออก ผลไม้แปรรูปและผลิตภัณฑ์เกษตรแปรรูป เช่น ทุเรียนแช่แข็ง ทุเรียนอบกรอบ น้ำผลไม้เข้มข้น และผลิตภัณฑ์พร้อมบริโภค เพื่อขยายสัดส่วนตลาดและลดความเสี่ยงจากราคาผลไม้สดในฤดูกาล

ทั้งนี้ ได้มอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องส่งเสริมและสนับสนุนองค์ความรู้ให้แก่เกษตรกรเพื่อสร้างผลผลิตที่มีคุณภาพ พร้อมทั้งเน้นย้ำการให้ความสำคัญกับการควบคุมคุณภาพผลไม้ไทยโดยเฉพาะทุเรียนตลอดห่วงโซ่อุปทาน เพื่อให้ได้มาตรฐานเป็นที่ยอมรับของจีน รวมทั้งส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีตรวจสอบย้อนกลับ (Traceability) สามารถตรวจสอบและรับรองแหล่งที่มาของผลผลิต ซึ่งจะเป็นการยกระดับผลไม้ไทยให้มีมูลค่าสูงขึ้น ช่วยสร้างรายได้เพิ่มให้แก่เกษตรกร และยังเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประเทศคู่ค้าอีกด้วย

นายปณิธาน มีไชยโย ผู้อำนวยการองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) เปิดเผยเพิ่มเติมว่า การนำผลไม้ไทยไปประชาสัมพันธ์ให้ชาวจีนและชาวต่างชาติได้สัมผัสและชิมรสชาติในครั้งนี้ กระแสตอบดีเยี่ยม ราชินีผลไม้อย่างทุเรียนของไทยยังแรงดีไม่มีตก ส่วนมะม่วงน้ำดอกไม้ มะพร้าวน้ำหอม และขนุน รวมทั้งผลไม้แช่อิ่ม ผลไม้อบแห้ง ก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างมาก การเข้าร่วมงาน CATF ในครั้งนี้นับเป็นการประชาสัมพันธ์ให้ชาวจีนได้รู้จักผลไม้ไทย

รวมทั้งผลไม้แปรรูปที่หลากหลายมากขึ้น เป็นการเปิดประตูการค้าใหม่ ๆ ที่จะส่งเสริมความร่วมมือระหว่างผู้ผลิตไทยกับผู้ประกอบการชาวจีนอย่างยั่งยืน และยังเป็นการผลักดันสินค้าเกษตรภายใต้แนวคิด BCG Economy Model (Bio–Circular–Green Economy) ประกอบด้วย Bio Economy: นำนวัตกรรมมาต่อยอดเพิ่มมูลค่าสินค้า Circular Economy: จัดการห่วงโซ่อุปทานอย่างมีประสิทธิภาพ Green Economy: ใช้ทรัพยากรเกษตรอย่างสมดุลและยั่งยืน

...

ทั้งนี้ ภายในงาน อ.ต.ก.ได้นำผลไม้ไทย อาทิ ทุเรียนแช่แข็ง มะม่วงน้ำดอกไม้ มะพร้าว ขนุน ลองกอง ลำไย กระเจี๊ยบ และส้มโอ พร้อมทั้งสินค้าเกษตรแปรรูป ผลไม้อบแห้งและผลไม้แช่อิ่ม พร้อมจัด Business Matching เปิดเวทีให้ผู้ซื้อและผู้ประกอบการได้เจรจาธุรกิจกับเกษตรกรและผู้ผลิตไทยโดยตรง นับเป็นอีกก้าวสำคัญในการขับเคลื่อนสินค้าเกษตรไทยสู่เวทีการค้าโลกทั้งในรูปแบบ B2B (Business to Business) และ B2C (Business to Consumer) ตอกย้ำภาพลักษณ์สินค้าเกษตรไทยคุณภาพระดับโลก และสร้างความเชื่อมั่นให้แก่คู่ค้าต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง.