อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร รายงาน กรณีเกิดภัยพิบัติด้านอุทกภัยที่ จ.สุโขทัย จากการตรวจสอบด้วย จนท.ลงพื้นที่ พบว่าส่วนมากเป็นนาข้าวที่เก็บเกี่ยวแล้วและพื้นที่รับน้ำ โดยมีพื้นที่การเกษตรที่คาดว่าจะเสียหายอยู่ 2,087 ไร่ ใน 3 อำเภอ 5 ตำบล 9 หมู่บ้าน

นายพีรพันธ์ คอทอง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า ตามที่ได้มีสื่อบางสำนักรายงานข่าว “จังหวัดสุโขทัย มีพื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหายจากอุทกภัย จำนวน 4.3 หมื่นไร่ เป็นพื้นที่นาข้าว จำนวน 39,982 ไร่ โดยเป็นข้อมูลจากภาพถ่ายดาวเทียมจิสด้า” นั้น สำนักงานเกษตรจังหวัดสุโขทัยได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบงานภัยพิบัติ (ด้านพืช) ลงพื้นที่ตรวจสอบและรายงานข้อมูลความเสียหายเบื้องต้น พร้อมให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยพิบัติด้านพืช ต่อคณะอำนวยการติดตามและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านพืชแล้ว

จากข้อมูลที่ได้รับมา ยืนยันว่าสำนักงานเกษตรจังหวัดสุโขทัยได้ประสานข้อมูลร่วมกับสำนักงานเกษตรอำเภอและผู้นำท้องถิ่น เพื่อยืนยันตัวเลขพื้นที่ความเสียหายจากภาพถ่ายดาวเทียมจิสด้าแล้ว พื้นที่ที่กำลังประสบภัยพิบัติน้ำท่วมส่วนใหญ่เป็นพื้นที่นาที่เก็บเกี่ยวผลผลิตแล้ว และพื้นที่รับน้ำ รวมทั้งพื้นที่บางระกำโมเดล ขณะนี้มีพื้นที่การเกษตรในจังหวัดสุโขทัยได้รับผลกระทบ จำนวน 3 อำเภอ 5 ตำบล 9 หมู่บ้าน ที่รายงานข้อมูลความเสียหายเบื้องต้นจากอุทกภัย (ด้านพืช) มีพื้นที่การเกษตรที่คาดว่าจะเสียหาย จำนวน 2,087 ไร่ ประกอบด้วย

...

1. อำเภอเมืองสุโขทัย พื้นที่การเกษตรที่คาดว่าจะเสียหาย จำนวน 2,015 ไร่ (จำนวน 3 ตำบล 7 หมู่บ้าน)
2. อำเภอสวรรคโลก พื้นที่การเกษตรที่คาดว่าจะเสียหาย จำนวน 50 ไร่ (จำนวน 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน)
3. อำเภอกงไกรลาศ พื้นที่การเกษตรที่คาดว่าจะเสียหาย จำนวน 22 ไร่ (จำนวน 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน)

กรมส่งเสริมการเกษตรห่วงใยเกษตรกร จึงได้กำหนดแนวทางการบริหารจัดการภัยพิบัติในช่วงฤดูฝน ปี 2567 ให้แก่เจ้าหน้าที่กรมส่งเสริมการเกษตรไว้ใช้เป็นแนวทางการติดตาม ป้องกันและลดผลกระทบของพื้นที่การเกษตรจากสถานการณ์ภัยพิบัติ เพื่อช่วยลดความเสียหายต่อพื้นที่เกษตร โดยแบ่งออกเป็น 3 ระยะ และแนวทางการดำเนินการ 4 ด้าน ดังนี้
ระยะที่ 1) ก่อนเกิดภัย ได้แก่ ด้านการป้องกัน (Prevention) และด้านการเตรียมความพร้อม (Preparation)
ระยะที่ 2) ขณะเกิดภัย ได้แก่ ด้านการเผชิญเหตุ (Response)
ระยะที่ 3) หลังเกิดภัย ได้แก่ ด้านการฟื้นฟู (Recovery) และได้จัดตั้ง ศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการณ์ภัยพิบัติด้านพืช กรมส่งเสริมการเกษตร เพื่อ

1. ติดตามรวบรวมข้อมูลสถานการณ์ภูมิอากาศ สถานการณ์น้ำ สถาณการณ์การเพาะปลูก และสถานการณ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อวิเคราะห์ประมวลผล จัดทำแผนที่ และประเมินความเสี่ยงที่อาจจะส่งผลกระทบและความเสียหายกับพืชผลทางการเกษตร และแจ้งเตือนภัยให้เกษตรกรทราบอย่างรวดเร็วและทันต่อสถานการณ์
2. ติดตาม เร่งรัด การดำเนินงานตามนโยบาย มาตรการ แผนงาน/โครงการ และแนวทางในการป้องกัน และแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านพืช และรายงานให้ศูนย์ติดตามแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
3. ติดตาม เร่งรัด การดำเนินการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยพิบัติด้านพืช ให้เกิดความรวดเร็วและถูกต้องเหมาะสมต่อสถานการณ์
4. รายงานข้อมูลความเสียหาย และการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยพิบัติด้านพืช ต่อคณะอำนวยการติดตามและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านพืช
5. ประสานข้อมูลกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภายในและภายนอกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
6. จัดทำคำแนะนำข้อมูลข่าวสาร และข้อเสนอที่เหมาะสมกับสถานการณ์ รวมถึงคำแนะนำในการปฏิบัติดูแลรักษาพืชตามสถานการณ์ต่างๆ เพื่อประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้แก่เกษตรกร

...